พาชมโรงแรม Hospitel แบ่งเบาภาระโรงพยาบาล

3 เม.ย.-เปลี่ยนโรงแรมเป็น Hospitel เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาล ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและโรงแรม ขณะนี้ได้ห้องพักแล้วรวม 800 ห้อง มีผู้เข้าพักรักษา 60 คน มีโรงแรมจากทั่วประเทศเสนอเข้าร่วมกว่า 100 แห่ง รวมกว่า 1.6 หมื่นห้อง ขณะนี้ผ่านเกณฑ์แล้ว 18 แห่ง รวมกว่า 2 พันห้อง


การเตรียมพร้อมเปลี่ยนโรงแรมเป็น Hospitel  คุณภัทรดนัยพาไปดูโรงแรม 2 แห่งในการจัดการบริหารเตียงคนไข้ ในลักษณะของ Hospitel คือ โรงแรมปริ๊นซ์ตัน มีจำนวน 270 ห้องพัก ขณะนี้รองรับผู้ป่วยแล้วจำนวน 50 คนและเตรียมเข้าพักเพิ่มอีกประมาณ 10 คน ส่วนโรงแรมเดอะพาลาสโซ และโรงแรมในเครือ มีห้องพัก 439 ห้อง โดยจะรองรับผู้ป่วยใน 2 กรณีคือกรณีที่แพทย์วินิจฉัยว่าคนไข้เข้าข่ายการกักตัวเพราะเป็นกลุ่มเสี่ยงต้องสังเกตอาการจำนวน 14 วัน ส่วนอีกกลุ่ม คือผู้ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมแม้ว่า แพทย์ยังไม่วินิจฉัยว่าต้องกักตัวก็สามารถเข้ากักตัวเองตามสถานพยาบาลที่เข้าร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อสังเกตอาการได้


สำหรับหลักเกณฑ์ในการพิจารณาสถานประกอบการที่จะเข้าร่วมเป็น Hospitel ว่า ต้องมีจำนวนห้องพักไม่น้อยกว่า 30ห้องขึ้นไป มีใบอนุญาตถูกต้อง มีโครงสร้างอาคาร และอุปกรณ์ต่างๆที่พร้อม สะดวกในการสนับสนุนภารกิจ โดยเฉพาะเรื่องสุขอนามัย ทั้งระบบกำจัดขยะ การซักผ้าติดเชื้อ ระบบระบายน้ำเสีย ซึ่งการที่โรงแรมเหล่านี้มาร่วมให้กระทรวงสาธารณสุขใช้เป็นที่รองรับคนไข้นั้น ทางกระทรวงจะพิจารณาค่าตอบแทนให้กับสถานประกอบการที่เข้าร่วมตามหลักการเบิกจ่ายของภาครัฐ


นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ตอนนี้มีโรงแรมต่างๆ ทั่วประเทศที่สนใจจะเข้าร่วมโครงการ Hospitel อีกจำนวนมาก เช่นใน กทม.มี 85 แห่ง,ชลบุรี 15แห่ง,นครราชสีมา 8 แห่ง ,เชียงใหม่ 6 แห่ง  รวมทั่วประเทศมีห้องพักที่พร้อมจะเข้าร่วมมากถึงกว่า 16,000 ห้อง แต่ขณะนี้โรงแรมที่ผ่านเกณฑ์จาก สบส.มี 18 แห่ง รวมแล้วกว่า 2,000 ห้องที่พร้อมจะเข้าร่วม ซึ่งตัวเลขที่แต่ละโรงแรมได้รับอาจน้อยนิดเทียบไม่ได้กับค่าโรงแรมที่เคยได้รับในช่วงปกติ ต้องถือว่ากลุ่มคนเหล่านี้คือผู้เสียสละเพื่อสังคม จึงอยากให้ร่วมกันชื่นชม

ด้าน นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ อธิบายถึงผู้ติดเชื้อที่จะเข้ารับการพักฟื้น Hospitel จะพิจารณาจากคนไข้เป็นหลักโดย 

1.คนไข้นอนดูแลรักษาในโรงพยาบาลหลักแล้วอย่างน้อย 7 วัน 

2. คนไข้ไม่มีอาการอะไรเท่าไหร่แล้ว เช่น อาจจะไอนิดหน่อย และไม่มีไข้ 

3.มีโรคประจำตัวที่คุมได้ เช่น เบาหวาน หรือความดันสูงที่คุมได้ และจะต้องมีการจัดยาสำหรับโรคประจำตัวมาพร้อมอย่างน้อย 2 สัปดาห์ 

4. คนไข้ยินดีที่จะเข้ารับการพักฟื้นที่โรงแรม โดยจะมีการประเมินสุขภาพจิตก่อน ต้องไม่ก้าวร้าว หรือไม่มีภาวะซึมเศร้า 

5.โรงพยาบาลหลักที่ดูแลในระยะแรกจะต้องยินดีรับคนไข้กลับไปดูแลหากมีความจำเป็น

สำหรับในห้องพักจะจัดเครื่องมือที่สำคัญไว้ 2 ชิ้น คือ เทอร์โมมิเตอร์อัตโนมัติและเครื่องวัดระดับออกซิเจนที่หลายนิ้ว เพราะผู้ติดโควิด-19ที่กลัวที่สุดคือการโจมตีที่ปอด และการส่งสัญญาณคือระดับออกซิเจนที่ลดลง คนไข้จะอยู่ในห้องตลอดเวลา จะเปิดประตุมาเฉพาะช่วงเวลารับอาหารไปทานในห้องเท่านั้น

นอกจากนี้ยังได้จัดเตรียมทีมแพทย์พยาบาลในการดูแลคนไข้ โรงแรมละ 3-5 คน มาดูแล โดยจะดูแลผ่านกล้องซีซีทีวีที่มีการเชื่อต่อและเห็นความเคลื่อนไหวทุกห้อง และในห้องพักจัดเตรียมอุปกรณ์วัดไข้ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการเอ็กซเรย์ปอด เพื่ออำนวยความสะดวกในการรักษาดูแลคนไข้อีกด้วย ยืนยันมีมาตรฐานตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดทุกแห่ง

ขณะเดียวกันหลังจากที่สถานการณ์คลี่คลาย ทางกระทรวงสาธารณสุขจะมีระบบทำความสะอาดฆ่าเชื้ออย่างดี มีมาตรฐานให้กับโรงแรม กลับมาเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวได้ จึงขอให้มั่นใจในระบบการทำงานของกระทรวงสาธารณสุขที่จะดูผู้เสียสละให้กับสังคมในเวลานี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”