กรุงเทพฯ 12 พ.ย. – พฤกษาฝ่าวิกฤติอสังหาริมทรัพย์ โชว์ผลงานไตรมาส 3 สร้างยอดขายกว่า 14,000 ล้านบาท เติบโต 15%
นางสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 3 บริษัทฯ สร้างยอดขาย 14,113 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 15% มีรายได้ 8,517 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 9.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และมีกำไรอยู่ที่ 916 ล้านบาท ด้านผลประกอบการ 9 เดือน สร้างยอดขาย 37,480 ล้านบาท ลดลง 3.7% มีรายได้ 28,179 ล้านบาท ลดลง 6.8% และมีกำไร 3,534 ล้านบาท ลดลง 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยไตรมาส 3 ยอดจองโครงการใหม่สูงขึ้นถึง 30% ดีกว่าตลาดที่มียอดจอง 27% และยังคงครองความผู้นำอสังหาริมทรัพย์ เบอร์ 1 ด้วยส่วนแบ่งตลาดสูงสุดอยู่ที่ 12%
ส่วนภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลไตรมาส 3 มีมูลค่าตลาดฯ ติดลบถึง 35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยลบจากสถานการณ์เศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 2 รวมถึงมาตรการ LTV และการปล่อยสินเชื่อของธนาคารที่เข้มงวดขึ้น โดยบริษัทฯ มีแผนช่วยเหลือลูกค้าที่มีปัญหาการกู้เงินไม่ผ่านให้กลับบ้านซื้อบ้านได้อีกครั้งผ่านโปรแกรม Win back ซึ่งช่วยเพิ่มยอดขายให้กับบริษัทฯ ได้ถึง 4,878 ล้านบาท คิดเป็น 13% ของยอดขายรวม
สำหรับแผนการดำเนินงานไตรมาสสุดท้าย บริษัทฯ ได้ร่วมกับธนาคารพันธมิตรช่วยเตรียมความพร้อมให้ลูกค้ากู้ผ่านง่ายยิ่งขึ้น พร้อมปรับแผนกลยุทธ์เปิดโครงการใหม่อีก 9 โครงการ มูลค่า 8,800 ล้านบาท โดยเลือกเปิดตัวโครงการที่มีศักยภาพ Right Location, Right Timing และ Right Target และยังมียอดขายที่รอรับรู้รายได้สามารถรับรู้เป็นรายได้ปีนี้อยู่ที่ 16,092 ล้านบาท พร้อมกันนี้ยังคงเดินหน้ามุ่งสร้างความเป็นเลิศทางการขายผ่านช่องทางต่าง ๆ ล่าสุดจัดแคมเปญต่อเนื่องผ่านธุรกิจ E-Commerce บนแพลทฟอร์ม Shopee เพื่อเพิ่มช่องทางการขายให้เข้าถึงตลาดกลุ่มมิลเลนเนียลที่เป็นกลุ่มที่นิยมการใช้สื่อดิจิทัลมากขึ้น โดยออกแคมเปญใหม่ “11.11 ลดอลัง ปังทุกยูนิต” เพียงกดซื้อคูปองผ่าน Shopee ในราคา 11 บาท สามารถนำไปแลกรับส่วนลดมูลค่าสูงถึง 200,000 บาท ในการซื้อทาวน์โฮมพร้อมอยู่ของพฤกษาที่เข้าร่วมโครงการกว่า 111 ยูนิต ตั้งแต่วันนี้ – 30 พฤศจิกายน 2562
นอกจากนี้ มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง เพื่อกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เหลือ 0.01% เป็นเวลา 1 ปี จนถึงวันที่ 24 ธันวาคม 2563 และอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่ำอยู่ที่ 1.25% รวมทั้งรัฐบาลลงทุนพัฒนาขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งจะช่วยกระตุ้นตลาดที่อยู่อาศัยในช่วงโค้งสุดท้าย ซึ่งจะเห็นผลได้ในเดือนนี้และเดือนหน้าจะเป็นโอกาสและแรงผลักดันช่วยให้พฤกษาก้าวผ่านพ้นปีนี้ไปได้ด้วยดี.-สำนักข่าวไทย