เอ้กบอร์ดเร่งส่งออกไข่ไก่แก้ราคาตกต่ำ

กรุงเทพฯ  25 พ.ค. – เอ้กบอร์ดเร่งแก้ไขปัญหาไข่ไก่ล้นตลาด เห็นชอบ 4 แนวทางปฏิบัติ ผลักดันส่งออก ปลดไก่ไข่ยืนกรง จำหน่ายไข่ไก่ผ่านร้านธงฟ้า และงดนำไข่เชื้อพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่เข้าฟัก


นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ (เอ้กบอร์ด) โดยกล่าวว่า ปัจจุบันผลผลิตไข่ไก่เกินความต้องการบริโภคในประเทศประมาณ 3 ล้านฟองต่อวัน ทำให้สะสมในระบบจนเกิดภาวะไข่ไก่ล้นตลาด ราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มปรับตัวลดลงอยู่ที่ 2.40 บาทต่อฟอง ซึ่งต่ำกว่าต้นทุนการผลิตที่ 2.68 บาทต่อฟอง เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบในหลักการแก้ไขปัญหาราคาไก่ไข่ตกต่ำเร่งด่วน ประกอบด้วย 4 มาตรการ คือ การผลักดันการส่งออกไข่ไก่ โดยมอบหมายให้กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์รับดำเนินการช่วยเหลือสนับสนุนการส่งออกไข่ไก่ 100 ล้านฟอง และผู้ประกอบการอีก 100 ล้านฟอง ปลดแม่ไก่ยืนกรง 3 ล้านตัว มอบหมาย โดยให้กรมปศุสัตว์ประสานขอความร่วมมือผู้เลี้ยงไข่ไก่รายใหญ่ จำหน่ายไข่ไก่ผ่านร้านธงฟ้าทั่วประเทศ และงดนำไข่เชื้อพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ (PS) เข้าฟัก 5 – 10 สัปดาห์ ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์จะศึกษาผลกระทบรอบด้านและจะขอความร่วมมือผู้ประกอบการไก่ไข่พันธุ์ต่อไป

นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้สถานการณ์ของโควิด-19 ที่ระบาดเป็นวงกว้างในเดือนมีนาคม อีกทั้งต่อมามีการประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ทำให้ประชาชนตื่นตระหนกจึงซื้อไข่ไก่กักตุนไว้บริโภคจนเกิดภาวะไข่ไก่ขาดตลาด ทางกระทรวงพาณิชย์ โดยคณะกรรมกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการจึงแก้ปัญหาโดยห้ามส่งออกไข่ไก่ไปต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม – 30 เมษายน เพื่อให้ปริมาณไข่ไก่เพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ แต่ขณะนี้สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลงตามลำดับ แต่ไทยยังมีมีภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ห้างร้านหยุดกิจการ และนักท่องเที่ยวลดลง ประกอบกับเดือนพฤษภาคมตลาดต่างประเทศยังไม่ฟื้นตัวจากการระงับการส่งออกไข่ไก่ ทั้งนี้ ปัจจุบันปริมาณการผลิตไข่ไก่ 41 ล้านฟองต่อวัน แต่ปริมาณการบริโภคภายในประเทศลดลงอยู่ที่ 38 ล้านฟองต่อวัน จากภาวะปกติ 39 ล้านฟองต่อวัน ทำให้เกิดการสะสมของไข่ไก่ในตลาดจนราคารับซื้อหน้าฟาร์มตกต่ำ ซึ่งคาดว่ามาตรการทั้ง 4 ข้อ จะทำให้สถานการณ์ราคาไข่ไก่ดีขึ้น


นอกจากนี้ ที่ผ่านมากระทรวงเกษตรฯ ได้ดำเนินโครงการรณรงค์บริโภคไข่ไก่เพิ่มขึ้น มอบไข่ไก่ให้บุคลากรทางการแพทย์ขง 6 โรงพยาบาล ได้แก่ สถาบันบำราศนราดูร โรงพยาบางราชวิถี จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย รามาธิบดี พระมงกุฎเกล้า และศิริราช เพื่อจัดทำอาหารแก่บุคลากรทางการแพทย์ 30,000 ฟอง มูลค่า 75,000 บาท อีกทั้งส่งมอบไข่ไก่เพื่อแบ่งเบาภาระให้ประชาชนที่กำลังตกงานและเดือดร้อนอย่างหนักจากภัยโควิด-19 โดยส่งมอบไข่ไก่เป็นอาหาร 31,900 ฟอง มูลค่า 85,880 บาท ให้ประชาชน 8 ชุมชน 1,065 ครัวเรือน และมอบเงินสมทบให้สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ภาคใต้ 10,000 บาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง