“มนัญญา” สุดปลื้มไม่เลื่อนแบนสารเคมี 2 ชนิด

กรุงเทพฯ  30 เม.ย. – “มนัญญา” รมช.เกษตรฯ ดีใจคณะกรรมการวัตถุอันตรายไม่เลื่อนแบนพาราควอต-คลอร์ไพริฟอส ด้านผู้แทนเกษตรกรเตรียมฟ้องศาลปกครองทันทีที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ 


นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ดีใจที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติไม่เลื่อนการแบนพาราควอตและคลอร์ไพริฟอสออกไป แสดงให้เห็นว่า คณะกรรมการวัตถุอันตรายคำนึงถึงสุขภาพและความปลอดภัยของเกษตรกร ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญที่สุด 

สำหรับข้อเสนอแนะในการดำเนินการต่อหน่วยงานผู้รับผิดชอบและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้กำหนดมาตรการที่ชัดเจน เพื่อให้มีผลกระทบต่อฝ่ายต่าง ๆ น้อยที่สุดนั้น กระทรวงเกษตรฯ มีคณะทำงานพิจารณาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกใช้สารเคมีทางการเกษตร 3 ชนิด นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ เป็นประธาน ซึ่งได้หารือถึงการชดเชย การส่งเสริมให้ใช้สารชีวภัณฑ์ การใช้เครื่องจักรกลการเกษตร ตลอดจนการกำจัดสารเคมี 2 ชนิดนี้ที่ยังคงเหลือภายในประเทศ เป็นต้น โดยคณทำงานชุดนี้จะรวบรวมข้อมูลและนำเสนอแนวทางช่วยเหลือต่อนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อดำเนินการต่อไป


นายสุกรรณ์ สังข์วรรณะ เลขาธิการสมาพันธ์เกษตรปลอดภัย กล่าว่า ผิดหวังกับมติดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า คณะกรรมการไม่ได้มองถึงความยากลำบากของเกษตรกรที่ต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น ส่วนที่ระบุว่าการกำหนดปริมาณสารตกค้างในผลิตภัณฑ์อาหารนั้น กระทรวงสาธารณสุขมีคณะกรรมการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องเรื่องดังกล่าวจะพิจารณาและกำหนดให้เหมาะสมนั้น เกษตรกรเห็นว่าไม่ยุติธรรม เพราะห้ามเกษตรกรในประเทศใช้สาร 2 ชนิดนี้ ระดับปริมาณสารพิษซึ่งเป็นอันตรายทางเคมีในสินค้าเกษตร (MRLs) จะเท่ากับศูนย์ (Zero Terrorance) ดังนั้น ต้องห้ามนำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศที่ยังใช้สาร 2 ชนิดนี้อยู่ อีกทั้งทันทีที่ร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย (ฉบับที่..) พ.ศ. …. ซึ่งเป็นการออกประกาศเพื่อกำหนดให้พาราควอตและคลอร์ไพริฟอสเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 มีผลบังคับใช้ เกษตรกรพืชเศรษฐกิจหลัก 6 ชนิด คือ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน อ้อย มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และไม้ผลจะร่วมเป็นโจทก์ร้องขอความเป็นธรรมต่อศาลปกครอง เพื่อให้มีการพิสูจน์ โดยหลักวิทยาศาสตร์ที่เชื่อถือได้ ข้อขัดแย้งในสังคมที่มีมายาวนานจะได้จบเสียที.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง