สุราษฎร์ฯ เร่งค้นหา 3 ชีวิตสูญหายคลื่นซัดเรือลากจูง

สุราษฎร์ธานี 1 ธ.ค.-  ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ฯ เตรียมทีมปฏิบัติการทั้งทางอากาศและทะเล เร่งค้นหา 3 ผู้สูญหายพ่อแม่ลูกจากเหตุคลื่นซัดเรือลากจูงล่มเกาะเต่า ขณะบรรทุกเศษไม้ยางทำเชื้อเพลิงจะไปส่งบางปะกง


กรณีเหตุ เรือโชคหิรัญ 2    ซึ่งลากจูงเรือบาส จำนวน 6 ลำ   บรรทุกเศษไม้ยางพาราสำหรับทำเชื้อเพลิง   ออกเดินทางจากท่าเทียบเรือบริเวณปากน้ำ อ.เมือง    จ.สุราษฎร์ธานี    ไปยังท่าเทียบเรือน้ำลึกบางปะกง  จ. ฉะเชิงเทรา ได้ประสบกับคลื่นลมแรง ขณะเดินทางผ่าน เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน  จ.สุราษฎร์ธานี  ทำให้เชือกลากจูงขาด เป็นเหตุให้เรือบาสหลุดออกจากกัน และจมหายไป 1 ลำ พร้อมผู้ประสบเหตุจมน้ำ 11 ราย เมื่อค่ำวานนี้ (30 พ.ย.)  ทางตำรวจน้ำสุราษฎร์ธานี และ ชุมพรเร่งให้การช่วยเหลือนำขึ้นฝั่งเกาะเต่าได้ 8 ราย ยังสูญหายอีก 3 ราย   เป็นพ่อแม่ และลูกวัย 3 ขวบ

เช้าวันนี้ (1 ธ.ค.)   นายอวยชัย  อินทร์นาค ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี  ประชุมร่วมกับ นาวาอากาศเอก สมใจ ชัยวงษ์ ผู้บังคับการกองบิน  7  เพื่อประเมินสถานการณ์ในการเร่งค้นหาอย่างต่อเนื่อง ทั้งทางอากาศและทางน้ำ โดยจะมีนำเฮลิคอปเตอร์ของกู้ภัย และเรือตรวจการณ์ 97 ของกองทัพเรือภาค 2 ร่วมปฏิบัติการค้นหา แต่เวลานี้ทะเลอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นลมแรง  สูงประมาณ 4-5  เมตร และมีพายุฝน


นางวาสนา ไทรทองคำ  หนึ่ง ในลูกเรือที่รอดชีวิต  เล่าว่า  เรือทั้ง 6 ลำ เป็นเรือยนต์ลากจูง 2 ลำ และเรือพ่วงบรรทุกเศษไม้ยางพาราอีก 4 ลำ ออกจากปากน้ำตาปี อ.เมืองสุราษฎร์ธานี  เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 28 พ.ย. เพื่อไปส่งส่งที่  อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา โดยเรือของตนชื่อเรือโชคหิรัญ เป็นเรือลากจูงและได้รับความเสียหายเช่นกันของเครื่องยนต์เรือ ซึ่งจะต้องลากไปซ่อมอู่ อ.บางปะกง

นางวาสนา กล่าวด้วยว่า ระหว่างเดินทางได้ทราบข่าวจากกรมอุตุนิยมวิทยาว่ามีคลื่นลมแรง จึงพยายามหาที่หลบใกล้กับเกาะเต่า ปรากฏว่าเชือกโยงเรือพ่วงบรรทุกลำที่ 3 เกิดขาด ทำให้เรือถูกลากจูงไปเพียง 2 ลำ ส่วนที่เหลือลอยลำอยู่กลางทะเลจนถูกคลื่นซัดเรือพ่วงบรรทุกลำที่ 4 จมหายไป ซึ่งมีลูกเรือครอบครัวเดียวกัน 3 คน จมหายไป ส่วนตนได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่นำขึ้นฝั่ง

กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศภาวะฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคใต้ตอนล่าง และคลื่นลมแรงในอ่าวไทยระหว่างวันที่ 1-4 ธันวาคม นี้ ฉบับที่ 8 ลงวันที่ 1 ธันวาคม 2559 โดยมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางที่พัดปกคลุมภาคใต้และ อ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้ตอนล่างจะเคลื่อนผ่านประเทศมาเลเซียและภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล  ส่วนช่วงวันที่ 2-4 ธันวาคม 2559 บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่  ขอให้ประชาชนในจังหวัดดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนอ่าวไทยคลื่นลมมีกำลังแรงขึ้น ความสูงของคลื่น 2-3 เมตร  เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง