สธ.7ม.ค.–อธิบดีกรมอนามัย ย้ำดื่มน้ำประปาที่มีความเค็มช่วงภัยแล้ง ไม่ก่ออันตราย ยกเว้นดื่มมากกว่า10 ลิตรส่งผลต่อสุขภาพ ไม่แนะนำให้ประชาชนทั่วไปดื่มน้ำRO เพราะขาดแร่ธาตุ หรืออาจซื้อน้ำดื่มที่ได้รับตราจาก อย. พร้อมแนะการประหยัดน้ำในช่วงแล้ง เน้นชำระร่างกายเฉพาะจุดอับ และแปรงฟันแห้ง น้ำใช้กรั้วปากหนเดียว
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงสถานการณ์ภัยแล้ง ว่า ปัญหาภัยแล้งในขณะนี้ข้อมูลจากกระทรวงมหาดไทยพบว่า มี 13 จังหวัด 68 อำเภอ 517 ตำบล 3,770 หมู่บ้านประสบปัญหา ประกอบด้วย เชียงราย น่าน นครพนม มหารสารคาม บึงกาฬ หนองคาย บุรีรัมย์ กาฬสินธุ์ กาญจนบุรี ฉะเชิงเทรา เพชรบูรณ์ อุทัยธานี นครราชสีมา ซึ่งแนวทางการแก้ปัญหารัฐบาลกำลังเร่งดำเนินการ ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข เตรียมออกคำแนะนำประชาชนในการรับมือกับสถานการณ์ภัยแล้ง และโรคที่จะตามมา เพราะความแล้งคาดว่าจะมียาวนานไปถึงเดือนพฤษภาคม
พร้อมแนะนำประชาชนจิบน้ำบ่อยๆ เพื่อคลายความร้อน ขณะเดียวกันต้องบริโภคของสะอาด ร้อนปรุงสุกใหม่ เพื่อความปลอดภัย
ส่วนปัญหาเรื่องรสชาติน้ำประปามีความกร่อยและเค็มนั้น พญ.พรรณพิมล กล่าวยืนยันว่า ค่าความเค็มที่ได้ข้อมูลจากการประปานครหลวง (กปน.) ไม่ได้เค็มสูงเกินค่ามาตรฐานกำหนด ที่กำหนดไว้ 300 มิลลิกรัมต่อลิตร โดยเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2562 มีค่า 219 มิลลิกรัมต่อลิตร โดยองค์การอนามัยโลกกำหนดในน้ำประปา ต้องมีโซเดียมไม่เกิน 200 มิลลิกรัม/ลิตร ค่าคลอไรด์ไม่เกิน 250 มิลลิกรัม/ลิตร
ทั้งนี้ ยืนยันว่าการบริโภคน้ำประปาที่มีรสชาติเค็มก่อโรคได้เฉพาะผู้ป่วยโรคไตเท่านั้น แต่สำหรับคนปกติจะเกิดผลต่อสุขภาพได้ต้องดื่มน้ำมากกว่า 10ลิตรต่อวัน หรือเท่ากับการบริโภคเกลือ 1ใน 5 ของ 1 ช้อนชา ซึ่งไม่เกินมาตรฐาน ในช่วงที่มีน้ำมีรสชาติเค็ม ประชาชนควรปรับตัว ลดการบริโภคอาหารอื่นๆที่มีรสชาดเค็มแทน ทั้งกรุบกรอบ เกลือ หรือการเติมน้ำปลา เนื่องจากมีโซเดียมปริมาณมาก
พญ.พรรณพิมล กล่าวด้วยว่า ส่วนการดื่มน้ำRO นั้น ไม่แนะนำในคนปกติ เพราะร่างกายยังต้องการแร่ธาตุ ในผู้ป่วยโรคไต จำเป็นต้องการน้ำที่ปราศจากเกลือ ความเค็มทั้งหมด จึงเป็นต้องใช้น้ำRO หรืออาจดื่มน้ำบรรจุขวด หรือรอรับน้ำประปาสะอาดได้ จากแหล่งจ่ายน้ำประปา ของการประปา หรือซื้อหาน้ำดื่มที่ได้มาตรฐาน อย. ดื่มแทน
ขณะเดียวกันสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้น ประเทศไทย ยังไม่ถึงขั้นวิกฤต หรือต้องออกมาตรการอาบน้ำแบบสิงคโปร์2 นาทีเท่านั้น แต่หากพื้นที่ไหนน้ำน้อยในการอาบน้ำ ขอให้เน้นชำระเฉพาะจุดอับของร่างกายเป็นพอ และแปรงฟันแห้ง คือใช้น้ำกรั้วปาก 1 ครั้งหลังแปรงฟันเท่านั้น
ด้านนพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยโรคไตไม่ต้องกังวลเรื่องการล้างไตในโรงพยาบาลเพราะสถานพยาบาลทุกแห่งมีระบบกรองที่ได้มาตรฐาน ส่วนการล้างไต ผ่านหน้าท้อง ก็เป็นแบบบรรจุน้ำยาให้ผู้ป่วยทำเองที่บ้าน ไม่ได้เป็นการล้างหรือใช้น้ำจากภายนอกอย่างนั้นไม่ต้องกังวล .-สำนักข่าวไทย