ปมร้อนค้านย้ายศาลเจ้าแม่ทับทิมออกจากที่ดินจุฬาฯ

กรุงเทพฯ 15 มิ.ย.- นิสิตจุฬาฯ-ชาวบ้านคัดค้านการย้ายศาลเจ้าแม่ทับทิมออกจากพื้นที่เดิม ขณะที่ทายาทผู้ดูแลศาล วอนจุฬาฯ จัดสร้างศาลใหม่ในสถานที่ที่เหมาะสมให้แล้วเสร็จ ก่อนดำเนินการย้าย



บรรยากาศที่ศาลเจ้าแม่ทับทิม ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเซียงกงเก่า ซอยจุฬาฯ 26 หลังมีกระแสข่าวว่า สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เตรียมเข้ารื้อถอนศาล โดยก่อนหน้านี้ได้ทำหนังสือให้ผู้ดูแลขนย้ายทรัพย์สินออกจากพื้นที่ภายในวันนี้ (15 มิ.ย.) เพื่อจะใช้พื้นที่ดังกล่าวสร้างคอนโดมิเนียม


ล่าสุด พบว่าตั้งแต่ช่วงเช้า มีบรรดานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, นิสิตเก่า และชาวบ้านที่เคารพศรัทธา ทยอยเดินทางมากราบสักการะ “องค์หม่าโจ้ว” หรือ “เจ้าแม่ทับทิม” ตลอดทั้งวัน ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการไล่รื้อถอนศาลเจ้าแม่ทับทิม ที่มีความเป็นมายาวนานรวมกว่า 150 ปี แม้ศาลเจ้าแห่งนี้จะถูกย้ายมาจากศาลเดิม คือ บริเวณสะพานเหลืองตั้งแต่ปี 2513 แต่ตัวสถาปัตยกรรมมีความเป็นเอกลักษณ์ มีลักษณะเป็นตัวตึกที่ก่อสร้างด้วยปูน ทำลวดลายคล้ายศาลเดิมที่ทำจากไม้ ขณะที่โบราณวัตถุภายใน เช่น ตัวองค์หม่าโจ้ว มีความเก่าแก่กว่า 100 ปี และตลอดทั้งวันไม่ปรากฏว่ามีผู้เกี่ยวข้องเข้ามารื้อถอนศาลแต่อย่างใด

ด้านนายธัชฐิราธร นิธิวุฒิยาภรรณ์ ทายาทผู้ดูแลศาลเจ้าแม่ทับทิม รุ่นที่ 4 ระบุว่า ทายาทผู้ดูแลศาลไม่ได้ปฏิเสธการย้าย เพราะจุฬาฯ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดิน แต่ต้องการความชัดเจนเรื่องสถานที่ตั้งศาลแห่งใหม่ ซึ่งเคยตกลงกันว่า จุฬาฯ จะจัดสร้างให้และควรทำให้แล้วเสร็จเพื่อทำพิธีย้าย “องค์หม่าโจ้ว” ไปยังศาลใหม่ เพราะทราบดีว่าจุฬาฯ มีแนวคิดย้ายศาลแห่งนี้มากว่า 10 ปีแล้ว แต่ไม่มีความชัดเจนใดๆ มีแต่การย้ายชุมชนชาวบ้านรอบศาลเจ้าออกไป และกลายเป็นที่จอดรถ


จากนั้นในเดือนมีนาคม 2563 สำนักจัดการทรัพย์สินจุฬาฯ ทำหนังสือมาให้ย้ายออกภายในวันที่ 15 มิถุนายน และเมื่อสอบถามไปยังสถานที่ตั้งศาลแห่งใหม่ ได้รับการชี้แจงว่า จะจัดสร้างบริเวณอุทยาน 100 ปี จุฬาฯ ตรงอุโมงค์ทางจอดรถบริเวณชั้น 2 แต่ในขณะที่ชั้น 3 ถูกกำหนดเป็นทางเดินและฟิตเนส จึงมองว่าไม่เหมาะสม ขณะเดียวกัน ยังไม่มีการจัดสถานที่ให้ผู้ดูแลศาลเจ้า ซึ่งอยู่กันมาหลายชั่วอายุคน ที่สำคัญตัวศาลเจ้าแห่งใหม่ยังไม่มีการก่อสร้างเกิดขึ้น จึงรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง และอยากเรียกร้องให้เร่งจัดหาสถานที่ตั้งศาลแห่งใหม่ที่เหมาะสม พร้อมก่อสร้างศาลที่คงไว้ ซึ่งสถาปัตยกรรมแบบเดิมให้แล้วเสร็จ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง