“ภูมิธรรม” มอบนโยบาย ก.มหาดไทย ยันไม่ข่มขู่ข้าราชการ-ใช้อำนาจบาตรใหญ่

เมืองทองธานี 7 ส.ค.-“ภูมิธรรม” มอบนโยบาย ก.มหาดไทย บอกมีแกะดำมาเป็นราชการ ขอใช้ใจในการแก้ไขปัญหาเพื่อประชาชน ชี้ จนท.รัฐทำตัวเป็นอุปสรรค​ จะต้องปรับเปลี่ยน​ ยันไม่ข่มขู่ข้าราชการ-ใช้อำนาจบาตรใหญ่​ แต่อยากเห็นการแก้ไขที่เป็นรูปธรรม ซัดคนวิจารณ์แก้โป๊กเกอร์เป็นกีฬา เอาไปบิดเบือนโจมตีเอื้อบางกลุ่ม

นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​ กล่าวมอบนโยบายสำคัญเร่งด่วนของกระทรวงมหาดไทย (8 Quick Wins: 3 ไร้ทุกข์ 5 สร้างสุข) และการขับเคลื่อนการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด​ แก่ผู้ว่าการ​จังหวัด​ ผู้การจังหวัด​ และหัวหน้าส่วนราชการทั่วประเทศ​


นายภูมิธรรม​ ระบุว่า​ กระทรวงมหาดไทยมีกลไกครบถ้วนในการประสานกันทุกภาคส่วน หากเราสามารถรวบรวมและดึงเอาความร่วมมือของทุกจังหวัด นำนโยบายรัฐบาลไปดำเนินการถึงมือประชาชน ในการช่วยแก้ไขปัญหาวิกฤตของประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่ง มิติที่เป็นภัยคุกคามไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด สงครามไซเบอร์ สแกรมเมอร์ พนันออนไลน์ หรือเรื่องการมีชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน ซึ่งความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทยในการดูแลเศรษฐกิจฐานรากและการดูแลประชาชนทั้งในระดับจังหวัดอำเภอไปจนถึงหมู่บ้านทั่วประเทศ

นายภูมิธรรม​ กล่าวย้ำว่า​ ตนต้องการสื่อสารความตั้งใจของตนและรัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทยทั้ง 2 คน ในการนำนโยบายต่างๆมาแปลให้เป็นรูปธรรมสามารถแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้ วันนี้เรามากันพร้อมเพียง ผู้บริหาร ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ปฏิบัติงานทั้งหมดเพราะฉะนั้นสิ่งที่สื่อสารในวันนี้จะมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ตนมาเพื่อตอกย้ำและให้รู้สึกว่าจะนำนโยบายต่างๆเหล่านี้ไปปฏิบัติให้ได้เพราะนี่คือหัวใจ


ทั้งนี้กระทรวงมหาดไทยถือเป็นหน่วยงานที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดและส่งผลต่อประชาชนโดยรวม ในการขับเคลื่อนงานของกระทรวงมหาดไทย ต้องแสดงความตั้งใจมุ่งมั่นในการที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชน ซึ่งมหาดไทยต้องดีกว่าเดิม ขอให้มองไปที่การรวมใจเป็นหนึ่งเดียวและเป็นที่พึ่งของประชาชนเพราะฉะนั้นเป้าหมายสำคัญในการที่จะขับเคลื่อนงานของกระทรวงมหาดไทยนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปคือการสร้างความสุขที่ยั่งยืนของประชาชนทั้งประเทศผ่าน 8 นโยบายเร่งด่วน ประกอบไปด้วยนโยบายที่ดูแลเรื่องความไร้ทุกข์ให้กับประชาชน 3 ด้านและนโยบายในการสร้างสุขให้กับชุมชนสังคมและประชาชนอีก 5 ด้าน คือ 3 ไร้ทุกข์และค่าสร้างสุข

โดยนโยบาย​ 3 ไร้ทุกข์​ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญและต้องทำให้ได้เพราะเป็นเรื่องที่เกาะกินใจประชาชนทุกส่วนทุกกลุ่มทุกหมู่เหล่าทุกชุมชน เราได้ยินกันทุกชุมชนเรื่องปัญหายาเสพติด เป็นไปทุกส่วนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเป็นวิกฤต​ คุกคามชีวิตครอบครัวและประชาชนทั้งประเทศ​ และที่น่าเสียใจเสียดายคือทุกส่วนที่เกี่ยวข้องมีส่วนของข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้อง ตนไม่ได้ตำหนิข้าราชการรู้ว่าทุกคนทำงานมาอย่างหนักได้เต็มที่ แต่ก็ยังมีแกะดำมาอยู่ในราชการมีส่วนสนับสนุนและส่งเสริมตนคิดว่าวันนี้ต้องหยุดและพอได้แล้ว ต้องจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจังและตนคิดว่า ในการดำเนินงานอย่างนี้ ถ้าข้าราชการทุกหมู่เหล่าทุกกระทรวงที่บริหารราชการอยู่ในพื้นที่ภายใต้การนำของผู้ว่าราชการจังหวัด เราจะสามารถแก้ไขปัญหายาเสพติดได้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่อยากเห็นนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปคือให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทำหน้าที่เป็นแม่ทัพบัญชาการและบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานด้านความมั่นคงทุกฝ่าย แก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังจึงจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้

นายภูมิธรรม​ ยังกล่าวว่า​ ได้สั่งให้ RE x-ray ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ค้าและผู้เสพยาเสพติดทั้งในระดับหมู่บ้านชุมชนตำบลถึงระดับจังหวัด และอยากให้ให้ความสำคัญกับประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์ในพื้นที่ที่ประสบภัยอยู่ส่งเสริมการมีส่วนร่วม แจ้งเบาะแสอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านเครือข่ายตาสับปะรด​ การ RE x-ray สามารถทำได้เลยไม่ต้องใช้เครื่องมืออะไรแต่ต้องใช้ใจในการแก้ไขปัญหา


นาย​ภูมิธรรม​ กล่าวว่า​ จากนี้เป็นต้นไปกระบวนการตลอด 3 เดือนนี้ ในเบื้องต้นจะต้องเห็นการตรวจสอบการพูดคุยและการสร้างหมู่บ้านสีขาวให้เกิดขึ้น แต่ต้องดำเนินการกับผู้ที่ไปมีส่วนเกี่ยวข้องทั้งผู้ค้าผู้ขายผู้ผลิตทั้งหมดอย่างเต็มที่ เพื่อให้ได้ผลเป็นที่ประจักษ์​ รวมไปถึงต้องยกระดับกระบวนการบำบัดรักษาไม่เช่นนั้นจะไม่หมดปราบไปแล้ว ปล่อยกลับไปก็มีปัญหาเหมือนเดิม​ ส่วนการสร้างศูนย์ฟื้นฟู​ ในพื้นที่ต่างๆ​ อย่าติดกฎระเบียบมากนัก​ เพราะจะเป็นปัญหาอุปสรรค ไม่ใช่ยึดแต่กฎระเบียบแล้วไม่ทำอะไรเลย

“​ใครทำตัวเป็นอุปสรรค​ นิ่งเฉย จะต้องปรับเปลี่ยน​ ตนไม่ได้มาข่มขู่ข้าราชการ​ หรือมาใช้อำนาจบาตรใหญ่​ แต่อยากเห็นการแก้ไขปัญหาที่ประชาชนขเขารู้สึกและอยากแก้ไขปัญหาได้อย่างจริงจัง” นายภูมิธรรม กล่าว

นาย​ภูมิธรรม​ ยังกล่าวถึง การเร่งจัดระเบียบสังคมและการปราบปรามผู้มีอิทธิพล​ เรื่องนี้จะต้องหาทางแก้ไข ซึ่งต้องยอมรับว่ามีอีกหลายพื้นที่ ที่ต้องมีการกวาดล้างเชิงรุก ขณะเดียวกันสถานบันเทิงต่างๆ หรือแหล่งมั่วสุม จะต้องเร่งจัดระเบียบ ตนเชื่อว่าเรา x-ray มาเรารู้ และมีข้อมูลอยู่ในมือ แต่ข้อมูลเหล่านั้นจะต้องแปลให้เป็นรูปธรรม​ และจะต้องสร้างพื้นที่ทั่วประเทศไทยให้เป็นที่ปลอดภัยของทุกคน ซึ่งถือว่าเป็นหน้าที่ที่สำคัญ ทำให้เป็นเมืองสมัยใหม่

ส่วนเรื่องปัญหาภัยพิบัติ ทราบดีอยู่แล้วว่าจะเกิดช่วงไหนอย่างไร แต่จะต้องมีการวางแผนรับมือในเชิงรุก ไม่ต้องรอให้เกิดขึ้นแล้วตามแก้เรื่องไหนจัดการได้จัดการเลย

ขณะที่การสร้าง 5 ประการ​ คือการแก้ไขหนี้ครัวเรือน ต้องทำให้ประชาชนมีการออมและมีวินัยทางการเงินถือเป็นเรื่องใหญ่และกระทรวงมหาดไทยถือเป็นหน่วยงานสำคัญในการสร้างเศรษฐกิจฐานราก​ ต้องคิดค้นว่าแต่ละพื้นที่มีอะไรดี และสามารถพัฒนาต่อยอดได้อย่างไร​ และเรื่องหนี้ครัวเรือน อยากให้มีการจัดตั้งกลไกพิเศษ สนธิกำลังกรมการปกครอง อำเภอ​ เจ้าหน้าที่ตำรวจ​ สอดส่องดูแลช่วยเหลือประชาชนเพื่อป้องกันการปล่อยเงินกู้หนี้นอกระบบ

ส่วนเรื่องการศึกษาต้องเร่งสร้างเสริมสุขภาวะการศึกษา​ ชุมชน​ หมู่บ้าน​ เพื่อชีวิตที่ดี วันนี้ประเทศเราก้าวหน้าไปมากอย่าง 30 บาทรักษาทุกโรคได้รับการยอมรับ​ จากทั่วโลกแต่สิ่งที่ยังมีปัญหา แต่ยังไม่แน่ใจว่ามีความคิดเอาใจใส่เรื่องนี้เพียงพอหรือไม่ แต่ก็ยอมรับว่ามีบางส่วนเริ่มคิดแล้ว คือเรื่องการดูแลสังคมผู้สูงอายุ วันนี้เรามีผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น จึงจำเป็นต้องมีระบุผู้สูงอายุรองรับ จึงอยากฝากทุกภาคส่วนไปร่วมกันคิด

นายภูมิธรรมย้ำว่า หลักการแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณ เมื่อครั้งที่ตนและนางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร​ นายก​รัฐมนตรี​ ได้เดินทางลงพื้นที่อุทกภัยจังหวัดเชียงราย ก็ประสบปัญหา​ในเรื่องการเบิกจ่ายที่ต้องผ่านหลายขั้นตอน​ จึงอยากให้นั่งพูดคุยกันและตกลงแล้วก็เซ็นเลยทีเดียว​ เรารอได้​ แต่เขารอไม่ได้​ ไม่ใช่เรื่องของเรา​ เราไม่รู้สึก จึงต้องเปลี่ยนแปลงอะไร​ในหน่วยงานที่มีปัญหา อะไรที่ขัดแย้งทำเลย ไม่ต้องกลัวเสียงไป วิพากษ์วิจารณ์

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า เหมือนอย่างที่ตนแจ้งปัญหาเรื่องโป๊กเกอร์​ก็ด่ากันว่า กำลังสร้างให้ประเทศเป็นแหล่งการพนัน ไม่ใช่​ โลกเปลี่ยนไปแล้ว สิ่งที่สามารถมาใช้เป็นกีฬาได้แล้ว​ กฎระเบียบที่ตนแก้เขียนมาตั้งนานแล้ว แต่พอแก้กลายเป็นเฉพาะเจาะจง​ ให้สิทธิ์เฉพาะบางคน​ ก็ต้องแก้เพราะต้องการส่งเสริม​ เพราะกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา​ ต้องการสร้างพื้นที่​ ให้ประชาชนสามารถทำได้เป็นกีฬา

“ยืนยันว่าแม้จะมีการปลดก็ต้องมีการขออนุญาตยังพื้นที่อยู่เหมือนเดิม เอาไปบิดเบือนด่าว่าผู้ปฏิบัติงาน​ เขากำลังทำสิ่งที่ดี​ จะวิจารณ์ไม่ว่าแต่ต้องวิจารณ์บนความเข้าใจของปัญหา การทำให้รัฐบาลอ่อนแอลง​ เวลานี้เรากำลังเผชิญกับศึกชายแดน ไม่ใช่หยิบยกความผิดพลาดต่างๆที่เกิดขึ้นคนทำงานก็มีความผิดพลาดอยู่แล้ว แต่ผิดพลาดแล้วต้องเรียนรู้ว่าเราจะแก้ไขปัญหาอย่างไร” นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม​ ย้ำว่า หากใช้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง​ รองรับโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ตนว่าเราสามารถฝ่าวิกฤตได้ วันนี้ต้องมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างอีกหลาย จึงอยากให้ทำงานให้รวดเร็วทันใจนำเทคโนโลยีต่างๆมาใช้​ เพื่อที่จะเพิ่มความรวดเร็ว ไม่ใช่ใช้บุคลากรเพียงอย่างเดียว พร้อมย้ำว่าวันนี้รัฐบาลเอาจริง​ พร้อมที่จะดำเนินการต่างๆ​ หัวใจสำคัญ​ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ถือเป็นภารกิจที่สำคัญ วันนี้ยาเสพติดทั้งหมด​ ไปไม่ใช่เป็นเพียงความฝันหรือเป็นผักชีโรยหน้า อยากให้ทุกฝ่ายรับทราบและนโยบายนี้เป็นนโยบายที่เข้มข้นเด็ดขาด ต้องทำให้สำเร็จและอยากเห็นเป็นรูปธรรม และตนจะมีส่วนเข้าไปเร่งกระตุ้นดำเนินการในหลายเรื่องอยากให้ ทุกท่านเข้มแข็งเคร่งครัดกับสิ่งที่ตนได้เน้นย้ำ

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการมอบนโยบายกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และสาธารณสุขจังหวัด ได้มีพิธีมอบรายชื่อผู้ค้าและผู้เสพของแต่ละจังหวัด โดยในส่วนของจังหวัดอุบลราชธานี ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ยังคงขึ้นเวที มอบรายชื่อด้วยตัวเอง แม้ว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ว่าได้สั่งย้ายให้มาประจำที่กระทรวงมหาดไทยแล้ว

ขณะเดียวกัน มีเสียงฮือฮาในห้องประชุม เมื่อจังหวัดร้อยเอ็ด มอบรายชื่อผู้ค้าและผู้เสพ โดยมีผู้ค้า 1 รายและผู้เสพ 3 ราย.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

เปิด 13 ข้อตกลงหยุดยิง ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องรักษาสันติภาพ

มาเลเซีย 7 ส.ค.-เสร็จสิ้นแล้ว การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่ 2 ชาติ เห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้1.ยุติการใช้อาวุธทุกประเภท การโจมตีต่อพลเรือน เป้าหมายพลเรือน และเป้าหมายทางทหาร ในทุกพื้นที่และทุกกรณี2.รักษาสถานะการวางกำลังในที่ตั้งปัจจุบัน สถานะตั้งแต่ 28 ก.ค.68 โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลัง และไม่มีการลาดตระเวนไปยังที่ตั้งของอีกฝ่าย3.ไม่เพิ่มเติมกำลังตลอดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา4.ไม่กระทำการอันเป็นการยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียด การมีกิจกรรมทางทหารเข้าไปยังดินแดน เขตน่านฟ้า หรือที่ตั้งของอีกฝ่าย ตามสถานะการหยุดยิง ตั้งแต่ 28 ก.ค.68 และไม่สร้างโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำออกไปนอกขอบเขตของฝ่ายตน5.ไม่ใช้กำลังต่อพลเรือน หรือเป้าหมายทางพลเรือนในทุกกรณี6.การปฏิบัติตามอนุสัญญาเจนีวา: การปฏิบัติต่อผู้ที่ถูกจับกุมตัว การขอส่งตัวผู้บาดเจ็บมารักษาในสถานพยาบาลของอีกฝ่าย โดยจะขึ้นอยู่กับศักยภาพในการรองรับของสถานพยาบาลแล้วแต่กรณี สำหรับทหารที่อยู่ในความควบคุมของอีกฝ่ายหนึ่งจะได้รับการปล่อยตัวและส่งกลับประเทศ หลังจากยุติการใช้กำลังโดยสมบูรณ์ รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการส่งคืนร่างผู้เสียชีวิตอย่างสมเกียรติโดยเร็ว และจัดการศพภายใต้สภาพที่ถูกสุขลักษณะและด้วยความเคารพ7.กรณีมีความขัดแย้งกันด้วยอาวุธ ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ทั้งสองฝ่ายจะหารือกันในระดับปฏิบัติผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ เพื่อป้องกันการขยายตัวของสถานการณ์8.เห็นชอบให้เพิ่มในเรื่องของการปฏิบัติดังนี้8.1 ดำรงการติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่องระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่8.2 จัดการประชุม RBC ภายใน 2 สัปดาห์ นับจากการประชุม […]

แม่ทัพภาค 2 เชื่อผลประชุม GBC เป็นทิศทางที่ดี

7 ส.ค. – มทภ.2 ขอรอผลอย่างเป็นทางการหลังประชุม GBC เชื่อจะไปในทิศทางที่ดี เมิน “ฮุนเซน” ขอไทยงดใช้ F-16 ร้องนานาชาติ หยุดขายเครื่องบินรบให้ไทย ส่วนกรณีสายลับเขมร รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับมอบอุปกรณ์โดรนโลเคเตอร์ เครื่องจับพิกัดตัวโดรน รวม 30 เครื่อง มูลกว่า 8 ล้านบาท เครื่องนุ่งห่ม รวมถึงของใช้ที่จำเป็นเพื่อนำไปมอบให้ทหารแนวหน้า จากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้จะได้ข้อสรุปในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร พลโท บุญสิน บอกว่ารอการชี้แจงอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าจะดีขึ้น ย้ำว่า ในข้อเสนอ 8 เรื่อง 6 ประเด็น ตนให้ความสำคัญ ทหารไทย ณ ปัจจุบันนี้อยู่ตรงไหนก็ให้อยู่ตรงนั้น คำนึงถึงเรื่องนี้เป็นหลัก เน้นย้ำให้ทหารหน้าแนวตั้งอยู่ในความไม่ประมาท และตรึงกำลังไว้ตลอด เรื่องแผ่นดินไม่สามารถคุมได้ด้วยเครื่องมือ ต้องใช้คนเฝ้า เมื่อเปรียบเทียบกับท่าทีของกัมพูชาแล้ว เราจะต้องประกบไว้แบบนี้ […]

“พล.อ.ณัฐพล” เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย

มาเลเซีย 7 ส.ค.- “พล.อ.ณัฐพล” รมช.กลาโหม เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย ก่อนถก GBC ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ บ่ายนี้ เมื่อเช้าวันนี้ (7 ส.ค. 68) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าเยี่ยมคำนับ ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในขณะนี้และเป็นเจ้าภาพของสถานที่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาเข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นโอกาสแรกที่ฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้พบกันในระดับรัฐมนตรีก่อนที่จะเข้าร่วมประชุม GBC สมัยวิสามัญ ที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้ Deputy Minister of Defence pays courtesy call on Malaysian Prime Minister before Extraordinary Session […]

“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด จับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาส

กทม. 7 ส.ค.-“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด บุกจับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก๊วนกิ๊กเก่า “สีกากอล์ฟ” หลังพบทุจริตยักยอกเงินวัด เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 ส.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปาตแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาฯ ป.ป.ท. นำกำลังตำรวจ บก.ปปป. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เปิดปฏิบัติการ “กอล์ฟทีม EP.1” บุกค้นเป้าหมาย 3 จุด ใน จ.สุราษฎร์ธานี จ.พิจิตร และ จ.สมุทรสงคราม เพื่อจับกุมอดีตพระชั้นผู้ใหญ่ และ คนใกล้ชิด ที่เคยพัวพันสัมพันธ์ฉาวสีกากอล์ฟ หลังพบกระทำผิดทุจริตยักยอกเงินวัดมาใช้ดูแลสีกา เป้าหมายจุดแรกที่เข้าตรวจค้นเป็นสถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายทิวากร ดีไพร หรือ […]