กรุงเทพฯ 26 พ.ย.-ศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษาฎีกา คดี “เบญจา” อดีต รมช.คลัง พร้อมพวกปฏิบัติหน้าที่มิชอบ กรณีเลี่ยงภาษีโอนหุ้นชินคอร์ปฯ เป็นวันที่ 26 ธันวาคมนี้ เหตุจำเลยที่ 5 ป่วยไม่มาศาล
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางเบญจา หลุยเจริญ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง สมัยรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับพวกรวม 5 คน หนึ่งในนั้น ยังมีนางสาวปราณี เวชพฤกษ์พิทักษ์ คนใกล้ชิดเลขานุการส่วนตัว คุณหญิงพจมาน ณ ป้องเพชร อดีตภรรยานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมเป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
โดยคดีนี้ ป.ป.ช. ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2558 ระบุพฤติการณ์ว่า จำเลยที่ 1-4 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานของกรมสรรพากรปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อไม่ให้นายพานทองแท้ และ นางสาวพินทองทา ชินวัตร บุตร ของนายทักษิณ ต้องเสียภาษีอากร หรือเสียภาษีน้อยกว่าที่จะต้องเสีย และได้รับประโยชน์ที่มิควร จากการที่นายพานทองแท้ และ นางสาว พินทองทา ซื้อหุ้นบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด เมื่อปี 2549 คนละ 164 ล้าน 6 แสนหุ้น ในราคาพาร์หุ้นละ 1 บาท ขณะที่ราคาตลาดหุ้นละ 49.25 บาท ถือได้ว่านายพานทองแท้ และ นางสาวพินทองทา มีหน้าที่ต้องเสียภาษีของส่วนต่างราคาหุ้น คนละกว่า 7.9 พันล้านบาท แต่ทั้งสองไม่ได้จ่ายภาษีส่วนนี้ จนเกิดความเสียหาย
จำเลยทั้งหมดปฏิเสธและขอต่อสู้คดี แต่ศาลชั้นและศาลอุทธรณ์เห็นว่าการกระทำของจำเลยที่ 1-4 ก่อให้เกิดความเสียหายต่อกรมสรรพากร ซึ่งความผิดสำเร็จตั้งแต่การตอบข้อหารือ ศาลจึงพิพากษาจำคุก นางเบญจา กับพวกจำเลยที่ 2-4 ซึ่งเป็น อดีตผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย กรมสรรพากร คนละ 3 ปี, ส่วนนางสาวปราณี ซึ่งหารือมายังสำนักกฎหมาย แล้วนำคำหารือไปใช้ประโยชน์ จึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ให้จำคุก 2 ปี แต่จำเลยทั้งหมดได้ประกันตัวระหว่างต่อสู้คดี
โดยในวันนี้ นางเบญจา พร้อมจำเลยที่ 2-4 มาศาลตามนัด ยกเว้นนางสาวปราณี ที่ให้ตัวแทนนำใบรับรองแพทย์มายื่นต่อเจ้าหน้าที่ศาล อ้างว่าป่วย เวียนหัว คลื่นไส้ หรือ โรคบ้านหมุน พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระราม 9 จึงไม่สามารถเดินทางมาฟังคำพิพากษาได้ ศาลฎีกา พิเคราะห์แล้วอนุญาตให้เลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาออกไปเป็นวันที่ 26 ธันวาคมนี้ เวลา 10 นาฬิกา.-สำนักข่าวไทย