กรุงเทพฯ 29 เม.ย. – ผู้ประกอบการอสังหาฯ คาดหวังกิจกรรมทางเศรษฐกิจดีขึ้น หลังคลายล็อกดาวน์ ระบุปีนี้ภาพรวมคงหดตัวกว่า 2 หลัก คาดหวังรัฐทบทวนภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ขยายเวลาลดค่าจดจำนอง
นางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การที่รัฐบาลเริ่มคลายล็อกดาวน์บางส่วนลงในเดือนพฤษภาคม ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจขยับดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าการฟื้นตัวจะใช้เวลามากน้อยแค่ไหนและจะเป็นรูปแบบใด รูปตัว V, U หรือ L โดยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แม้เป็นปัจจัย 4 แต่ก็ได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อของประชาชนที่เผชิญวิกฤติตกงานหรือถูกลดเงินเดือน ซึ่งคาดว่ายอดขายของภาพรวมทั้งอุตสาหกรรมนี้น่าจะลดต่ำมากกว่าตัวเลข 2 หลักขึ้นไป
โดยส่วนของบริษัทก็ได้ปรับตัวลดการลงทุน ลงทุนเฉพาะโครงการแนวราบและชะลอโครงการใหม่คอนโดมิเนียม 3 โครงการ วงเงินลงทุนรวม 2,000-3,000 ล้านบาท ชะลอแผนการซื้อที่ดินใหม่ ปรับลดงบลงทุนให้เหมาะสม แต่ไม่มีแผนลดพนักงานแต่อย่างใด
“ช่วงนี้หลายโครงการลดราคาเพื่อดึงดูดคนซื้อ คนอยากมีบ้านก็อยากได้ เพราะราคาดี แต่จากการตกงาน ลดเงินเดือน ทำให้แบงก์ไม่ปล่อยกู้ ก็ซื้อไม่ได้ เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจจาก COVID-19” นางสาวเกษรา กล่าว
นอกจากนี้ ในส่วนของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ต่างต้องการเห็นรัฐบาลทบทวนภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เพราะเป็นภาระเพิ่มขึ้นซ้ำเติมผู้ประกอบการในภาวะเช่นนี้ รวมทั้งควรพิจารณาต่ออายุการลดค่าจดจำนองและค่าโอนเหลือ 0.01% จากที่จะมีผลบังคับใช้จนถึง 24 ธันวาคม 2563
“ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กรณีที่ดินทิ้งไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ ให้มีอัตราภาษีไม่เกินร้อยละ 1.2 ของฐานภาษี ในภาวะเช่นนี้เศรษฐกิจกระทบจาก COVID-19 กำลังซื้อลดลง ทำให้ผู้ประกอบการชะลอแผนก่อสร้างโครงการใหม่ ที่ดินเปล่าที่เตรียมไว้ก็ต้องจ่ายภาษีเพิ่ม อยากให้รัฐทบทวน และในส่วนของบริษัทก็ได้ระงับแผนการซื้อที่ดินใหม่ออกไปก่อน” นางสาวเกษรา กล่าว
ทัั้งนี้ ในปัจจุบันจากที่ภาครัฐยังมีความไม่ชัดเจนในการจัดเก็บภาษี จึงมีประกาศขยายกำหนดเวลาดำเนินการตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างออกไป โดยภาษีที่ต้องชำระครั้งแรกจากเดิมเดือนเมษายน 2563 ถูกเลื่อนออกไปเป็นเดือนสิงหาคม 2563.-สำนักข่าวไทย