กรุงเทพฯ 19 เม.ย. – “สนธิรัตน์” นัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถกด่วน ดูแลค่าไฟฟ้าประชาชนช่วงอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนได้ระบุผ่านสื่อสังคมออนไลน์เป็นจำนวนมากถึงค่าไฟในเดือนเมษายนที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น บางรายระบุ ปรับเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว เช่น จากเคยจ่าย 800 บาทต่อเดือน ปรับขึ้นไปสูงถึงเกือบ 2,000 บาท โดยส่วนใหญ่เห็นว่า การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อาจคำนวณค่าไฟฟ้าผิดพลาด บางส่วนชี้ว่า การปฏิบัติตามมาตรการอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ การทำงานจากที่บ้าน หรือ Work From Home ทำให้เกิดการใช้ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น จากการเปิดเครื่องปรับอากาศ การเปิดตู้เย็นบ่อยครั้ง และการทำอาหารรับประทานเองที่บ้าน โดยหลายรายเสนอว่า รัฐบาลควรจะลดค่าไฟฟ้ามากกว่ามาตรการที่ได้ดำเนินการคือ ลดค่าไฟฟ้าให้แก่ประชาชนร้อยละ 3 เป็นเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่เมษายน ถึง มิถุนายน อย่างไรก็ตาม ได้มีการชี้แจงในสื่อสังคมออนไลน์เช่นกันว่าโครงสร้างค่าไฟฟ้าของประเทศไทย เป็นแบบอัตราก้าวหน้า ยิ่งใช้ไฟฟ้าสูง อัตราค่าไฟฟ้าต่อหน่วยก็แพงขึ้นไปเรื่อยๆ เช่น จำนวนหน่วยที่ 23 ราคาต่อหน่วยจะอยู่ที่ 3.01 บาท จำนวนหน่วยที่ 88 ราคาต่อหน่วยจะอยู่ที่ 3.50 บาท
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ได้รับทราบความเดือดร้อนดังกล่าว รวมทั้งทางภาคเอกชนได้เสนอให้ปรับลดค่าไฟฟ้าในสัดส่วนร้อยละ 5 ดังนั้น ในวันพรุ่งนี้ (20 เม.ย.) ได้เชิญปลัดกระทรวงพลังงาน คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมหารือแนวทางมาตรการเรื่องค่าไฟฟ้าเพิ่มจากที่ได้มีหลายมาตรการออกไปแล้ว เรื่องนี้ไม่ได้นิ่งนอนใจ
นางสาวผาสุก สัมปุณณะโชติ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร การไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA เปิดเผยว่าเนื่องจากช่วงนี้ประเทศไทยมีสภาพอากาศที่ร้อนจัด และจากสถานการณ์ระบาดของ COVID-19 มีมาตรการขอความร่วมมือให้ทำงานที่บ้าน (Work from Home) เว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่พักอาศัยและทำงานอยู่กับบ้านใช้ไฟฟ้าตลอดทั้งวันประกอบกับอากาศที่ร้อนทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานมากขึ้นส่งผลให้มีความต้องการพลังงานไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยสูงขึ้นโดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบได้แก่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ
พร้อมแนะให้หมั่นดูแลบำรุงรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าให้พร้อมใช้งานและปลอดภัยอยู่เสมอแล้วการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้ประหยัดค่าไฟฟ้าได้ โดย ปิดสวิตช์ไฟดวงที่ไม่ใช้ ใช้เครื่องปรับอากาศในช่วงเวลาจำเป็น ปรับเพิ่มอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศมาอยู่ที่ระดับ 26 องศาเซลเซียส แต่หากต้องการความรู้สึกเย็นสบายเท่ากับ 24 องศาเซลเซียส ให้เปิดพัดลมช่วยโดยไม่ต้องลดอุณหภูมิของแอร์ การเปิดแอร์พร้อมพัดลมจะประหยัดไฟได้มากกว่าการลดอุณหภูมิของแอร์ เพราะพัดลมช่วยเพิ่มความเร็วลม เพิ่มการเคลื่อนที่ของอากาศ ทำให้รู้สึกเย็นสบายมากขึ้น ล้างเครื่องปรับอากาศอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง หมั่นตรวจสอบสายไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์ไฟฟ้าของท่านให้อยู่ในสภาพดีหากพบว่าชำรุดควรเปลี่ยนใหม่ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ รวมทั้งติดตั้งสายดินพร้อมเครื่องตัดไฟรั่วเพื่อป้องกันอันตรายจากกระแสไฟฟ้า ควรปิดสวิตช์และถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าออกทุกครั้งเมื่อไม่ได้ใช้งาน เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจรที่ก่อให้เกิดอัคคีภัย เลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงาน บำรุงรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าให้พร้อมใช้งานเพื่อความปลอดภัยอยู่เสมอ ทั้งหมดนี้จะเป็นการช่วยประหยัดพลังงานลดค่าไฟฟ้าลงได้ . – สำนักข่าวไทย