กรุงเทพฯ 24 พ.ค.- ประชาธิปัตย์แนะ จับตา เอ้กบอร์ดเคาะเงินชดเชยส่งออกไข่ไก่ อ้าง ขยับราคาในประเทศเพื่อเกษตรกรรายย่อย เปิดทางทุนใหญ่ ฟันกำไร เสนอแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ เปิดนำเข้าเสรี ลดการผูกขาด
นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วันที่ 25 พฤษภาคมนี้ คณะกรรมการนโยบายการพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ หรือ เอ้กบอร์ด จะพิจารณาแนวทางแก้ปัญหาราคาไข่ไก่ตกต่ำ โดยปัจจุบันไข่คละหน้าฟาร์มอยู่ที่ 2.40 บาทต่อฟอง จึงต้องผลักดันให้มีการส่งออก เพื่อขยับราคาในประเทศให้สูงขึ้นบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรรายย่อย สุดท้ายผู้บริโภคคือประชาชนก็ต้องซื้อไข่ไก่แพง พร้อมเชื่อว่าทุนใหญ่ที่เป็นทั้งผู้ส่งออก ผู้นำเข้าพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ ขายลูกไก่ ไก่สาว ขายอาหารสัตว์ และขายไข่ไก่ หรือผู้ที่ทำธุรกิจในอุตสาหกรรมไข่ไก่ครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำได้ประโยชน์จากวงจรนี้ โดยได้ทั้งเงินชดเชยจากการส่งออก และฟันกำไรเพิ่มจากราคาในประเทศที่ขยับขึ้น แต่ถ้าไม่มีการชดเชยการส่งออก ก็ไม่ขาดทุน เพราะต้นทุนต่ำกว่าชาวบ้านอยู่แล้ว แถมควบคุมราคาได้ตามใจชอบ อยากให้ราคาตกเพื่อบีบให้เกิดนโยบายที่ตัวเองได้ประโยชน์ก็เทไข่ไก่จากห้องเย็นเข้าสู่ระบบเพื่อดั๊มพ์ราคา ส่วนเกษตรกรรายย่อยที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด ได้แต่นั่งมองตาปริบ ๆ ทำอะไรไม่ได้ เพราะนโยบายรัฐไม่เคยแก้ปัญหาที่ต้นทาง
” อีกคำถามหนึ่งที่คาใจที่รัฐไม่เคยมีคำตอบว่าเหตุใดเรื่องที่เกี่ยวกับราคาไข่ไก่ รัฐจึงขยับเข้าไปอุ้มอย่างรวดเร็ว แต่พอสินค้าเกษตรชนิดอื่นที่เจ้าสัวไม่ได้เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ทำไมจึงไม่ได้รับการดูแลในแบบเดียวกัน เพราะถ้าคิดว่านโยบายนี้ถูกต้อง ท่านต้องใช้วิธีเดียวกันนี้กับสินค้าเกษตรชนิดอื่นด้วย ไม่ใช่ท่องคาถาไข่ไก่ขาดทุนไม่ได้ต้องเข้าไปอุ้ม แต่สินค้าเกษตรอื่นราคาตกต่ำกลับอ้างกลไกตลาด” นายเชาวน์
อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ยังได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาราคาไข่ไก่ไว้ด้วยว่า ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลต้องแก้ปัญหาราคาไข่ไก่ที่ต้นเหตุ นั่นคือต้องลดต้นทุนการผลิตให้เกษตรกร ลดการผูกขาดในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ และต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อขจัดปัญหาการตั้งราคาทุ่มตลาด โดยควรดำเนินการนำเข้าพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ ต้องเปิดเสรีอย่างแท้จริง ไม่ควรแก้ปัญหาไข่ไก่ราคาตกด้วยการไปจำกัดการนำเข้า เพราะสุดท้ายแล้วเกิดปัญหาเลือกปฏิบัติ รัฐบาลควรเปิดช่องทางให้มีการกระจายพ่อแม่พันธุ์อย่างทั่วถึง รวมถึงปรับปรุง ประกาศคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการแจ้งผลการรวมธุรกิจ พ.ศ.2561 รัฐบาลต้องแก้ปัญหาทุนผูกขาดที่มีอำนาจเหนือตลาดไข่ไก่อย่างจริงจัง บังคับใช้กฎหมายแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2560 อย่างจริงจัง และต้องปรับปรุงเกณฑ์การพิจารณาผู้มีอำนาจเหนือตลาด ในประกาศคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการแจ้งผลการรวมธุรกิจ พ.ศ.2561 ที่กำหนดเกณฑ์ยอดขายขั้นต่ำสำหรับธุรกิจที่มีอำนาจเหนือตลาดในตลาดใดตลาดหนึ่ง หนึ่งพันล้านบาทขึ้นไป ซึ่งถือว่าสูงเกินไป อีกทั้งควรมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนไม่ให้บริษัทใดบริษัทหนึ่งทำธุรกิจไข่ไก่แบบครบวงจร ซึ่งหากรัฐบาลทำได้จะเป็นการแก้ปัญหาราคาไข่ไก่ที่ต้นทาง นอกจากจะเกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรรายย่อยแล้ว ประชาชนก็จะได้รับประโยชน์ จากการแข่งขันที่เป็นธรรมด้วย และยังช่วยทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ.-สำนักข่าวไทย