กรุงเทพฯ 13 มี.ค. – ส.อ.ท.มอบหน้ากากผ้า 100,000 ชิ้น ให้ 10 โรงพยาบาลรัฐ พร้อมมอบแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ 300,000 ลิตรให้โรงพยาบาลที่จำเป็น
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ภายในเดือนมีนาคมนี้ ส.อ.ท.เตรียมหน้ากากผ้า 100,000 ชิ้น มอบให้แพทย์ พยาบาล และบุคลากรโรงพยาบาลรัฐ 10 แห่ง ๆ ละ 10,000 ชิ้น รองรับการรักษากลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 หน้ากากผ้าเหมาะสำหรับผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ในโรงพยาบาล แต่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่สุ่มเสี่ยง โดยหน้ากากผ้าคุณภาพเพียงพอลดความเสี่ยงการติดเชื้อที่ผ่านการทดสอบจากสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอและสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) มีคุณสมบัติป้องกันละอองสารคัดหลั่งจากการไอหรือจามของผู้สวมใส่ที่มีขนาด 50-5 ไมครอน สามารถซักและนำกลับมาใช้ซ้ำได้ เพื่อช่วยลดขยะได้อีกทางหนึ่ง
สำหรับโรงพยาบาลที่นำไปมอบ ได้แก่ โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลวชิรพยาบาล โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช โรงพยาบาลตำรวจ โรงพยาบาลสงฆ์ และโรงพยาบาลเลิดสิน นอกจากนี้ ยังเตรียมผลิตหน้ากากผ้าราคาพิเศษให้กับผู้ประกอบการสมาชิกให้พนักงานได้ใช้
นอกจากนี้ กลุ่มผู้ประกอบการโรงงานผลิตเอทานอลทั่วประเทศ 26 โรงงาน สมาชิก ส.อ.ท.ร่วมมือกับกรมสรรพสามิตผลิตแอลกอฮอล์เพื่อใช้ฆ่าเชื้อทำความสะอาดบริจาค 300,000 ลิตร คิดเป็นมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาลที่มีความจำเป็น โดยโรงพยาบาลที่ต้องการสามารถติดต่อที่สรรพสามิตทุกจังหวัดทั่วประเทศ
พลอากาศตรี ไกรเลิศ เธียนุกุล ผู้แทนโรงพยาบาลภูมิพล กล่าวว่า หน้ากากอนามัยยังขาดแคลน เพราะความต้องการใช้เพิ่มขึ้น ทางโรงพยาบาลจึงแบ่งโซนสีแดง โซนสีส้ม และโซนเขียว โดยโซนสีแดง ใช้หน้ากากผ้าไม่ได้ เพราะแพทย์จะต้องดูแลผู้ป่วย การได้รับหน้ากากผ้าทำให้โรงพยาบาลสามารถนำหน้ากากผ้าไปจัดสรรให้บุคลากรในโรงพยาบาลสามารถนำไปใช้ได้ เพราะทำงานในส่วนสำนักงานของโรงพยาบาล นอกจากนี้ การกักผู้เดินทางมาจากต่างประเทศก็มีความจำเป็นต้องใช้ชุดป้องกันและแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้นตามไปด้วย มีการนำแอลกอลฮอล์ไปทำความสะอาดเครื่องมือแพทย์มากขึ้น
ทั้งนี้ นายสุพันธุ์ คาดว่าหากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ต่อเนื่องจนถึงเดือนมิถุนายนนี้จะกระทบเศรษฐกิจภาพรวม คิดเป็นมูลค่าประมาณ 300,000-400,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ขึ้นกับสถานการณ์ว่าจะยาวนานกว่านี้หรือไม่ เพราะขณะนี้ความวิตกกังวลของประชาชนเพิ่มขึ้นเริ่มเก็บสะสมสินค้า ขณะที่อุตสาหกรรมเกี่ยวกับสินค้าอุปโภคบริโภคเริ่มปรับตัวดีขึ้น เป็นต้น ส่วนตัวเลขผลกระทบเฉพาะภาคอุตสาหกรรมยังไม่มีข้อมูลในขณะนี้.-สำนักข่าวไทย