“มะเร็งเต้านม” โรคร้ายที่ผู้ชายก็เป็นได้

กรมการแพทย์ 8 ม.ค.-แพทย์เผย “มะเร็งเต้านม” โรคร้ายที่พบมากเป็นอันดับ 1ในเพศหญิง เพศชายก็มีสิทธิ์เป็นมะเร็งเต้านมได้เช่นกัน



นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช  รองอธิบดีกรมการแพทย์และโฆษกกรมการแพทย์ กล่าวว่า มะเร็งเต้านมแม้ว่าเป็นโรคร้ายที่พบในเพศหญิงมากเป็นอันดับ 1 แท้จริงแล้วในเพศชายก็มีความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งเต้านมเช่นกัน จากสถิติพบว่าโดยทั่วไปเพศชายมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านมตลอดอายุ ขัย อยู่ที่ 1ใน 1,000 ในประเทศสหรัฐอเมริกาปี 2562 คาดการณ์ว่ามีผู้ป่วยมะเร็งเต้านมเพศชายรายใหม่ 2,670 คน ซึ่งน้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้ป่วยมะเร็งเต้านมทั้งหมด และในจำนวนนี้เสียชีวิต 500 ราย 


ในขณะที่เพศหญิงเสียชีวิตจากมะเร็งเต้านมอยู่ที่ประมาณ 41,760 รายต่อปี โดยอุบัติการณ์ของโรคมะเร็งเต้านมในเพศชายค่อนข้างคงที่ในช่วง30 ปี ในขณะที่อุบัติการณ์ในเพศหญิงมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย ประมาณ100 เท่า ในเพศชายนั้นพบบ่อยใน ช่วงอายุ 60-70 ปี โดยพบว่าผู้ชายที่เป็นมะเร็งเต้านมมีอายุเฉลี่ยมากกว่าผู้หญิงที่เป็นมะเร็งเต้านม 7-8 ปี

นพ.วีรวุฒิ  อิ่มสำราญ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวเสริมว่า สถานการณ์มะเร็งเต้านมของคนไทย ในปี 2557 พบว่ามีผู้ชายป่วยเป็นมะเร็งเต้านม 162 คน และผู้หญิงป่วยเป็นมะเร็งเต้านม 14,804 คน โดยปัจจัยเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งเต้านมมาจากหลายปัจจัย  อาทิ  เคยได้รับการฉายรังสีบริเวณหน้าอก มีประวัติมะเร็งเต้านมในครอบครัว ซึ่งพบว่า 20 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยมีประวัติมะเร็งเต้านมในครอบครัว โดยจะเป็นญาติทางฝ่ายชายหรือหญิงก็ได้  ปัจจัยที่เชื่อว่าเป็นสาเหตุสำคัญของมะเร็งเต้านมในเพศชายไม่ต่างจากเพศหญิง นั่นคือการมีระดับฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจนสูงกว่าปกติ โดยเฉพาะกลุ่มอาการที่เรียกว่า กลุ่มอาการคลายน์เฟลเทอร์ ซึ่งมีความผิดปกติของดีเอ็นเอคือมีดีเอ็นเอของเพศหญิงเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่เกิด ทำให้มีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงและระดับฮอร์โมนเพศชายต่ำลง ทำให้มีลักษณะเหมือนเพศหญิง ผู้ชายที่เป็นกลุ่มอาการนี้จะมีความสูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติ ช่วงไหล่แคบกว่าช่วงเอว มีเต้านมใหญ่ ลูกอัณฑะเล็กและเป็นหมันจากการไม่มี ตัวอสุจิหรือมีตัวอสุจิน้อยมาก กลุ่มอาการนี้พบได้ไม่บ่อยคือพบประมาณ 1 ใน 1,000 คน 


นอกจากนั้นภาวะอื่นๆ ที่ทำให้มีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงผิดปกติ เช่น ตับแข็ง ที่ทำให้ผู้ชายนักดื่มมีเต้านมใหญ่กว่าผู้ชายปกติ เนื่องจากตับเสื่อมสภาพลง ไม่สามารถทำลายฮอร์โมนเอสโตรเจนได้ตามปกติ ส่วนสาเหตุอื่น ๆ เช่น ภาวะอ้วนน้ำหนักเกิน ยาบางตัวที่มีผลข้างเคียงทำให้ เต้านมใหญ่ขึ้น เช่น ยารักษาความดันโลหิตสูง ยารักษาต่อมลูกหมากโต เป็นต้น

ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า อาการที่พบบ่อยที่สุดคือคลำเจอก้อนที่เต้านม โดยเฉพาะบริเวณใต้หัวนม อาการอื่นๆ ก็ไม่แตกต่างจากในเพศหญิง ได้แก่ มีของเหลวออกจากหัวนมเป็นน้ำปนเลือด หัวนมบอด เต้านมหรือหัวนมแดง หรือมีผื่นหรือแผลเรื้อรังบริเวณหัวนม โดยส่วนใหญ่มักมาพบแพทย์ในระยะที่เป็นมากแล้ว ส่วนอัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยชายไม่แตกต่างจากเพศหญิงแต่อย่างใด ดังนั้น ชายผู้สูงวัยจึงควรใส่ใจสังเกตความผิดปกติของเต้านมและตรวจเต้านมตนเองเป็นประจำ เช่นกัน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

US election

ทรัมป์-แฮร์ริส หาเสียงวันสุดท้าย ก่อนหย่อนบัตรวันนี้

ขณะนี้เหลือไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน ผลสำรวจความเห็นประชาชนต่างชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส