เร่งอุทธรณ์รับเงินเยียวยาเกษตรกรภายในพรุ่งนี้

กรุงเทพฯ  4 มิ.ย. – รมว.เกษตรฯ เตือนเกษตรกรที่ถูกตัดสิทธิ์และไม่ได้รับเงินเยียวยาให้เร่งยื่นอุทธรณ์ภายในวันที่ 5 มิ.ย. โดยคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จะประชุมนัดแรก 8 มิ.ย. ย้ำจะช่วยเหลือเกษตรกรให้ทั่วถึงและครอบคลุม ไม่มีตกหล่น


นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ขอให้เกษตรกรที่ถูกตัดสิทธิ์หรือไม่ได้รับเงินเยียวยาให้เร่งมายื่นอุทธรณ์ภายในวันพรุ่งนี้ (5 มิ.ย.) ที่หน่วยงานรับขึ้นทะเบียนเกษตรกร 8 หน่วยในส่วนภูมิภาค ได้แก่ สำนักงานเกษตรอำเภอ/จังหวัด สำนักงานประมงจังหวัด/อำเภอ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด/อำเภอ สำนักงานหม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ เขต/เครือข่าย สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) จังหวัด/สาขา เขตระบบบริหารอ้อยและน้ำตาลทราย 1-8 และศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายภาค 1-4 และสำนักงานสรรพสามิตจังหวัด ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถไปแจ้งอุทธรณ์ที่หน่วยงานใดก็ได้ใกล้บ้าน เช่น ขึ้นทะเบียนเกษตรกรชาวสวนยาง แต่อยู่ใกล้สำนักงานเกษตรอำเภอให้ไปแจ้งได้มีเจ้าหน้าที่รับเรื่อง เพื่อตรวจสอบทุกกรณี ส่วนระบบออนไลน์เข้าใช้บริการที่ www.moac.go.th 


สำหรับคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์สิทธิ์มีนายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ เป็นประธาน โดยมอบนโยบายไปแล้วว่าให้ช่วยเหลือเกษตรกรอย่างทั่วถึงตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาล ยกเว้นกลุ่มที่คณะกรรมการการกลั่นกรองการใช้เงินกู้ได้เสนอ ครม.มีมติไม่จ่าย เช่น ผู้ที่อยู่ในโครงการเราไม่ทิ้งกัน ข้าราชการบำนาญ ผู้ประกันตน ข้าราชการประจำ และลูกจ้างราชการ ซึ่งนอกเหนือจากมติ ครม. ให้ยกเว้น ทางกระทรวงเกษตรฯ สามารถจ่ายให้เกษตรกรที่มีคุณสมบัติครบถ้วนทุกราย

นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า เมื่อมีการแจ้งอุทธรณ์ หากเรื่องใดหน่วยงานในส่วนภูมิภาคพิจารณาและสรุปผลได้ ให้ดำเนินการทันที หากนอกเหนืออำนาจต้องเร่งส่งมายังคณะกรรมการฯ ระดับกระทรวง โดยปลัดกระทรวงเกษตรฯ จะประชุมคณะกรรมการครั้งแรกวันที่ 8 มิถุนายนนี้ ขอให้เกษตรกรกระทรวงเกษตรฯ ที่ต้องการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 ทุกคน 


ด้านนายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ยอดโอนเงินล่าสุด 7,103,721 ราย เป็นเงิน 35,518.60 ล้านบาท สำหรับจำนวนเกษตรกรซึ่งบัญชีธนาคารมีปัญหาหรือไม่ได้แจ้งหมายเลขธนาคารมาในสัปดาห์ที่แล้วมี  356,080 ราย จากการที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาและหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ส่วนภูมิภาคทั่วประเทศเร่งประชาสัมพันธ์และไปหาเกษตรกรถึงบ้าน ทำให้ได้บัญชีธนาคารมาแล้ว คงเหลืออยู่ระหว่างติดตาม 62,714 ราย ทั้งนี้ หมายเลขบัญชีของเกษตรกรที่ได้เพิ่มมา 293,366 ราย ส่วนใหญ่เป็นบัญชีต่างธนาคาร ซึ่ง ธ.ก.ส.จะส่งชื่อและหมายเลขบัญชีให้ธนาคารนั้น ๆ ตรวจสอบความถูกต้อง คาดว่าจะแจ้งกลับมายัง ธ.ก.ส.วันพรุ่งนี้ จากนั้นธ.ก.ส.จะโอนให้วันที่ 8 มิถุนายน

“ขอให้เกษตรกรที่ยังไม่ได้แจ้งหมายเลขบัญชี เร่งแจ้งได้ที่ ธ.ก.ส.ทุกสาขาใกล้บ้านหรือแจ้งผ่านระบบออนไลน์ที่ www.เยียวยาเกษตรกร.com เพื่อจะได้โอนเงินให้ตามสิทธิ์เร็วที่สุด” นายกษาปณ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส กับมีลมแรงในภาคอีสาน ส่วนบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคอีสานตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

เรือใบอิตาลีที่สวยงามที่สุดในโลกเดินทางถึงภูเก็ตแล้ว

ภูเก็ตคึกคัก เรือใบอิตาลีที่ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดลำหนึ่งของโลก ออกเดินทางมาแล้วรอบโลก ได้เข้าจอดเทียบท่าจังหวัดภูเก็ต โดยมีทัพเรือภาคที่ 3 ให้การต้อนรับทหารเรืออิตาลีกว่า 150 นาย อย่างอบอุ่นพร้อมเปิดให้ประชาชนขึ้นชมเรือฟรีได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.)

พระเปย์สีกา ช่องโหว่ผลประโยชน์ในดงขมิ้น

รองเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในมหาสารคาม ขอลาสิกขากลางดึก หลังถูกแฉ เป็นพระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ขณะที่รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งตรวจสอบว่า เป็นเงินส่วนตัว หรือ เงินวัด เพราะจะมีความผิดแตกต่างกัน