fbpx

อย.เตือนตรวจสถานะผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางก่อนซื้อ

อย.3 ธ.ค.-อย.เตือนระวังผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง 2 รายการ หลังผู้บริโภคใช้แล้วเกิดอาการแพ้ ตรวจพบสถานประกอบการปิดไปแล้วตั้งแต่  9 ส.ค.61 แต่ยังมีการโฆษณาขายสินค้าและโอ้อวดสรรพคุณทางสื่อออนไลน์   


 

นพ.พูลลาภ  ฉันทวิจิตรวงศ์  รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (รองเลขาธิการ อย.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนเกี่ยวกับอาการไม่พึงประสงค์หลังจากใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง 2 รายการ ได้แก่ ไวท์เอสเซนส์ ไวท์เทนนิ่ง เดย์ ครีม และไวท์เอสเซนส์ ไวท์เทนนิ่ง ไนท์ ครีม โดยเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ได้ 2 เดือน และหยุดใช้ พบว่า มีอาการแพ้ มีผื่นแดงขึ้นตามใบหน้า และมีอาการคัน 


จากการตรวจสอบพบว่า ผลิตภัณฑ์ไวท์เอสเซนส์ ไวท์เทนนิ่ง เดย์ ครีม เลขที่ใบรับแจ้ง 1016010000535 และผลิตภัณฑ์ไวท์เอสเซนส์ ไวท์เทนนิ่ง ไนท์ ครีม เลขที่ใบรับแจ้ง 1016010000534 สถานประกอบการ เลขที่ 61 หมู่ 13 ตำบลมะค่า อำเภอกันทรชัย จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งสถานะใบรับจดแจ้ง คือ ยกเลิกและสถานประกอบการปิดกิจการไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2561 ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 รายการดังกล่าวที่ระบุวันที่ผลิตหลังจากยกเลิกใบอนุญาตจะเข้าข่ายเป็นผลิตภัณฑ์ปลอม ผู้ที่ขายจะมีโทษตามกฎหมาย 


ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบโฆษณาทางเฟซบุ๊กชื่อ Piyatida Tantaisong ที่ผู้ร้องเรียนแจ้ง พบข้อความแสดงสรรพคุณรักษาผิวหนัง ซึ่งไม่ใช่จุดมุ่งหมายของการเป็นเครื่องสำอาง เช่น ลดสิว ฝ้า กระ รอยสิว เป็นข้อความที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ.2558 ซึ่ง อย. ได้ดำเนินการสั่งระงับการโฆษณา รวมทั้งดำเนินการตามกฎหมายกับผู้โฆษณาแล้ว

รองเลขาธิการ อย.กล่าวต่อไปว่า อย.ขอเตือนผู้บริโภคขอให้ระมัดระวังการซื้อเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่นๆ ผ่านทางโซเชียลมีเดีย เนื่องจากมักจะตรวจพบสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพมาตรฐาน ไม่ผ่านการรับรองจาก อย.หรือมีสารห้ามใช้ ผู้บริโภคอาจได้รับผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายโดยคาดไม่ถึง ด้านผู้ผลิตและจำหน่ายขอให้ประกอบการอย่างมีคุณธรรม อย่าเห็นแก่ผลกำไรหรือหลอกลวงผู้บริโภค ไม่ว่าจะช่องทางใดก็ตาม   หาก อย. ตรวจพบ จะต้องถูกดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด ซึ่งผู้บริโภคสามารถตรวจสอบได้ตามช่องทางต่างๆของ อย. -สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย