fbpx

ธปท.ชี้โควิด-19 ฉุดจีดีพีไตรมาส 2 ดิ่งลึกสุด ทั้งปีติดลบ 5.3%

กรุงเทพฯ 31 มี.ค. – แบงก์ชาติเผยภาวะเศรษฐกิจไทยเดือนกุมภาพันธ์ยังหดตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวติดลบหนักถึง 42.6% จากผลกระทบโควิด-19 พร้อมคาดจีดีพีติดลบทุกไตรมาส โดยเฉพาะไตรมาส 2 จะดิ่งลึกสุด ทำให้ทั้งปีติดลบ 5.3% ขณะที่ตัวเลขการว่างงานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น พร้อมลุ้นมาตรการเยียวยาเฟส 3 ช่วยประคองตัวเลขจีดีพีไทย 


นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจไทยเดือนกุมภาพันธ์ 2563 หดตัวจากระยะเดียวกันปีก่อน โดยการระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจเป็นวงกว้างชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวติดลบสูงถึง 42.6% การส่งออกโดยรวมยังขยายตัวได้ 3.6% แต่หากไม่รวมการส่งออกทองคำจะติดลบ 1.3% และการนำเข้าสินค้าได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากมาตรการปิดเมืองของจีน ส่งผลให้บัญชีเดินสะพัดเกินดุลกว่า 5,400 ล้านดอลลาร์ฯ ทั้งนี้ ดุลบัญชีเดินสะพัดมีแนวโน้มลดลงตามการหดตัวของภาคการท่องเที่ยวและราคาน้ำมันที่ลดลง 

ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐและรายจ่ายรัฐวิสาหกิจหดตัวต่อเนื่อง มีเพียงการบริโภคภาคเอกชนที่ยังขยายตัวได้จากการเร่งซื้อสินค้า อุปโภคบริโภคที่จำเป็น ส่วนกำลังซื้อของภาคครัวเรือนอ่อนแอมากขึ้น โดยเฉพาะเกษตรกร ซึ่งประเด็นที่ยังต้องติดตามใกล้ชิดคือปัญหาภัยแล้งที่จะส่งผลกระทบไปถึงภาคการผลิตด้วย ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงจากเดือนก่อนตามราคาพลังงานที่ลดลง ขณะที่เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงต่อเนื่อง ซึ่งในอนาคตจะเป็นผลดีต่อการส่งออก โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเกษตร 


ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธปท. ระบุว่าประมาณการณ์ตัวเลขจีดีพีของแบงก์ชาติที่คาดว่าทั้งปีจะติดลบ 5.3% นั้น เป็นการหดตัวทุกไตรมาสและหดตัวลึกสุดไตรมาส 2 โดยรวมสมมติฐานการหดตัวของภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะไตรมาส 2 อาจไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศและสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะสามารถควบคุมได้ ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวเริ่มกลับมาดีขึ้นไตรมาส 3 และ 4 แบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะยังมีการระบาดของประเทศอื่น ขณะที่ปี 2564 ยังมีมุมมองที่เป็นบวกต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ 

นอกจากนี้ ยังรวมสมมติฐานมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แล้ว ทั้งมาตรการเฟส 1 และ 2 รวมถึงมาตรการจ่ายเงินเยียวยา 5,000 บาท จำนวน 3 ล้านคน แต่ตัวเลขล่าสุดมีผู้ลงทะเบียนกว่า 20 ล้านคนนั้น ยังต้องติดตามว่าท้ายที่สุดจะจ่ายเยียวยาจำนวนเท่าใด และยังไม่ได้รวมสมมติฐานการใช้มาตรการพักชำระหนี้ที่ออกมาล่าสุด ส่วนมาตรการเฟส 3 ที่เตรียมออกมาและคาดว่าจะมีการใช้งบสูงกว่าเฟส 1 และเฟส 2 ที่ใช้งบรวมกันกว่า 400,000 ล้านบาทนั้น หากเป็นจริง จะส่งผลดีต่อตัวเลขจีดีพี 2-3% 

ขณะที่ตัวเลขการว่างงานล่าสุดเพิ่มขึ้น 0.1% นั้น ยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำ แต่จากสถานการณ์ขณะนี้ตัวเลขการว่างงานมีแนวโน้มมากขึ้น แต่จะไม่กระโดดเหมือนกับอัตราการว่างงานของสหรัฐ เพราะโครงสร้างตลาดแรงงานไทยหากมีงานทำ 1 ชม. ก็ไม่นับว่าเป็นอัตราการว่างงาน แต่สิ่งที่ ธปท.ให้ความสำคัญคือ รายได้ที่หายไปและจำเป็นต้องได้รับการเยียวยาจากภาครัฐ  ซึ่ง 5,000 บาทอาจไม่เพียงพอ 


ขณะที่เสถียรภาพของสถาบันการเงินขณะนี้มีเงินทุนสำรองค่อนข้างสูง และเพียงพอที่จะรองรับตัวเลขหนี้เสียที่จะเพิ่มขึ้นได้อีกมาก  ส่วนกรณีความกังวลที่ ธปท.ออกมาตรการเสริมสภาพคล่องกองทุนนั้น แม้เป็นมาตรการใหม่และเม็ดเงินค่อนข้างสูง แต่เงินที่นำมาใช้เป็นเงินบาท จึงไม่มีผลกระทบต่อเงินทุนสำรองระหว่างประเทศอย่างแน่นอน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย