กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – ที่ประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายเสียงส่วนใหญ่มีมติไม่ทบทวนแบน “พาราควอต-คลอร์ไพริฟอส” เนื่องจากเพิ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา และน่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่พูดเรื่องแบนหรือไม่แบนสารเคมี 2 ตัวนี้
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย ครั้งที่ 3-2/2563 ว่า ที่ประชุมพิจารณาวาระสำคัญเรื่อง ร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย ซึ่งเป็นการออกประกาศเพื่อกำหนดให้พาราควอตและคลอร์ไพริฟอสเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ซึ่งห้ามมิให้มีการผลิต นำเข้า ส่งออกหรือมีไว้ครอบครองตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 เป็นต้นมานั้น การประชุมครั้งนี้มีข้อเสนอจากภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งขยายเวลาการบังคับใช้ออกไปและคงมติเดิมของคณะกรรมการวัตถุอันตรายคือไม่มีการขยายเวลา ที่ประชุมจึงต้องมีการลงมติโดยเปิดเผย
ทั้งนี้ กรรมการที่อยู่ในห้องประชุม 24 คน มีผู้เห็นด้วยกับการทบทวนมติ 4 คน และไม่เห็นด้วย 20 คน ที่ประชุมจึงมีมติโดยเสียงส่วนใหญ่ว่าไม่สมควรที่จะออกประกาศยกเลิกการใช้พาราควอตและคลอร์ไพริฟอส เนื่องจากประกาศเพิ่งมีผลบังคับใช้ไปเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมาและมีการฟ้องคดีอยู่ในการพิจารณาของศาลปกครอง จึงมอบหมายให้กรมวิชาการเกษตรและกระทรวงสาธารณสุขนำข้อมูลจากคณะกรรมการไปพิจารณาและรายงานคณะกรรมการต่อไป
นายสุริยะ กล่าวต่อไปว่า เมื่อมีมติให้แบนสารพาราควอตและคลอร์ไพริฟอสจะต้องมีการหาสารเคมีทางการเกษตรหรือสารทางเลือกเข้ามาทดแทน เพราะสารเคมี 2 ชนิดนี้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และน่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะพูดถึงเรื่องการแบนหรือไม่แบนสารเคมี 2 ตัวนี้
นายสัตวแพทย์อภัย สุทธิสังข์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การหาสารเคมีทดแทน 2 สารดังกล่าวยังไม่ได้ข้อสรุป แต่กระทรวงเกษตรฯ มีวิธีการควบคุมวัชพืชและศัตรูพืช ซึ่งวิธีการหรือค่าใช้จ่ายไม่ได้เพิ่มขึ้น 30-40% ตามที่เป็นข่าว หลังจากนี้ทางกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์กำลังเร่งดำเนินการเรื่องการตลาด เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรมีแรงจูงใจที่จะไม่ใช้ 2 สารเคมีนี้อีกต่อไป.-สำนักข่าวไทย