บุรีรัมย์ 27 เม.ย. – ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ สั่งให้อำเภอตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ผู้ใหญ่บ้านเรียกเก็บเงินค่าดำเนินการติดสติกเกอร์รับรองปลอดเชื้อโควิดกับชาวบ้านรายละ 20 บาท หากพบผิดจริงมีโทษทั้งวินัยและอาญา
สืบเนื่องจากมีชาวบ้าน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ร้องเรียนว่าผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ต.หนองแวง อ.ละหานทราย เรียกเก็บเงินค่าดำเนินการติดสติกเกอร์บนบัตรประชาชนจากชาวบ้านรายละ 20 บาท ซึ่งการติดสติกเกอร์ Buriram Healthy บนบัตรประชาชนเป็นการรับรองการปลอดเชื้อของผู้ที่ได้รับการติดสติกเกอร์ ตามมาตรการของคณะกรรมการโรคติดต่อ เพื่อควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 การติดสติกเกอร์ดังกล่าวได้มอบหมายให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือผู้นำชุมชน เป็นผู้สำรวจตรวจสอบรายชื่อ และนำสติกเกอร์ไปติดให้กับชาวบ้านในหมู่บ้านที่ตัวเองดูแลรับผิดชอบ โดยประชาชนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น แต่จากการลงพื้นที่ตรวจสอบตามที่ได้รับร้องเรียน ก็ให้ข้อมูลตรงกันว่ามีการเรียกเก็บเงินค่าดำเนินการจริงคนละ 20 บาท
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติปราบโควิด-19 จ.บุรีรัมย์ ได้กุมผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ต.หนองแวง อ.ละหานทราย ที่ถูกร้องเรียน เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157
ล่าสุด ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ ได้สั่งการให้นายอำเภอละหานทรายตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวแล้ว หากพบพยานหลักฐานว่ากระทำผิดจริง จะถูกลงโทษทั้งวินัยและอาญา เนื่องจากเป็นเจ้าพนักงานของรัฐแต่กลับใช้ตำแหน่งหน้าที่ไปแสวงหาผลประโยชน์ซ้ำเติมชาวบ้านในช่วงโควิดระบาด
ขณะที่ตำรวจ สภ.ละหานทราย ท้องที่เกิดเหตุ ได้ลงพื้นที่หาข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติม และเรียกสอบปากคำผู้มีส่วนเกี่ยวข้องว่ามีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องในการกระทำผิดด้วยหรือไม่ หลังจากนี้จะได้รวบรวมพยานหลักฐานสรุปสำนวนส่งอัยการตามขั้นตอนต่อไป
สำหรับมาตรการของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ตามแนวทาง Buriram Healthy Model ระหว่างวันที่ 1-31 พฤษภาคม 2563 ข้อที่ 2. บุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปี ขึ้นไปที่พักอาศัยอยู่ในท้องที่จังหวัดบุรีรัมย์ ไม่ว่าจะมีภูมิลำเนาอยู่ ณ ท้องที่ใดก็ตาม ต้องมีเครื่องหมายแสดงการปลอดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 (สติกเกอร์) ติดอยู่บนบัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง (บุคคลต่างด้าว) หากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อหรือตำรวจตรวจสอบแล้ว ไม่พบเครื่องหมายปลอดเชื้อโควิด-19 (สติกเกอร์) บนบัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทาง (บุคคลต่างด้าว) ผู้นั้นจะต้องเข้าสู่กระบวนการกักตัวตามระยะเวลา 14 วันตามประกาศ. – สำนักข่าวไทย