ส.อ.ท.ขับเคลื่อนอุตฯ สีเขียว เพื่ออนาคตไทยที่ยั่งยืน

31 มี.ค.- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสีเขียว เพื่ออนาคตไทยที่ยั่งยืน”


นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันโลกมีการเปลี่ยนแปลงและเจอกับความท้าทายรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ สงครามการค้า สงครามทางเทคโนโลยี หรือแม้แต่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ดังนั้น ประเทศไทยจึงจำเป็นต้องรับมือและปรับตัวโดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินต่อไปได้อย่างแข็งแกร่ง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) พร้อมจับมือกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา องค์กรระหว่างประเทศและภาคประชาสังคม เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก ด้วยการสานต่อการดำเนินงานในวาระปี 2567-2569 ภายใต้นโยบาย “ONE FTI” (ONE Vision, ONE Team, ONE Goal) ที่มุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมเดิม (First Industries) ประกอบด้วย 47 กลุ่มอุตสาหกรรม (11 คลัสเตอร์) 76 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด (5 ภาค/คลัสเตอร์จังหวัด) ไปพร้อมๆ กับการยกระดับสู่อุตสาหกรรมใหม่หรืออุตสาหกรรมแห่งอนาคต (Next-GEN Industries) ที่ประกอบด้วยอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curves) การพัฒนาอุตสาหกรรมด้วยโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) หรือ BCG รวมทั้งการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้เกิดการพัฒนาประเทศด้านสังคม เศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม ตลอดจนสร้างความร่วมมือไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมและสภาอุตสาหกรรมจังหวัด เพื่อนำไปสู่เป้าหมายเดียวกันในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมไทย เพื่อประเทศไทยที่เข้มแข็งกว่าเดิม ซึ่งถือเป็นวิสัยทัศน์ในการดำเนินงานวาระนี้

โดย ส.อ.ท. วางยุทธศาสตร์ไว้ 5 ด้าน คือ 1. Industry Collaboration ผนึกกำลังอุตสาหกรรมไทยให้เข้มแข็ง 2. First 2 Next-Gen Industry ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสู่อนาคต 3. Smart SMEs ยกระดับ SMEs สู่สากล 4. Smart Service Platform พัฒนาการบริการเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมไทย และ 5. Sustainability, Achieve ESG ส่งเสริมอุตสาหกรรมสู่ความยั่งยืน


จากผลการดำเนินงานในรอบปี 2567 ในส่วนของ Industry Collaboration ส.อ.ท. ได้ผลักดันข้อเสนอเชิงปฏิบัติการพัฒนาอุตสาหกรรม 8 ด้าน อาทิ จัดทำข้อเสนอเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและยกระดับอุตสาหกรรมการผลิตไทย (Position paper) เพื่อมอบให้กับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นแนวทางให้รัฐบาลนำไปเป็นกรอบการทำงานเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและยกระดับอุตสาหกรรมการผลิตไทย ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกลุ่มอุตสาหกรรมและสภาอุตสาหกรรมจังหวัดในลักษณะ 1 อุตสาหกรรม 1 จังหวัด อาทิ โครงการส่งเสริม Modular House โครงการศึกษาการใช้ประโยชน์หินฝุ่นจากโรงโม่ โครงการการจัดการความปลอดภัยทางอาหารตลอดซัพพลายเชน และโครงการความร่วมมือการใช้ของที่ระลึกจากกลุ่มอุตสาหกรรมหัตถกรรมสร้างสรรค์ เพื่อช่วยผู้ประกอบการเพิ่มศักยภาพในการผลิตและต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้มีมูลค่ายิ่งขึ้น แก้ไขปัญหาอุปสรรคในการประกอบกิจการให้เกิดความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ (Ease of Doing Business) รวมถึงแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนสมาชิก อาทิ ค่าไฟฟ้า การขอลดวงเงินและขอคืนเงินประกันไฟฟ้าจากการไฟฟ้านครหลวง การแก้ไขปัญหาผลกระทบการส่งออกสินค้าไม้ท่อนไม้แปรรูปไม้ล้อมบางชนิด ตลอดจนการแก้ไขปัญหาสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน เสริมสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานต่างประเทศ อาทิ การผลักดันข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อส่งเสริมการดำเนินธุรกิจกับต่างประเทศ ผ่านการประชุมกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศและองค์กรระหว่างประเทศ ต่อยอดโครงการส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรอัจฉริยะ หรือ Smart Agricultural Industry (SAI) เพื่อพัฒนาการเกษตรแบบครบวงจร ยกระดับการเกษตรสู่เกษตรอุตสาหกรรมให้ครอบคลุมทุกจังหวัด โดยในปี 2567 ส.อ.ท. ส่งเสริมการจัดตั้งกลุ่มอุตสาหกรรมและคลัสเตอร์อุตสาหกรรมใหม่ โดยจัดตั้งกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ลำดับที่ 47 คือ กลุ่มอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ (Aerospace Industry Club) และจัดตั้ง 4 คลัสเตอร์ใหม่ ประกอบด้วยปิโตรเคมี ยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมสุขภาพและความงาม และวัสดุก่อสร้าง

ในส่วนของ First 2 Next-Gen Industry ส.อ.ท. ได้ยกระดับขีดความสามารถด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ผ่านโครงการอินโนเวชั่่นวัน (Innovation ONE) ซึ่่งเป็นโครงการที่่ได้รับการสนับสนุุนจากกองทุุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กองทุุนส่งเสริม ววน.) ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เพื่่อพัฒนาธุุรกิจนวัตกรรมสตาร์ทอัพไทย และยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึงภาคอุตสาหกรรมรายสาขาของประเทศ โดยได้รับการสนับสนุุนในงบประมาณภายใต้วงเงิน 1,000 ล้านบาท โดย 1 ปีที่่ผ่านมา โครงการกองทุุนอินโนเวชั่่นวันได้พิจารณาการสนับสนุุนทุนให้แก่ผู้ประกอบการมากกว่า 360 ล้านบาท

ด้าน Smart SMEs ส.อ.ท. ส่งเสริมและพัฒนา SMEs ใน 4 ด้าน ได้แก่ 1. GO Digital & AI ผลักดัน SMEs ให้ปรับตัวสู่ดิจิทัล โดยการยกระดับอุุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยมีการดำเนินการภายใต้โครงการ “Digital One” (Digital One Starter Package) ซึ่งเป็นการยกระดับ SMEs ไทย ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลที่รวบรวมโซลูชันเพื่อสนับสนุนการทำงานและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจ 2. GO Innovation ผลักดัน SMEs ให้เป็นองค์กรแห่งนวัตกรรม 3. GO Green ส่งเสริม SMEs ปรับตัวสู่ธุรกิจสีเขียว และเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการ SMEs ดำเนินงานตามแนวคิดการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน หรือ ESG ส่งเสริมให้ SMEs เข้าร่วมการประเมิน SME Green Index เพื่อสามารถปรับตัวสู่ธุรกิจสีเขียว และส่งเสริมให้ SMEs ได้รับการรับรองฉลากสิ่งแวดล้อม (Eco Label) รวมทั้งหาแหล่งเงินทุนให้ SMEs เพื่อนำไปพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการพัฒนากระบวนการผลิต เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 4. GO Global ส่งเสริม SMEs เตรียมความพร้อมสู่ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ


ในส่วนของ Smart Service Platform ส.อ.ท. ได้พัฒนาแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่่อยกระดับการให้บริการสมาชิก ส.อ.ท. อาทิ การเพิ่่มช่องทางการค้าขายออนไลน์ ด้วย FTI e-Business Platform พัฒนาแพลตฟอร์ม FTI Academy ซึ่่งเป็นแหล่งรวบรวมหลักสููตร Upskill และ Reskill ของมหาวิทยาลัยและหน่วยงานพันธมิตร มีการพัฒนาระบบรับรองสินค้า Made in Thailand (MiT) เพื่่อสร้างความเชื่่อมั่่นให้กับผู้ขึ้้นทะเบียน MiT โดยปัจจุุบันสามารถออกใบรับรองสินค้า MiT ได้ 57,622 SKU และมีบริษัทที่ลงทะเบียนในระบบจำนวน 5,577 กิจการ

ด้าน Sustainability, Achieve ESG ส.อ.ท. ได้ยกระดับโรงงานอุุตสาหกรรมด้วยระบบการรับรองมาตรฐานที่่เป็นมิตรกับสิ่่งแวดล้อม อาทิ Eco Factory และ Water Footprint ปัจจุุบันมีโรงงานที่่ได้รับการรับรองมาตรฐาน Eco Factory รวม 516 ใบรับรอง โดยในปี 2567 มีโรงงานได้รับการรับรองใหม่จำนวน 95 แห่ง สำหรับการรับรอง Water Footprint มียอดสะสมรวม 400 ผลิตภัณฑ์ย่อยจาก 77 บริษัท โดยในปี 2567 ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรอง รวมทั้งสิ้น 16 ผลิตภัณฑ์. -517-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย