กรุงเทพฯ 20 มิ.ย.- นายกสมาคมค้าทองคำ วิเคราะห์ขบวนการฟอกเงินด้วยการซื้อทองคำ แม้จะมีกฎหมาย ปปง.คุมเข้ม แต่ก็เป็นเรื่องยาก หากผู้ประกอบการจะตรวจสอบเองว่าลูกค้ารายใดเกี่ยวข้องกับเครือข่ายค้ายาเสพติด หรือการฟอกเงิน
กรณีตำรวจ 4 หน่วยสนธิกำลังทลายเครือข่ายการฟอกเงินจากยาเสพติด หลังพบว่ามีการฟอกเงินผ่านธุรกิจบริษัทน้ำมันและร้านขายทอง เกือบ 200,000 ล้านบาท
ร้านทองเก่าแก่ย่านวังบูรพา เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่พบมีหลักฐานการโอนเงินกว่า 600 ล้านบาท จากเครือข่ายยาเสพติดเข้ามายังบัญชีของบริษัทโดยตรง อีกทั้งยังตรวจสอบพบว่าในรอบปีที่ผ่านมา บริษัทแห่งนี้มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น จากหลักสิบล้าน เป็นหลักพันล้านบาท นำไปสู่การจับกุมประธานและกรรมการบริษัททั้ง 10 คน ขณะเดียวกัน ผลการสืบสวนของตำรวจยังพบว่า มีร้านทองย่านเยาวราชอีก 2-3 แห่ง ที่รับฟอกเงินให้กับขบวนการค้ายาเสพติด
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุสาเหตุที่ขบวนการค้ายาเสพติดเลือกฟอกเงินผ่านร้านทอง เพราะเป็นวิธีที่ง่าย และตรวจสอบได้ยาก ขณะที่นายกสมาคมค้าทองคำ ยืนยันไม่มีข้อมูลเรื่องการฟอกเงินผ่านร้านทอง มีแต่กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐมาขอตรวจสอบประวัติการซื้อขายทองคำของลูกค้าบางรายที่อาจมีพฤติกรรมต้องสงสัย พร้อมยอมรับการจะตรวจสอบว่าลูกค้ารายใดเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดหรือการฟอกเงิน ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับผู้ประกอบการ
นายกสมาคมค้าทองคำบอกอีกว่า ที่ผ่านมาพยายามกำชับให้สมาชิกร้านทองปฏิบัติตามกฎหมายสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. อย่างเคร่งครัด ซึ่งมีสาระสำคัญหลักๆ กำหนดให้ผู้ประกอบการร้านค้าทองคำต้องรายงานข้อมูลต่อ ปปง. กรณีมีลูกค้ามาซื้อหรือขายทองคำ ด้วยเงินสดมูลค่า 2 ล้านบาทขึ้นไป และกรณีลูกค้ามาซื้อหรือขายทองคำ ด้วยเงินสด เช็ค เงินโอน หรืออื่นๆ มีพฤติกรรมต้องสงสัยว่าจะเข้าข่ายการฟอกเงิน โดยไม่มีการกำหนดวงเงินขั้นต่ำ ให้รีบแจ้ง ปปง.ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ตรวจพบ
ในส่วนที่กำหนดให้ลูกค้าต้องแสดงตน คือ การซื้อหรือขายทองคำ มูลค่าตั้งแต่ 100,000 บาทขึ้นไป หากลูกค้าเป็นบุคคลธรรมดา ให้แสดงบัตรประชาชน ระบุอาชีพ สถานที่ทำงาน ข้อมูลการติดต่อ และลงลายมือชื่อผู้ทำธุรกรรม ลูกค้านิติบุคคลต้องแสดงชื่อนิติบุคคล เลขผู้เสียภาษี และหลักฐานสำคัญในการแสดงตน เช่น หนังสือรับรองฯ สถานที่ตั้ง เบอร์ติดต่อ และชื่อผู้มีอำนาจลงนามแทน ฯลฯ สำหรับข้อมูลการแสดงตนให้เก็บไว้ 5 ปี โดยยังไม่ต้องรายงานต่อ ปปง. เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ หากมีธุรกรรมของลูกค้ารายใดไปเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน
ปัจจุบันทั่วประเทศ มีร้านค้าทองคำอยู่กว่า 6,000 แห่ง ร้านค้าทองคำขนาดใหญ่มีรายได้แต่ละปีเป็นหลักล้านล้านบาท นายกสมาคมค้าทองคำจึงมองว่า หากจะตรวจสอบว่าร้านทองใดเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน ไม่ควรดูที่รายได้เพียงอย่างเดียว แต่ควรตรวจสอบให้รอบด้าน โดยเฉพาะพฤติกรรมต้องสงสัยของลูกค้าที่มาซื้อหรือขายทองคำ.-สำนักข่าวไทย