เกษตรฯ ร่วมมือ FAO แก้ปัญหาประชากรขาดโอกาสเข้าถึงอาหารคุณภาพดี

กรุงเทพฯ  24 ก.ค. – รมว.เกษตรฯ สั่งทุกหน่วยงานกำหนดแนวทางให้ประชากรไทยเข้าถึงอาหารที่ดีต่อสุขภาพและปลอดภัยในราคาที่เหมาะสม สอดคล้องรายงานประจำปี 2563 ของ FAO ที่ระบุว่าโควิด-19 ทำให้ทั่วโลกมีคนขาดสารอาหารมากถึง 83 – 132 ล้านคน


นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า สั่งการให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เดินหน้านโยบายความมั่นคงอาหาร โดยพัฒนาระบบสารสนเทศการเกษตรเชิงพื้นที่เพื่อการบริหารจัดการความมั่นคงด้านอาหาร พัฒนาระบบการจัดทำปฏิทินผลผลิตสินค้าเกษตรรายเดือนระดับจังหวัด (Provincial Crop Calendar) เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการวางแผนพัฒนาการผลิตและบริหารจัดการอาหารให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ทั้งในสถานการณ์ปกติและสถานการณ์ที่วิกฤติ รวมถึงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วย 

ทั้งนี้ จากการที่กระทรวงเกษตรส่งผู้แทนประชุมแถลงรายงานสถานการณ์ความมั่นคงอาหารและโภชนาการโลก (SOFI) ประจำปี 2563 ซึ่งมีนายอันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติเป็นประธาน ตามรายงานขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติหรือ FAO พบว่า ปัจจุบันโลกผลิตอาหารได้เพียงพอกับจำนวนประชากร แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเข้าถึงอาหารได้ โดยตั้งแต่ปี 2557 มีผู้หิวโหยมีเพิ่มขึ้นประมาณ 10 ล้านคน/ปี นอกจากนี้ วิกฤติโควิด-19 อาจส่งผลให้เพิ่มปริมาณคนขาดสารอาหารมากถึง 83 – 132 ล้านคนในปีนี้ ขณะที่ประชากรโลกกว่า 3,000 ล้านคนไม่สามารถเข้าถึงแหล่งอาหารที่ดีต่อสุขภาพได้เนื่องจากมีราคาแพงมากกว่าอาหารปกติถึง 5 เท่า 


ดังนั้น FAO เสนอแนะว่าจำเป็นต้องกำหนดนโยบายที่ปรับเปลี่ยนระบบของอาหารด้วยการลดต้นทุนของอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ รวมทั้งเพิ่มโอกาสของประชากรในการเข้าถึงอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ซึ่งต้องหาซื้อได้ในราคาที่เหมาะสม เพื่อนำไปสู่ระบบอาหารที่ยั่งยืนและที่สามารถปรับตัวได้ และบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนภายในปี 2573 ตามที่กำหนดไว้ ซึ่งอัครราชทูต ฝ่ายเกษตรของไทยประจำ FAO รายงานว่า อยู่ระหว่างจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายแก่ทุกภาคส่วนได้แก่ แนวทางปฏิบัติเชิงนโยบายด้านระบบอาหารและโภชนาการ ด้านเกษตรเชิงนิเวศและนวัตกรรม ซึ่งจะนำเข้าสู่การพิจารณารับรองในการประชุม CFS 47 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 

“ทุกหน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯ จะร่วมกันกำหนดแนวทางตามข้อแนะนำของ FAO ป้องกันและบรรเทาปัญหาการขาดแคลนอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ที่สำคัญ คือ การเพิ่มให้คนไทยมีโอกาสเข้าถึงอาหารที่มีคุณภาพ ปลอดภัยในราคาที่เหมาะสม” นายเฉลิมชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”