กรุงเทพฯ 24 ม.ค. – นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยนายกฯ ย้ำไทย “ไม่เผา ไม่รับซื้อ ไม่นำเข้า สินค้าเกษตรที่ผ่านการเผา” พร้อมขานรับข้อสั่งการด่วน เร่งขึ้นบินลดฝุ่น ปรับแผนทำงานเพิ่มเติมในเวลากลางคืน
นายอิทธิ เปิดเผยว่าจากที่นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการด่วนแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 และให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตรร่วมแก้ปัญหา พร้อมทั้งให้ขยายเวลาเพิ่มการขึ้นบินปฏิบัติการต่อเนื่องในการเจาะชั้นบรรยากาศเร่งระบายและลดการสะสมของฝุ่น PM 2.5 โดยกรมฝนหลวงและการบินเกษตรจะปรับแผนการทำงานเพิ่มเติมในเวลากลางคืน ซึ่งได้ทำหนังสือขออนุญาตบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด เพื่อช่วยเหลือพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ซึ่งจะพิจารณาวางแผนการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด
ทั้งนี้ กรมฝนหลวงฯ ได้เริ่มบินปฏิบัติการมาตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค.67 นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังสั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อาทิ กรมการข้าว ลงพื้นที่ให้ความรู้แก่เกษตรกรในการทำเกษตรกรรมแบบปลอดการเผา เพื่อลดปริมาณฝุ่นฯ ให้ได้มากกว่าปีที่ผ่านมา สำหรับการปฏิบัติการบรรเทาฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศเกินค่ามาตรฐาน โดยกรมฝนหลวงฯ เป็นการใช้เทคนิคระบายฝุ่นก่อนเคลื่อนที่เข้าสู่พื้นที่เป้าหมาย และระบายฝุ่นออกจากพื้นที่เป้าหมายด้วยเทคนิคการลดอุณหภูมิชั้นบรรยากาศอุณหภูมิผกผันด้วยการสเปรย์น้ำปรับลดอุณหภูมิและการโปรยน้ำแข็งแห้งเพื่อระบายฝุ่นละอองให้ลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศที่สูงขึ้น และเทคนิคก่อเมฆหรือเลี้ยงเมฆให้อ้วนด้วยการนำศาสตร์ตำราฝนหลวงพระราชทานในขั้นตอนที่ 1 (ก่อกวน) และขั้นตอนที่ 2 (เลี้ยงให้อ้วน) มาประยุกต์ใช้เพื่อให้เมฆมีความหนาแน่นมากยิ่งขึ้นในการดูดซับและระบายฝุ่นละอองออกจากพื้นที่เป้าหมายทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ – ปริมณฑล รวมถึงพื้นที่ทางภาคเหนือ
นายอิทธิ ยังระบุด้วยว่า วานนี้ (23 ม.ค.) ตนได้ร่วมการประชุมวิชาการนานาชาติ ภายใต้หัวข้อ “การเฉลิมฉลองทศวรรษแห่งความร่วมมือ ในระดับภูมิภาคเพื่ออนาคตเกษตรกรรมที่ยั่งยืน” และงาน 10th Anniversary of ASEAN Climate Resilience Network (ASEAN-CRN) ซึ่งประเทศไทย โดยกระทรวงเกษตรฯ กรมวิชาการการเกษตร เป็นเจ้าภาพจัด เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในภาคการเกษตร โดยเฉพาะปัญหา PM 2.5 ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำว่า ประเทศไทยพร้อมจะเป็นผู้นำในการ “ไม่เผาพืชทางการเกษตร และไม่รับซื้อ ไม่นำเข้า สินค้าเกษตรที่ผ่านการเผา” นอกจากนี้ ในการประชุมดังกล่าวยังได้ขอความร่วมมือจากประเทศสมาชิกอาเซียน ให้หยุดการเผาไหม้ให้ได้มากที่สุด. -511-สำนักข่าวไทย