“มนัญญา” จี้ปลดล็อกสารชีวภัณฑ์ออกจากบัญชีวัตถุอันตรายชนิดที่ 2

กรุงเทพฯ  1 ก.ค. – “มนัญญา” เดินหน้าเปิดทางเกษตรกรใช้สารชีวภัณฑ์และสารชีวภาพจากภูมิปัญญาท้องถิ่น เร่งกรมวิชาการเกษตรปรับจากบัญชีวัตุอันตรายชนิดที่ 2 เป็นชนิดที่ 1 ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตรายภายในเดือนกรกฎาคม ให้ครอบครองได้โดยแจ้งต่อกรมวิชาการเกษตร แต่ไม่ต้องขึ้นทะเบียนการผลิต หวังใช้ในแปลงเกษตรอินทรีย์ ดันไทยเป็นครัวโลก


นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สั่งการให้กรมวิชาการเกษตรทำรายละเอียด เพื่อกำหนดแนวทางปรับสารชีวภัณฑ์และสารชีวภาพ ซึ่งสกัดจากธรรมชาติในบัญชีวัตถุอันตรายชนิดที่ 2 (วอ.2) มาอยู่ในบัญชีวัตถุอันตรายชนิดที่ 1 (วอ.1) ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 ซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรที่ประสงค์ใช้แจ้งกรมวิชาการเกษตรเพื่อทราบเท่านั้น แต่ไม่ต้องขึ้นทะเบียนการผลิต เพราะไม่ต้องการให้พึ่งพิงกับสารเคมีกำจัดแมลงนำเข้าเพียงทางเดียว แต่หันกลับมาใช้ภูมิปัญญาไทยในการทำเกษตร เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นครัวของโลก

นางสาวมนัญญา กล่าวว่า การกำหนดให้สารชีวภัณฑ์และสารชีวภาพเป็น วอ.1 จะเป็นการเปิดทางเบื้องต้น เพื่อให้เกษตรกรและคนรุ่นใหม่คิดค้นหรือพัฒนาสูตรของสารกำจัดแมลง เพื่อใช้ในแปลงเกษตรให้มีหลากชนิดขึ้น โดยจะลดความกังวลของเกษตรกรต้องการผลิตสารกำจัดแมลงเพื่อใช้เองว่าจะผิดกฎหมาย แต่หากต้องการผลิตเพื่อการค้าจะต้องขึ้นทะเบียนและแจ้งการดำเนินการตามหลักเกณฑ์วิธีการ วอ. 2 ทั้งนี้ กำชับกรมวิชาการเกษตรกำหนดมาตรการให้เสร็จใน 2 สัปดาห์ เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนได้ภายในเดือนกรกฎาคมนี้


ทั้งนี้ ในเอกสารเผยแพร่ของกรมวิชาการเกษตรระบุว่าวัตถุอันตรายชนิดที่ 1 นั้น ไม่มีวัตถุอันตรายที่กรมวิชาการเกษตรรับผิดชอบ ส่วนวัตถุอันตรายชนิดที่ 2 คือ วัตถุอันตรายที่การผลิต นำเข้า ส่งออก และมีไว้ในครอบครองจะต้องขึ้นทะเบียนและแจ้งดำเนินการต่อกรมวิชาการเกษตรตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนด ประกอบด้วย สารชีวภัณฑ์รักษาโรคพืช เช่น บาซิลลัส ทูริงเยนซิส สารควบคุมการเจริญเติบโตของแมลง เช่น ไวต์ออยล์ รีไฟน์ ปิโตรเลียมออยล์ ส่วนสารชีวภาพ คือ ผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากพืชจนได้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสำคัญหรือจุลชีพที่ทำขึ้น เพื่อใช้ในการป้องกัน กำจัด ทำลาย ควบคุมแมลงหรือสัตว์ที่เป็นศัตรูพืช โรคพืช วัชพืช และการควบคุมการเจริญเติบโตของพืช 

“ประเทศไทยมีสมุนไพรกำจัดแมลงหรือวัชพืชหลายชนิด ใช้มาก คือ สะเดา แต่สะเดาถูกจัดไว้ในบัญชีวัตถุอันตรายชนิดที่ 2 หรือ วอ.2 ทางวิชาการอาจจะท้วงติงเรื่องความเข้มข้นหรือยกอุปสรรคต่าง ๆ ทำให้การจะใช้ยากลำบาก อีกทั้งหากเกษตรกรจะผลิตใช้ต้องแจ้งขึ้นทะเบียนต่อกรมวิชาการเกษตร ดังนั้น คนไทยมีภูมิปัญญาไทยอยู่แล้ว หน่วยราชการมีหน้าที่อำนวยความสะดวกในการนำมาใช้ อีกทั้งเป็นการส่งเสริมการใช้ประโยชน์สมุนไพรด้วย สำหรับอัตราส่วนการใช้สารชีวภัณฑ์และสารชีวภาพนั้น ทางฝ่ายวิชาการต้องวิจัยเพื่อกำหนด แต่ไม่ใช่ปิดกั้นหรือห้ามผลิต ทำให้เกษตรกรไทยต้องพึ่งพาต่างชาติ ในอนาคตอาจมีสารสกัดจากพืชชนิดเยี่ยมก็เป็นได้ ลดการเสียดุลทางการค้าและลดสารเคมีตกค้างในร่างกาย และจะเป็นแนวทางส่งเสริมให้ไทยของไทยเป็นครัวโลกอย่างสมบูรณ์” นางสาวมนัญญา กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ