“ภูมิธรรม” ลั่น มท.ต้องดีกว่าเดิม งานต้องเป็นรูปธรรม

ก.มหาดไทย 4 ก.ค.-“ภูมิธรรม” ลั่น มท.ต้องดีกว่าเดิม วาง KPI 3 เดือน งานต้องเป็นรูปธรรม หากข้าราชการไม่ตอบสนอง ปรับกำลังใหม่ แจงสลายสีสิงห์ หลังสื่อแซวหมายถึงพรรคน้ำเงินหรือไม่ บอกยุค “มท.อ้วน” ข้าราชการไม่ต้องเดินตาม

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ กล่าวภายหลังประชุมมอบนโยบายกับหัวหน้าส่วนราชการกระทรวง ผู้ว่าราชการจังหวัดว่า วันนี้เข้ากระทรวงมหาดไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งมาพร้อม 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง พร้อมยืนยันว่าพวกเราทั้ง 3 คนจะร่วมกันทำงาน และแก้ปัญหาต่างๆ ด้วยดี ส่วนการพบกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด รวมถึงนายอำเภอ และข้าราชการ ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย รวมถึงหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัด ก็ได้ให้นโยบายเบื้องต้นว่า ตนมาทำงานอย่างง่ายๆ ไม่ต้องการผู้ติดตามที่ไม่เกี่ยวข้อง เพราะผลงานต้องสำคัญกว่าหน้าตา ไม่ต้องมาเจอหน้าบ่อย แต่ผลงานต้องเป็นรูปธรรม


นายภูมิธรรม กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยต้องดีขึ้นกว่าเดิม และสิ่งที่สำคัญในการวัดประเมินผลตนไม่ต้องการตัวเลขอย่างเดียว แต่สิ่งที่อยากเห็นคือผลงานที่เป็นรูปธรรม เพราะตั้งแต่เป็นรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง การแก้ปัญหายาเสพติดตนก็เห็นตัวเลขมาเยอะ แต่ความรู้สึกของประชาชนในพื้นที่ยังไม่รู้สึก จึงบอกไปว่าประชาชนเขารู้หมด แต่ทำไมผู้ว่าฯ ตำรวจจึงไม่รู้ ดังนั้น จึงให้นโยบายยาเสพติดเป็นเรื่องใหญ่ และต้องร่วมมือกัน และสิ่งสำคัญที่ตนได้ให้ที่กระทรวงมหาดไทยคือ มองให้ไกล เพราะวันนี้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นไวมาก อะไรที่เป็นปัญหาเรื่องกฎระเบียบขอให้ออกมา หากจะมาแก้ไขปรับปรุงก็มาพูดคุยกัน เพราะประสบการณ์ตนที่เป็นรัฐบาลเห็นมาหลายอย่างแล้ว ว่ากลไกของระบบราชการก็สำคัญ ซึ่งต้องปรับปรุงสิ่งเหล่านี้เพื่อให้ขับเคลื่อนได้เร็ว ฉะนั้นงานบริการที่กระทรวงมหาดไทยมีต้องเร็ว มีผลงานที่ประชาชนรับรู้ได้อย่างเป็นรูปธรรม ส่วนกฎระเบียบที่ขัดขวางการทำงานในการบริการประชาชนก็ต้องรีบแก้ไข และทั้งหมดทั้งปวงเศรษฐกิจฐานรากถือเป็นเรื่องสำคัญ ที่กระทรวงมหาดไทยต้องช่วยดูแลแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้พี่น้องประชาชนด้วย

“อยากจะเห็นภายใน 3 เดือนนี้มีรูปธรรมที่จับต้องได้ ถ้าไม่อย่างนั้นจะขออนุญาต ก่อนถึงเดือนก.ย. ผมจะขอปรับกำลังใหม่ เพื่อจะได้ให้คนที่เหมาะกับงาน สามารถตอบสนองการแก้ไขปัญหาได้ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการทุกระดับ ถ้าอยากจะเห็นอะไรดีขึ้นและคิดว่าเป็นปัญหาให้มาบอก ประตูห้องผมเปิดตลอดเวลา” นายภูมิธรรม กล่าว


นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ได้ฝากไปว่าสิ่งที่ตนเคยทำมา ให้ปลัดกระทรวง รองปลัดกระทรวง ผู้ตรวจราชการกระทรวง และอธิบดี รวมทั้งผู้ว่าฯทุกคน อยากเห็นกระทรวงมหาดไทยภายใต้ 3 รัฐมนตรีนี้เป็นอย่างไรขอให้บอก อะไรที่รู้สึกอึดอัดติดใจอยากทำแล้วไม่ได้ ขอให้มาบอก เพราะว่าอะไรก็ตามที่มันทำให้เกิดการไร้ประสิทธิภาพขอให้บอก ถ้ามาบอกแล้วกล้าทำผมจึงให้ทำ ทำได้ผมจะสนับสนุนต่อ ทำไม่ได้แล้วได้พิสูจน์กันตามศักยภาพที่มี เพราะฉะนั้นภายใน ก.ย.นี้ได้เห็นแน่ ว่าใครทำอะไรถูกต้องเหมาะสมกับงานของตัวเองเพียงใด

เมื่อถามว่าที่บอกกระทรวงมหาดไทยต้องดีกว่าเดิม แปลว่าที่ผ่านมาไม่ดีใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ที่บอกว่าดีกว่าเดิม ไม่ใช่สมัยก่อนไม่ดี แต่ตนจะทำให้ดีกว่าเดิม

เมื่อถามย้ำว่านโยบายเรื่องปราบยาเสพติดจะเข้มข้นเหมือนสมัยในยุครัฐบาลไทยรักไทยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เข้มข้นเหมือนเดิมหรือไม่นั้นไม่รู้ แต่การปราบยาเสพติดวันนี้ ต้องทำให้ประชาชนรู้สึกได้ว่าไม่เป็นปัญหาและภัยที่คุกคามเขา เพราะวันนี้มันคุกคามไปทุกชุมชนทุกหมู่บ้าน


เมื่อถามย้ำว่า จะประกาศให้ประชาชนสบายใจได้หรือไม่ว่าจะไม่มียาเสพติดหรือน้อยลง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยืนยันจะทำอย่างเต็มที่รวดเร็ว และเด็ดขาด ในการแก้ไขปัญหาให้ยาเสพติดมันหมดไป และมีอะไรก็บอกตนได้ซึ่งจะใช้กระบวนการของประชาชน โดยจะใช้กลไกลของ ชรบ. อส. และกำนันผู้ใหญ่บ้าน

เมื่อถามย้ำว่าภายใน 3 เดือนนี้หากเจ้าหน้าที่ไม่มีผลงานจะโยกย้ายหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ต้องทำให้ดีกว่าเดิม ถ้าดีแล้วมีผลงานไม่ว่าเป็นใครเราก็สนับสนุน แต่ถ้ายังไม่ดีก็ขอปรับ ซึ่งอันนี้เป็นการทำให้ทุกคนตื่นตัว และทำงานได้เต็มที่ ซึ่งจะดูความตั้งใจในการทำงานและความยากลำบากของพื้นที่ด้วย

ส่วนกรณีแนวคิดสลายแบ่งสีสิงห์ อย่างสิงห์ดำหรือสิงห์แดง เข้าใจได้ว่าจบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ และ ม.ธรรมศาสตร์ แต่สิงห์น้ำเงิน อาจดูเหมือนว่าหมายถึง บางพรรคการเมืองหรือไม่ ว่า ตนเข้ามาและฟังก็เห็นว่ามีทุกสี พร้อมย้ำว่าได้ยินว่ามีสิงห์น้ำเงินนะ แต่ตนคิดว่าสิ่งที่สำคัญอยู่ที่การตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนหรือไม่ ตนไม่อยากให้เวลาทำงานข้าราชการมาเดินตามตน อยากให้มีเวลาทำงาน หากใครมีความจำเป็นที่จะต้องมารายงานค่อยมารายงาน ตนก็อยากจะเปลี่ยนวิธีการทำงาน เพราะแบบนั้นไม่ใช่ตน.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน-ตอ.-ใต้ตะวันตก ฝนฟ้าคะนอง

กรุงเทพฯ 14 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดบึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาว และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

EOD ลุยค้นหาจรวด หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง

13 ส.ค. – EOD ลุยค้นหา-เก็บกู้จรวดในพื้นที่บุรีรัมย์-ศรีสะเกษ หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง ขณะที่คณะ ICRC ลงพื้นที่เก็บข้อมูลผลกระทบเหตุปะทะ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด EOD ลงพื้นที่ตรวจสอบไร่ยางพาราของชาวบ้านและอีกหลายจุด ในเขต ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบหลุมต้องสงสัยอยู่ในที่ดินของตัวเอง จากการตรวจสอบพบสะเก็ดระเบิด และอีกหลายจุดพบเป็นหลุมคล้ายหลุมจรวด BM21 ที่ตกลงมา เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และต้องใช้ความระมัดระวัง ขณะที่ชาวบ้านที่เพิ่งเข้ามาอยู่บ้าน ยังไม่มั่นใจกับสถานการณ์ โดยเฉพาะหลังมีทหารเหยียบทุ่นระเบิดเป็นรายที่ 5 EOD เร่งตรวจสอบ–กู้ระเบิดกระสุนปืนใหญ่ชายแดน ส่วนที่ศรีสะเกษเจ้าหน้าที่ EOD สนธิกำลัง ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีพบกระสุนปืนใหญ่ตกในเขต ต.เสาธงชัย และ ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดน เบื้องต้นพบ 7 จุด บริเวณสวนยางพาราและใกล้เขตชุมชน โดยส่วนใหญ่เป็นลูกกระสุนปืนใหญ่ขนาด 100 มิลลิเมตร เจ้าหน้าที่ได้ทำการขุดตรวจพิสูจน์ พบว่าหลายลูกระเบิดไปแล้ว เหลือเพียงเศษซาก และยังพบอีก 1 จุดในพื้น […]

อึ้งพระอยู่กับสีกา เปิดบนรถเจอกองทิชชูใช้แล้ว

สกลนคร 13 ส.ค. – วงการผ้าเหลืองฉาวอีก ตำรวจตรวจรถเก๋งคันหนึ่งจอดอยู่ข้างทาง พบพระกับสีกาอยู่ด้วยกัน 2 ต่อ 2 คุยไปคุยมา สุดท้ายไปจบที่ลาสิกขา หลังตำรวจ สภ.ขมิ้น จ.สกลนคร ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน พบรถเก๋งต้องสงสัยสีดำ จอดผิดปกติบริเวณ ริมคลอง บ.พาน ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.สกลนคร เมื่อเข้าไปตรวจสอบ ตำรวจต้องอึ้ง เมื่อเจอพระอยู่กับสีกา 2 ต่อ 2 ในรถ ต่อมาทราบว่า คือ พระชัยณรงค์ อายุ 53 ปี สังกัด วัดแห่งหนึ่ง อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ จึงเชิญตัวไปยังวัดใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เพื่อทำพิธีลาสิกขา และนำตัวมาตรวจปัสสาวะ ผลไม่พบสารเสพติด แต่รถที่พระเเละสีกาดังกล่าวอยู่ด้วยกัน พบเป็นรถที่ถูกสวมทะเบียน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบ คืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง สภ.ขมิ้น พบรถเก๋งคันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณสถานที่เก็บของกลาง กระจกด้านข้างและด้านหลังติดฟิล์มดำสนิท แต่ด้านหน้าฟิล์มใสมองเห็นถึงภายใน ที่เบาะนั่งข้างคนขับ ยังพบกองจีวรของทิดชัยณรงค์ […]

สถานการณ์ชายแดนสุ่มเสี่ยงปะทะรอบ 2

สุรินทร์ 13 ส.ค. – กระแสข่าวจากหลายฝ่ายยืนยันตรงกันว่าระยะ 2 วันนี้ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จะเพิ่มความตึงเครียด สุ่มเสี่ยงที่จะมีการปะทะรอบ 2 ฝ่ายปกครอง จ.สุรินทร์ จึงแจ้งเตือนไปยังกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ให้ลูกบ้านเตรียมพร้อมรองรับเหตุฉุกเฉิน ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศ ในหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือน พบว่า หลายครอบครัวเพิ่งกลับเข้าพื้นที่ 1-2 วัน หลังอพยพหนีภัยการสู้รบในห้วงวันที่ 24 – 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ได้รับข่าวไม่สู้ดีนัก เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง แจ้งให้เตรียมความพร้อม เก็บสัมภาระไว้เพื่อรองรับสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงการปะทะ รอบ 2 ซึ่งอาจรุนแรงมากกว่ารอบแรก ทำให้ชาวบ้านหลายคนต่างตื่นตระหนก ต้องการอพยพไปอยู่นอกพื้นที่ แต่เมื่อผู้นำหมู่บ้านทำความเข้าใจ ก็คลายความกังวลลงบ้าง โดยสื่อสารข้อความจากนายอำเภอพนมดงรักว่า รอให้มีเสียงปะทะกันเกิดขึ้นก่อน จึงให้อพยพ ซึ่งชาวบ้านก็เชื่อฟัง เพราะส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าจะอพยพไปที่ไหน เพราะยังไม่มีการเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะที่หญิงคนหนึ่งติดอยู่ในพื้นที่สู้รบ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือนตลอดห้าวัน เพราะเป็นห่วงวัวที่เลี้ยงไว้ จึงอาศัยอยู่ในกระต๊อบพร้อมญาติรวมสี่คน และประเมินสถานการณ์ว่า น่าจะปลอดภัย เพราะวิถีกระสุนไปตกไกลกว่า จึงได้ยินเสียงปะทะอย่างชัดเจน […]