“อนุทิน” ยัน 2 รมต. “ทรงศักดิ์-ซาบีดา” ติดโควิด-19

ทำเนียบ 6 ก.ย.- “อนุทิน” ยัน 2 รมต. “ทรงศักดิ์-ซาบีดา” ติดโควิด-19 หลังตรวจซ้ำ 2 รอบ บอกทำงานแทนไปพลางไม่มีปัญหา ชี้แบ่งงาน รมช.ตามความเหมาะสม คาด “ธีรรัตน์” คุม พช.-กทม. เล็งสับไพ่ใหม่ข้าราชการการเมือง ระบุตำแหน่งรองโฆษกรัฐบาล อย่าไปยึดติดของเดิม

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณี รัฐมนตรีตรวจพบเชื้อโควิด-19 หลังรัฐมนตรีใหม่เข้าตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ RT-PCR เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ว่า ได้รับแจ้งว่ามีสองคนของกระทรวงมหาดไทย คือ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย


ส่วนการทำงานของ 2 คนเป็นรัฐมนตรีของกระทรวงมหาดไทย และพรรคภูมิใจไทย จะเป็นอย่างไร นายอนุทิน ตอบทันที อย่ามองเป็นการเมือง ก็ติดโควิด หลังตรวจ RT-PCR ตนก็ให้ไปตรวจ 2 ครั้ง พบยืนยัน ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้ 2 รัฐมนตรียังปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ จนกว่าเข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ

ส่วนได้ถาม น.ส.ซาบีดา ถึงการติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ เพราะนายเจเศรษฐ์ ระบุว่า ติดมาจากการไปแสวงบุญ นายอนุทิน กล่าวว่า ผลก็ออกอยู่แล้ว และก็สามารถติดได้ และก็คงต้องรอ


เมื่อถามว่า นายอนุทิน ทำงานแทนไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนก็ต้องทำงานแทนไปพลางก่อน แล้วตนก็ต้องรับผิดชอบทั้งกระทรวงอยู่แล้ว เพราะรัฐมนตรีช่วย ต่อให้ดูหน่วยงาน องค์กรต่างๆ แต่เมื่อเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนโยบาย ก็ต้องมาถึงรัฐมนตรีว่าการอยู่ดี

ส่วนการแบ่งงานให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า การแบ่งงานต้องดูความเหมาะสมก่อน แต่ไม่น่าจะมีอะไรแตกต่างกันเยอะ อย่างสมัยนายเกรียง กัลป์ตินันท์ ที่มาจากพรรคเพื่อไทย ให้กำกับดูแลกรมการพัฒนาชุมชน และเป็นหน่วยที่คุม กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยจัดตั้งขึ้นมาตั้งแต่สมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รวมถึงดูกรุงเทพมหานคร ถือว่าในทางการเมือง พรรคเพื่อไทยกับกรุงเทพมหานครก็มีความคุ้นเคย มีสส.เยอะ ซึ่งเป็นงานสำคัญทั้งนั้น

เมื่อถามว่า น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น่าจะได้ดู กทม.ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ควรจะเพราะท่านเป็น สส.กทม. แต่ว่าทั้งหมดก็จะออกเป็นคำสั่งแบ่งาน หลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายต่อรัฐสภาให้เรียบร้อยก่อน ทราบมาว่า จะเป็นสัปดาห์หน้า ช่วงวันที่ 12-13 กันยายน


เมื่อถามว่า ส่วนรองนายกรัฐมนตรีมีการแบ่งงานแล้วหรือยัง นายอนุทิน กล่าวว่าขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนยังไม่เห็น ส่วน จะเป็นกระทรวงที่เคยกำกับใช่หรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า แน่นอน ผมก็ต้องคุมกระทรวงที่พรรคภูมิใจไทยกำกับดูแล ทั้ง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม, กระทรวงแรงงาน, กระทรวงศึกษาธิการ

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรียังไม่ได้เรียก รองนายกรัฐมนตรีแต่ละคน เข้าไปพูดคุยใช่หรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า ยัง และตนยังไม่ได้พบกับนายกรัฐมนตรี

ส่วนข้าราชการทางการเมืองของภูมิใจไทย ได้วางตำแหน่งเอาไว้แล้วหรือยัง นายอนุทิน กล่าวว่า ว่า อันนี้ถือเป็นการสับไพ่ใหม่ เพราะเป็นคนละรัฐบาล ตนก็ต้องปรับความคิดตัวเองเหมือนกันอันนี้ไม่ใช่เป็นการต่อเนื่อง อย่างตนนั่งเป็น มท.1 ในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ในตอนนี้ก็เป็น มท.1 ภาคสอง ต้องวางโครงสร้างและวางตำแหน่ง และดูเรื่องตำแหน่งการเมืองให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน และช่วงนี้ว่าไปแล้ว เหลือไม่ถึง 3 ปี ถ้าอยู่ครบเทอมก็เหลือนิดเดียว จึงต้องวางคนวางหน้าที่การงานให้เหมาะสม เช่นเดียวกับ ตำแหน่ง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กำลังคิดอยู่ ส่วนจะเป็นคนเดิมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล ก็ทำงานได้ดี

เมื่อถามถึงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างอย่าไปยึดติดกับของเดิม นี่เป็นรัฐบาลท่านแพทองธาร ต่อให้เป็นคนเดิมก็ต้องตั้งใหม่ ไม่มีทางเป็นเดิม 100%.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตั้ง กก.สอบ 7 ตำรวจ บก.จร.ทำร้ายลูกชายอดีต ตร. พ่อยันเอาเรื่องถึงที่สุด

กองบังคับการตำรวจจราจร ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรง 7 ตำรวจ บก.จร. รุมทำร้ายลูกชายอดีตตำรวจ พ่อและน้องสาวยืนยันไม่ยอมความ เอาเรื่องถึงที่สุด พร้อมท้าตำรวจทั้ง 7 นาย เอากล้องติดหน้าอกออกมาเปิดเผย

ครอบครัวผู้เสียหายที่โดนตำรวจ 7 นาย รุมทำร้าย เผยอาการยังสาหัส ยันไม่ยอมความ แม้มีกระเช้าปริศนามาให้แล้ว 3 กระเช้า พร้อมท้าตำรวจทั้ง 7 นาย เอากล้องติดหน้าอกออกมาเปิดเผยพฤติกรรมตัวเอง ด้าน รอง ผบช.น. ยันตำรวจทั้ง 7 นาย ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่กระทำไป

ครอบครัวของผู้บาดเจ็บที่โดนตำรวจ 7 นาย รุมทำร้าย เดินทางไปพบพนักงานสอบสวน และชุดสืบสวนของ สน.บางเขน ก่อนเดินไปชี้จุดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่าน และเป็นจุดเดียวกับที่ตำรวจพาผู้บาดเจ็บเข้ามาจอดรถไว้หลังก่อเหตุทำร้ายร่างกาย เพื่อตรวจสอบว่ารถของผู้บาดเจ็บเป็นรถคันเดียวกับที่ได้ขับแหกด่านหรือไม่ โดยก่อนการชี้จุด พ่อและน้องสาวของผู้ได้รับบาดเจ็บเดินทางมาพร้อมกับร้อยเวร สถานีตำรวจนครบาลบางเขน เจ้าของพื้นที่ เพื่อชี้จุดและให้ข้อมูลกับตำรวจเพิ่มเติม ระหว่างรอตัวผู้บาดเจ็บพักรักษาตัวจนสามารถเข้าให้การกับตำรวจได้

นางสาวธนัชตา น้องสาวผู้บาดเจ็บ บอกว่า พี่ชายยังต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล จุดที่น่าเป็นห่วงคือบริเวณศีรษะทั้งหมด โดยเฉพาะดวงตาขวามีเลือดออก การมองเห็นยังไม่ปกติ ส่วนตามร่างกายมีร่องรอยฟกช้ำ แต่ยังโชคดีที่ไม่มีส่วนใดต้องผ่าตัด

เหตุการณ์ครั้งนี้รู้สึกรับไม่ได้ ยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่ว่าจะเข้าข้อกฎหมายข้อไหนพร้อมจะต่อสู้ มองว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ เพราะพี่ชายของตนไปคนเดียวและไม่มีอาวุธ แต่คู่กรณีเป็นถึงตำรวจ และมีด้วยกันถึง 7 นาย ทันทีที่รู้เรื่องตนเองรีบเดินทางมาที่ด่านทันที พยายามสอบถามว่าตำรวจนายไหนเป็นคนทำพี่ชายของตนเอง แต่ไม่ได้รับคำตอบ ซึ่งพี่ชายพยายามบอกแล้วว่าไม่ใช่คนขับรถหนีด่าน

นางสาวธนัชตา ยังฝากถึงตำรวจตั้งด่านทุกนายว่าทุกคนมีกล้องติดหน้าอก ตนเองพยายามขอดูแต่มีการอ้างว่ากล้องเสียบ้าง เปิดไม่ได้บ้าง จึงอยากฝากไปถึงตำรวจตั้งด่านในวันนั้นทุกนายให้เอากล้องติดหน้าอกออกมาเปิดเผย เพื่อเป็นการยืนยันเหตุการณ์ทั้งหมด เพราะเหตุการณ์วันนั้นตนเองก็มีหลักฐาน รวมถึงพยานคือคนที่เข้าด่านตรวจก็เห็นทุกคนว่าเหตุการณ์ตรงนั้นเกิดอะไรขึ้น อยู่ที่ตำรวจจะกล้าหรือไม่กล้า

น้องสาวผู้บาดเจ็บ บอกอีกว่าเมื่อวานนี้ (4 ธ.ค.) มีกระเช้าผลไม้-ดอกไม้ปริศนา ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นของใคร หรือของตำรวจสังกัดใดบ้างนำมาเยี่ยม ขอย้ำว่าไม่ขอรับกระเช้า เพราะไม่สามารถรู้ได้เลยว่านำเอามาให้ด้วยเหตุผลอะไรแอบแฝง

ด้าน พันตำรวจโท ธนชัย เกิดศรี หรือสารวัตรเจี๊ยบ อดีตพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. ซึ่งเป็นพ่อของผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า ในฐานะที่ตนเคยเป็นอดีตตำรวจกองบังคับการตำรวจจราจรมาก่อนไปอยู่ บก.ปทส. ตามปกติแล้วตำรวจมีขั้นตอนในการใช้ยุทธวิธีเพื่อจับผู้ต้องหาด้วยเครื่องพัฒนาการอยู่แล้ว ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้ความรุนแรงที่เกินกว่าเหตุแบบนี้ กรณีหากผู้ต้องหามีการต่อสู้หรือขัดขวาง ตำรวจไม่มีสิทธิที่จะไปรุมทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด ซึ่งจะพยายามเลี่ยงการใช้กำลังให้น้อยที่สุด การจับกุมตำรวจต้องมีการแสดงตัวเป็นตำรวจ พร้อมกับแจ้งให้ทราบว่าทำอะไรผิด จากนั้นจะเชิญตัวมาที่ด่านหรือโรงพักในพื้นที่ เพื่อดำเนินการสอบปากคำและพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาในภายหลัง

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่คาดคิดว่าจะมาเกิดขึ้นในยุคสมัยนี้ เพราะมีโซเชียลเป็นหูเป็นตา ยืนยันว่าจะไม่มีการเจรจาไกล่เกลี่ย แม้ว่าจะให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงลงมาพูดคุยก็ตาม เมื่อวานนี้ทางพยาบาลแจ้งว่ามีตำรวจนำกระเช้ามามอบให้แล้ว 3 กระเช้า แต่ตนไม่รับ เพราะไม่รู้ว่ามาด้วยวัตถุประสงค์อะไร และไม่รู้ว่าเป็นของหน่วยงานใด เนื่องจากพยาบาลแจ้งแค่ว่าเป็นตำรวจเท่านั้น

ส่วนความคืบหน้าคดี พันตำรวจเอก อนันต์ วรสาตร์ ผู้กำกับการ สน.บางเขน ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สอบปากคำน้องสาวและแม่ของผู้บาดเจ็บในฐานะพยาน ส่วนผู้บาดเจ็บตอนนี้แพทย์ยังไม่อนุญาตให้พนักงานสอบสวนเข้าไปสอบปากคำ เนื่องจากยังอยู่ในอาการสาหัส

ส่วนกรณีผู้ก่อเหตุทั้ง 7 นายที่เป็นตำรวจ ตอนนี้ยังไม่มีการสอบปากคำ เนื่องจากพนักงานสอบสวนอยากทราบพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ก่อเหตุจากผู้เสียหายก่อน ยืนยันว่าจะไม่มีการช่วยเหลือแม้ว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุจะเป็นตำรวจก็ตาม

ด้าน พลตำรวจตรี ธวัช วงศ์สง่า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งดูแลรับผิดชอบงานจราจร ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า เบื้องต้นผู้บังคับการตำรวจจราจรกลาง รายงานมาเบื้องต้นว่าผู้ก่อเหตุที่เป็นตำรวจทั้ง 7 นาย บอกว่ามีการเข้าใจผิด คิดว่าจะขับรถแหกด่านจึงมีการตามไป ก่อนที่ผู้เสียหายจะมีการขัดขืน ทำให้ตำรวจทั้ง 7 นาย ต้องใช้กำลังในการระงับเหตุ ยอมรับว่าเป็นการทำเกินกว่าเหตุจริงๆ ตอนนี้ทราบว่ากองบังคับการตำรวจจราจรมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรงขึ้นแล้ว ส่วนทางคดีอาญาอยู่ที่ สน.บางเขน

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตำรวจทั้ง 7 นาย ต้องชี้แจงและยอมรับกับสิ่งที่ได้กระทำลงไป รวมทั้งอาจจะต้องทบทวนเรื่องยุทธวิธีที่่ใช้ในการระงับเหตุ แต่ยืนยันว่าตำรวจไม่เคยมีวิธีระงับเหตุด้วยการทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด.-414-สำนักข่าวไทย

สุดจึ้ง! ซาลาเปาแฟนซีแฮนด์เมด รายได้ครึ่งล้านต่อเดือน

“คุณจารุวรรณ” วัย 78 ปี พร้อมครอบครัว ช่วยกันคิดค้นสูตรซาลาเปาแฟนซีเป็นเจ้าแรกใน จ.ตรัง ส่งขายทั่วทุกภาคของประเทศ สร้างรายได้เดือนละ 450,000-500,000 บาท และมีแผนส่งออกไปขายยังต่างประเทศในต้นปีหน้า

เจ้าของคลินิกซิ่งชนไรเดอร์ตกสะพานเสียชีวิต

เจ้าของคลินิกเสริมความงามชื่อดัง ซิ่งเบนซ์ชนไรเดอร์หญิง ตกสะพานต่างระดับย่านพระรามสี่ เสียชีวิต วัดปริมาณแอลกอฮอล์ผู้ก่อเหตุ สูงเกินกฎหมายกำหนด

เปิดให้สักการะ “พระเขี้ยวแก้ว” วันแรก

ริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุพระเขี้ยวแก้ว ถึงยังมณฑลพิธีท้องสนามหลวงแล้ว พร้อมเชิญชวนประชาชนสักการะ วันนี้ (5 ธ.ค.) วันแรก ตั้งแต่ 07.00 น.เป็นต้นไป

ข่าวแนะนำ

“ฟิล์ม” เข้ารับทราบข้อกล่าวหา “พยายามกรรโชกทรัพย์-หมิ่นประมาท”

มาตามนัด! “ฟิล์ม รัฐภูมิ” เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก ปมคลิปเสียงเรียกรับเงิน 20 ล้านบาท “ดิไอคอนกรุ๊ป”

ผลสอบครูเบญ

ศธ.สรุปผลสอบปม “ครูเบญ” ยืนยันผิดพลาดในการตรวจ-ประกาศข้อสอบ

ศธ.สรุปผลสอบข้อเท็จจริงกรณี “ครูเบญ” ยืนยัน เกิดความผิดพลาดในการตรวจและประกาศข้อสอบ ส่งกระดาษคำตอบของครูเบญ และครูที่สอบได้ ให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจ ไม่พบการแก้ไขกระดาษคำตอบ ด้าน ศธ.เยียวยาให้ครูเบ็ญ แต่เจ้าตัวปฏิเสธ ขอกลับไปทำงานที่เดิม

ปล่อยลูกเรืองประมงไทย

“ภูมิธรรม” ย้ำปล่อย 4 ลูกเรือประมงไทยวันนี้-ไม่มีเงื่อนไข

“ภูมิธรรม” ย้ำปล่อย 4 ประมงไทยวันนี้ โดยไม่มีเงื่อนไข ล่าสุดนำตัวมาที่เกาะสองแล้ว เชื่อหลังจากนี้จะมีมาตรการป้องกันการรุกล้ำน่านน้ำของสองประเทศ