ลำปาง 23 เม.ย.- ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลำปาง รักษาหายแล้วเป็นรายที่ 2 แต่ยังต้องกักตัวอีกระยะ ด้านผู้ว่าฯ “ณรงค์ศักดิ์” ระบุแม้สถานการณ์โรคเริ่มผ่อนคลาย ขอประชาชนอย่าประมาทใช้วิกฤติที่ผ่านมาเป็นบทเรียนดำเนินชีวิต คาดจากนี้อาจเปลี่ยนไป ไม่ยกแก้วชนแก้ว รวมถึงระบบ/รูปแบบการทำงานจากบ้าน
นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เปิดเผยถึงอาการของผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 4 รายว่า ผู้ป่วยทั้ง 4 ราย เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ล่าสุดการรักษาผู้ป่วยหายเพิ่มเป็นรายที่ 2 คือ แม่กับลูกสาว ส่วนอีก 2 ราย ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล สำหรับผู้ป่วยที่รักษาหายในรายที่เป็นลูกสาวนั้น ประกอบอาชีพค้าขายอยู่ย่านรัชดาภิเษก กทม. กลับภูมิลำเนา อ.งาว จ.ลำปางเมื่อปลายเดือนมีนาคม ต่อมาพบว่าคนในบ้านติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ผู้ป่วยรายนี้จะตรวจไม่พบเชื้อแล้ว แต่ยังต้องกักตัวต่อไปอีกในโรงพยาบาล 14 วัน จนกว่าจะปลอดภัย
นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวด้วยว่า หลังพบผู้ติดเชื้อ เจ้าหน้าที่ทำงานกันอย่างเข้มแข็งเพื่อเร่งควบคุมไม่ให้มีการระบาด และต้องปิดหมู่บ้านที่พบเชื้อด้วยเช่นกัน แต่เวลานี้ได้คืนพื้นที่หมู่บ้านเรียบร้อยแล้ว หลังไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม นอกจากครอบครัวผู้ป่วย 4 ราย แม้ต่อไปผู้ป่วยจะหายทุกคน และไม่พบการติดเชื้อในพื้นที่ แต่ขอให้ประชาชนทุกพื้นที่ตระหนักถึงการใช้ชีวิตไม่ประมาท ยังต้องช่วยกันเฝ้าระวังเพื่อไม่ให้โรคกลับมาอีก เชื่อว่าอนาคตการทำงานก็จะเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน อาจทำงานที่บ้านกันมากขึ้น การไปเดินเที่ยวตามห้าง หรือสวนสาธารณะอาจน้อยลง แต่ในทางกลับกันได้ใช้ชีวิตกับบุคคลในครอบครัวมากขึ้น
“เวลาช่วงลำบากของทุกคนก็ผ่านมาแล้ว ดังนั้น ประชาชนต้องทิ้งระยะห่างกัน สวมใส่หน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงการอยู่รวมกันในสถานที่เดียวกัน โอกาสที่จะผ่อนปรนมาตรการต่าง ๆ คงจะมีขึ้นในเร็ววัน แม้จะมีมาตรการผ่อนคลายต่าง ๆ ออกมา ชีวิตที่จะกลับไปเป็นแบบเดิม ไปรวมชุมนุม ไปเฮฮารวมกลุ่มกัน ดื่มเหล้า ชนแก้ว กินเหล้าแก้วเดียวกัน คงจะต้องระมัดระวัง และไม่ควรทำอีกแล้ว เพราะโอกาสติดเชื้อก็จะเป็นไปได้สูง เชื่อว่าการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ที่จะร่วมกันป้องกันโรคต่อไป ก็จะสามารถหาความสุขในการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่นี้ไปได้อย่างมีความสุข”.-สำนักข่าวไทย