วอชิงตัน 5 พ.ย. – ขณะนี้เหลือไม่ถึง 24 ชั่วโมง จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน ผลสำรวจความเห็นประชาชนต่างชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส ซึ่งทั้งคู่หาเสียงวันสุดท้ายในรัฐสมรภูมิ มีคะเเนนนิยมที่คู่คี่สูสีกันมากเป็นประวัติการณ์ จนไม่แน่ใจว่าใครจะคว้าชัยชนะ
รองประธานาธิบดีแฮร์ริส ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครตและอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน หาเสียงเต็มวันในวันสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งในวันอังคารที่ 5 พฤศจิกายนตามเวลาในสหรัฐ ซึ่งอาจจะเป็นการชนะกันอย่างเฉียดฉิว เนื่องจากคะแนนนิยมของทั้งคู่ยังสูสีกันมาก โดยนางแฮร์ริส ใช้เวลาหาเสียงวันสุดท้ายเต็มวันในรัฐเพนซิลเวเนีย จัดการหาเสียงทั้งหมด 5 เวที รวมถึงเวทีใหญ่ในเมืองพิตต์สเบิร์ก และฟิลาเดลเฟีย ที่จะมีคนดังจากวงการบันเทิง ทั้ง เลดี้ กาก้า, ริคกี้ มาร์ติน และ โอปราห์ วินฟรีย์ ไปช่วยหาเสียงด้วย
ในการหาเสียงวันสุดท้าย นางแฮร์ริสพยายามโน้มน้าวให้ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง เชื่อว่า เธอจะช่วยลดค่าครองชีพ ซึ่งถือเป็นปัญหาที่สำคัญที่สุด หลังสหรัฐ เผชิญปัญหาเงินเฟ้อติดต่อกันมาหลายปี เธอยังพาดพิงถึงนายทรัมป์ว่า เป็นคนอันตรายและเอาแน่เอานอนไม่ได้ และเรียกร้องให้ชาวอเมริกันเลิกใช้แนวทางที่สร้างความแตกแยกทางการเมืองของนายทรัมป์
ขณะเดียวกัน นายทรัมป์ใช้เวลา 24 ชั่วโมงสุดท้ายหาเสียงใน 3 รัฐสมรภูมิ หรือ สวิง สเตท สำคัญ เริ่มรัฐนอร์ทแคโรไลนา แล้วไปต่อยังรัฐเพนซิลเวเนีย ปิดท้ายหาเสียงชิงทำเนียบขาว ปี 2024 ในรัฐมิชิแกน โดยบนเวทีหาเสียงที่นอร์ทแคโรไลนา นายทรัมป์บอกว่าหากได้เป็นประธานาธิบดี จะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกอีกร้อยละ 25 หากเม็กซิโกไม่หยุดการหลั่งไหลของผู้อพยพชาวเม็กซิกันข้ามพรมแดนมายังสหรัฐ และบอกว่านางแฮร์ริส ในฐานะรองประธานาธิบดี ต้องรับผิดชอบต่อราคาสินค้าในประเทศที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น และผู้อพยพเข้าเมืองที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน พบว่า การแข่งขันคู่คี่สูสีกันมาเป็นประวัติการณ์ จนทีมรณรงค์หาเสียงของทั้งคู่ยอมรับว่า พวกเขาเขาต่างไม่แน่ใจว่า ใครจะได้รับชัยชนะใน 7 รัฐสมรภูมิ หรือรัฐสวิง สเตท ซึ่งอาจจะชี้ขาดผลเลือกตั้งในวันอังคารนี้ ผลโพลหลายสำนักล่าสุด พบว่าแฮร์ริส มีคะแนนนำในรัฐไอโอวา ซึ่งเป็นรัฐที่ทรัมป์เคยชนะอย่างง่ายดายในการเลือกตั้งสองครั้งที่ผ่านมา และนำทรัมป์อยู่เล็กน้อยในรัฐมิชิแกนและวิสคอนซิน ขณะที่ทรัมป์มีคะแนนเหลื่อมอยู่เล็กน้อยในรัฐจอร์เจีย แอริโซนา และนอร์ทแคโรไลนา
ขณะเดียวกัน ชาวอเมริกันผู้มีสิทธิเลือกตั้งอย่างน้อย 78 ล้านคน หรือกว่าร้อยละ 50 ไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าแล้ว คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 160 ล้านคนในการเลือกตั้งปี 2020 อย่างไรก็ตาม อาจจะต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะทราบว่าใครจะเป็นผู้ชนะอย่างเป็นทางการ เนื่องจากหลายรัฐ เช่น เพนซิลเวเนีย จะต้องใช้เวลาในการรวมคะแนนเสียงทางไปรษณีย์ด้วย.-815.-สำนักข่าวไทย