จ.นนทบุรี 19 พ.ค.-ผู้ประกันตนที่ถูกเลิกจ้างจากเหตุสุดวิสัยโควิด-19 ยังไม่ได้รับเงินเยียวยา ทยอยเข้าร้องทุกข์ผ่านศูนย์ฯ ของประกันสังคม โดยเจ้าหน้าที่ให้บริการแบบเบ็ดเสร็จในขั้นตอนเดียว และมีคำตอบให้ทันที หรืออย่างช้าภายในวันเดียว
บรรยากาศที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ (โควิด-19) สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน จ.นนทบุรี วันนี้(19พ.ค.)ซึ่งเป็นวันที่5 ของการเปิดศูนย์ฯ ยังคงมีผู้ประกันตน ซึ่งอยู่ในข่ายได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานอันเนื่องมาจากเหตุสุดวิสัย สถานการณ์โควิด-19 ซึ่งยื่นคำขอแล้ว แต่ยังไม่ได้รับเงินเยียวยา ทยอยเดินทางมาติดต่อเพื่อติดตามหรือยื่นเรื่องอุทธรณ์อย่างต่อเนื่อง โดยผู้ประกันตนที่มาติดต่อส่วนใหญ่ มีปัญหาเนื่องจากเอกสารหลักฐานไม่ครบถ้วน การกรอกรายละเอียดส่วนบุคคลไม่ชัดเจน เลขที่บัญชีธนาคารไม่ถูกต้อง หรือหมายเลขประจำตัวประชาชนไม่ถูกต้อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำในลักษณะบริการจุดเดียวแบบเบ็ดเสร็จ และสามารถให้คำตอบได้ในทันที
นายฐิติวัสส์ มานะบัง ผู้ประกันตนที่ถูกเลิกจ้างจากโควิด-19 กล่าวว่า ถูกบริษัทเลิกจ้างมาเป็นเวลา 2 เดือนแล้วและอาจยาวนานถึง 4 เดือน โดยได้ยื่นเรื่องขอรับเงินเยียวยาจากสำนักงานประกันสังคมแล้วแต่ยังไม่ได้รับเงิน ในวันนี้จึงเดินทางมาจากบ้านที่ จ.ปราจีนบุรี เพื่อมาติดต่อสอบถามความคืบหน้า ซึ่งพบว่าตนเองกรอกเอกสารบัญชีธนาคารผิด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการแก้ไขและแจ้งว่าให้รอข้อความจากสำนักงานประกันสังคมและเงินเยียวยาจะเข้าบัญชีภายใน 3-5 ทำการ ทำให้รู้สึกโล่งใจและสบายใจมากที่ได้รับการบริการอย่างรวดเร็วและจะนำเงินไปใช้บรรเทาความเดือดร้อนในชีวิตประจำวัน จนกว่าจะได้กลับมาทำงานใหม่อีกครั้ง
ด้านนายนันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักเงินสมทบ ในฐานะหัวหน้าศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ (โควิด-19) กล่าวว่า นับตั้งแต่เปิดศูนย์ฯ มา เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม มีผู้ประกันตนและนายจ้างมาติดต่อขอใช้บริการ วันแรก 127 คน และล่าสุดวานนี้ (18พ.ค.) มีผู้ประกันตนมาใช้บริการ 516 คน นายจ้างอีก 7 ราย นำข้อมูลของลูกจ้างมาติดต่อรับบริการ ซึ่งศูนย์ได้รับเรื่องและให้บริการแบบเบ็ดเสร็จในขั้นตอนเดียว ทั้งการรับเรื่องราวร้องทุกข์และเป็นศูนย์ประสานงานเพื่อให้ลูกจ้างได้รับเงินเยียวยาอย่างรวดเร็ว โดยจะเร่งวินิจฉัยในแต่ละกรณีให้แล้วเสร็จภายใน 1 วัน
นอกจากนี้ยังเตรียมพร้อมให้บริการผู้ประกันตนและผู้ประกอบการรายใหม่ที่มีการเลิกจ้างงานโดยเหตุสุดวิสัย นอกเหนือจากจำนวน 990,000 รายเดิม ซึ่งขณะนี้ตัวเลขการเลิกจ้างงานจากเหตุสุดวิสัยรายใหม่มีเพิ่มขึ้นประมาณ 8,000-10,000 คนทั่วประเทศ ซึ่งนายจ้างสามารถนำเอกสารมาติดต่อรับบริการที่ศูนย์ฯนี้ได้เช่นกัน เจ้าหน้าที่จะเร่งวินิจฉัยและดำเนินการให้เสร็จเพื่อให้ผู้ประกันตนได้รับเงินเยียวยาโดยเร็วเช่นกัน
พร้อมกันนี้ได้ฝากไปถึงผู้ประกอบการ ที่ได้รับการผ่อนคลายมาตรการให้สามารถเปิดสถานประกอบการได้แล้ว ในบางกิจการ ได้แจ้งข้อมูลการเปิดสถานประกอบการ รวมถึงจำนวนการจ้างงานต่อสำนักงานประกันสังคมในเขตพื้นที่ หรือที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ (โควิด-19) เพื่อสำนักงานประกันสังคมจะได้มีข้อมูลในการจ่ายเงินเยียวยา ซึ่งหากลูกจ้างยังว่างงาน ก็จะจ่ายเงินเยียวยาต่อเนื่อง แต่หากได้รับการจ้างงานใหม่ จากการเปิดสถานประกอบการแล้วก็จะหยุดจ่ายเงินเยียวยาเพื่อให้ข้อมูลไม่ซ้ำซ้อน
ล่าสุดสำนักงานประกันสังคมได้จ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานอันเนื่องมาจากเหตุสุดวิสัย สถานการณ์โควิด-19 ให้แก่ผู้ประกันตนแล้ว (ณ วันที่18 พฤษภาคม 2563) จำนวน 984,005 ราย เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 5,316.066 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในการให้บริการของศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์(โควิด-19) ที่สำนักงานประกันสังคม จัดขั้นตอนการรับบริการตามหลักของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ทั้งการตรวจวัดอุณหภูมิตรวจคัดกรองผู้มาใช้บริการ การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลในระหว่างรอและช่องให้บริการอย่างเคร่งครัด เปิดให้บริการในวันราชการ เวลาทำการ 08.00-18.00 น. .-สำนักข่าวไทย