กรุงเทพฯ 1 พ.ค.- พล.อ.ประวิตร รองนายกรัฐมนตรี กำชับกระทรวงแรงงานช่วยเหลือเยียวยากลุ่มแรงงานทั้งในระบบและนอกระบบ รวมถึงแรงงานข้ามชาติ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19ให้ครอบคลุมทุกด้าน
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางมาตรวจเยี่ยมกระทรวงแรงงาน พร้อมมอบนโยบาย เนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ โดยมีหม่อมราชวงศ์ จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานพร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงแรงงานให้การต้อนรับ
พลเอกประวิตร ระบุว่าได้เน้นย้ำให้กระทรวงแรงงาน ระดมสรรพกำลังดูแลแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิท 19 ทั้งแรงงานในระบบและนอกระบบ รวมถึงแรงงานต่างด้าว โดยขอให้ดูแลผู้ประกันตนที่ป่วยเป็นโรคโควิด-19 ให้เข้าถึงบริการทางการแพทย์อย่างรวดเร็ว, เร่งรัดการจ่ายสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานให้แก่ผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบ ยกระดับทักษะฝีมือและหางานให้ทำอย่างรวดเร็ว ,เฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานต่างด้าว และชะลอการนำเข้าแรงงานต่างด้าวทุกขั้นตอนจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ,เร่งรัดการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานประมง และรับฟังความคิดเห็นในส่วนของร่าง พ.ร.บ.ธนาคารประกันสังคม และ พ.ร.บ.แรงงานนอกระบบอย่างรอบคอบ
ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานระบุว่า จากข้อมูลสํานักงานประกันสังคม พบมีผู้ประกันตนมาตรา 33 ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มายื่นขอรับเงินเยียวยารวม 1.1 ล้านคน มีการจ่ายเงินเยียวยาจากกองทุนประกันการว่างงานไปแล้ว 3 แสนคนและจะจ่ายได้อีก 2 แสนคนในวันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคมนี้
ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 5 แสนคนได้สั่งตั้งคณะทำงานเพื่อเร่งรัดการจ่ายเงินเยียวยาโดยยอมรับว่าปัญหาความล่าช้าที่เกิดขึ้น มาจากระบบคอมพิวเตอร์ของสำนักงานประกันสังคมที่ประมวลผลได้ล่าช้า เพราะเป็นระบบคอมพิวเตอร์แบบเก่า รวมถึงการที่นายจ้างไม่ยื่นแจ้งข้อมูล อย่างไรก็ตามคาดว่าภายในกลางเดือนนี้จะเร่งรัดดำเนินการส่วนที่เหลือได้แล้วเสร็จ
ทั้งนี้ สำหรับข้อเรียกร้องเนื่องในวันแรงงานแห่งชาติประจำปี 2563 ล่าสุด นายสุชาติ ไทยล้วน ประธานสภาองค์การลูกจ้างแห่งชาติ ในฐานะประธานการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติฯ กล่าวว่า คณะกรรมการจัดทำข้อเรียกร้องวันแรงงานแห่งชาติ ที่ประกอบด้วยสภาองค์การลูกจ้างฯ และสหพันธ์รัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย ได้จัดทำข้อเรียกร้องรวมทั้งหมดจำนวน 7 ข้อใหญ่ โดยมติเห็นชอบร่วมกันที่จะให้กระทรวงแรงงาน ยื่นต่อสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อมอบให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อแก้ปัญหาของผู้ใช้แรงงาน โดยหวังว่านายกฯ จะให้ความสำคัญ ทั้งนี้การที่เราไม่ได้ยื่นด้วยตนเองหรือมีการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติ เหมือนทุกปี ก็เพื่อให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการแก้ปัญหาโควิด-19
นายสุชาติ กล่าวว่า สำหรับข้อเรียกร้องที่ตนให้ความสำคัญและเห็นว่ามีประโยชน์ที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานภายหลังการเกษียณอายุ คือการพิจารณาเพิ่มเงินชราภาพ ที่ปัจจุบันสูงสุดได้เพียง 3,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น และส่วนใหญ่เป็นผู้ประกันตนในมาตรา 33 ที่ถูกเลิกจ้างทำให้มีการสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ซึ่งหลักเกณฑ์คำนวณเงินชราภาพจะได้น้อย เพราะเงินสมทบน้อยลงทำให้เงินชราภาพน้อยลงด้วย จึงอยากให้มีการปรับสูตรคำนวณเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม นอกจากข้อเรียกร้องที่เรายื่นก็เป็นข้อเรียกร้องเดิมๆ แต่ไม่เคยได้รับการตอบสนอง เช่น ให้รัฐบาลปฎิรูป แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันสังคม ปรับฐานการคำนวนเงินบำนาญชราภาพ โดยให้มีอัตราเริ่มต้นที่ 5 พันบาท.-สำนักข่าวไทย