ลำพูน 21 เม.ย.- DSI จับกรรมการบริษัท สำแดงเท็จนำเข้ารถยนต์ MERCEDES BENZ เลี่ยงภาษีกว่า 2.6 ล้านบาท จนมุมที่ลำพูน
วันนี้ (วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2567) เวลาประมาณ 09.30 น. ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ ภายใต้การอำนวยการของ นายวิทวัส สุคันธรส ผู้อำนวยการศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว โดยชุดปฏิบัติการที่ 2 ได้ร่วมกันจับกุม นายธีวราณ์ หรือนายอภิเชษฐ์ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 929/2567 ลงวันที่ 5 มีนาคม 2567 ในคดีพิเศษที่ 27/2565 โดยผู้ต้องหาเป็นกรรมการบริษัทแห่งหนึ่งที่นำเข้ารถยนต์ยี่ห้อเมอร์เซเดสเบนซ์ (MERCEDES BENZ) รุ่น E200 CGI SALOON หลีกเลี่ยงภาษีกว่า 2.6 ล้านบาท เจ้าพนักงานผู้จับกุมจึงได้แจ้งข้อหา ร่วมกันนำของที่ผ่านหรือกำลังผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลี่กเลี่ยงการเสียอากร โดยเจตนาจะฉ้ออากรที่ต้องเสียสำหรับของนั้น ๆ แจ้งข้อความ ตอบคำถามด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จ ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ นำพยานหลักฐานเท็จมาแสดง หรือยื่นบัญชีหรือเอกสารอันเป็นเท็จ เพื่อหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษี ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และประมวลกฎหมายอาญา โดยจับกุมได้ที่บริเวณสามแยกทางไปอ่างเก็บน้ำแม่ตีบ ตำบลมะเขือแจ้ อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน
ทั้งนี้ เจ้าพนักงานชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 83 วรรคหนึ่งและวรรคสอง และรวมถึงแจ้งว่าต้องบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องในขณะจับและควบคุมตัวจนกระทั่งส่งตัวให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ให้ผู้ต้องหาได้รับทราบแล้ว รวมทั้งได้แจ้งการจับกุมไปยังพนักงานอัยการจังหวัดลำพูนและนายอำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน และได้บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถูกควบคุมตัว (ปท.1) ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 เรียบร้อยแล้ว และจะได้นำตัวผู้ต้องหาส่ง นายนันท์นิพัทธ์ นิราศนภาภัย พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการ ซึ่งเป็น พนักงานสอบสวนคดีพิเศษผู้รับผิดชอบเพื่อนำตัวไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
การดำเนินการในการติดตามกับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีพิเศษ เป็นไปตามข้อสั่งการของ พันตำรวจตรียุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่กำหนดให้ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ซึ่งเป็นหน่วยขึ้นตรงการบังคับบัญชา จัดชุดปฏิบัติการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ โดยเฉพาะหมายจับที่ใกล้ขาดในอายุความ เพื่อนำตัวผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดที่ยังหลบหนี เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป. 119.-สำนักข่าวไทย