fbpx

กรมวิทย์ฯ พัฒนาสารสกัดจาก ‘มะหาด’ ส่งต่อยอดเชิงพาณิชย์

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 14 ก.ย.-กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง serum all in 1 ผสมสารสกัดจากแก่นมะหาด ซึ่งผ่านประเมินความปลอดภัยในอาสาสมัคร ไม่เกิดการระคายเคืองต่อผิว ช่วยลดริ้วรอย ต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวขาวใส ให้กับผู้ประกอบการผลิตในเชิงพาณิชย์ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้แก่ประเทศ 


นพ.สุขุม กาญจนพิมาย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวหลังลงนามความร่วมมือการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตผลิตภัณฑ์ serum all in1จากสารสกัดมะหาด ว่า ปัญหาเครื่องสำอางไทยจากสมุนไพรธรรมชาติคือปัญหาการคงตัวของสารสำคัญ ทำให้ต้องสั่งนำเข้าสารสำคัญจากต่างประเทศและบางชนิดก็เกิดจากการสังเคราะห์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยสถาบันวิจัยสมุนไพร จึงมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสมุนไพรจากธรรมชาติ  โดยศึกษาวิธีการเตรียมสารสกัดออกซีเรสเวอราทรอล (oxyresveratrol)จากแก่นมะหาด ซึ่งมีการควบคุมสารสำคัญให้มีความบริสุทธิ์  ผ่านการควบคุมคุณภาพ และการทดสอบความปลอดภัย ในห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐาน นำมาพัฒนาสูตรตำรับเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางดูแลผิวและมีการศึกษาประสิทธิ ภาพ และความปลอดภัยในอาสาสมัคร 


ผลการศึกษาวิจัยพบว่า ผลิตภัณฑ์เซรั่มมีประสิทธิภาพทำให้ผิวขาวขึ้น ผิวเรียบเนียนลดริ้วรอยหางตา ผิวกระชับ เพิ่มความยืดหยุ่น และผลิตภัณฑ์นี้ผ่านการประเมินด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ในอาสาสมัครโดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว 


สำหรับสารออกซีเรสเวอราทรอล เป็นสารสำคัญที่พบในมะหาดมีฤทธิ์ทางชีวภาพหลากหลาย เช่น ยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินใต้ผิวหนัง  ต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความเสื่อมของเซลล์ ได้ผ่านการวิจัยในหลายขั้นตอน ได้แก่ ในห้องทดลองและในอาสาสมัคร พบว่าสารนี้มีศักยภาพสูงในการนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง  

‘เพื่อตอบสนองความต้องการประชาชนที่สนใจผลิตภัณฑ์สมุนไพร รวมทั้งช่วยให้ผู้บริโภคได้ใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสมุนไพรไทยที่ผ่านระบบการวิจัยสมัยใหม่ตามมาตรฐานสากล กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จึงถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตผลิตภัณฑ์ serum all in 1จากสารสกัดมะหาดให้กับบริษัท ด๊อกเตอร์ เฮลท์ จำกัด เพื่อผลิตในเชิงพาณิชย์ ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงผลิตภัณฑ์นี้ได้มากยิ่งขึ้น และยังเป็นการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ’ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าว  .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย