สำนักข่าวไทย 11 พ.ย.- การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ จะเปิดฉากขึ้นวันที่ 30 พฤศจิกายน-11 ธันวาคมนี้ โดยวันนี้เราย้อนไปดูประวัติความเป็นมาของกีฬาซีเกมส์
ถ้าย้อนต้นกำเนิดกีฬาซีเกมส์ เริ่มต้นตั้งแต่สหพันธ์กีฬาแหลมทอง โดยมีคณะกรรมการสมาชิกผู้ก่อตั้งประกอบด้วย ประเทศไทย มาลายา เวียดนามใต้ ลาว พม่า และกัมพูชา ในสมัยนั้น ได้ตกลงร่วมกันว่าจะจัดการแข่งขันกีฬาระหว่างภูมิภาคขึ้นในทุกสองปี คือ “กีฬาแหลมทอง” หรือ เซียปเกมส์ ครั้งที่ 1 ที่กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 12-17 ธันวาคม พ.ศ.2502 หรือ ค.ศ.1959 โดยตอนนั้นมี 6 ชาติเข้าร่วม คือ ไทย มาลายา สิงคโปร์ เวียดนามใต้ ลาว และพม่า มีเจ้าหน้าที่และนักกีฬา 527 คน แข่ง 12 ชนิด
จากนั้นในปี พ.ศ.2520 สมาพันธ์กีฬาแหลมทองประกาศเปลี่ยนชื่อเป็น “สมาพันธ์กีฬาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” และเปลี่ยนชื่อการแข่งขันเป็น “ซีเกมส์” นับตั้งแต่นั้นมา โดยไทยคว้าเหรียญทองมากที่สุด 13 ครั้ง รองลงมาเป็นอินโดนีเซีย 10 ครั้ง
ครั้งนี้มาถึงครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน-11 ธันวาคม มีการชิงชัยประมาณ 524 เหรียญทอง จาก 56 ชนิดกีฬา ถือว่าเป็นการชิงเหรียญทองมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของซีเกมส์ จะใช้ 3 เมืองหลัก ประกอบด้วย กรุงมะนิลา, คลาร์ก, ซูบิค โดยไทยส่งนักกีฬาร่วมชิงชัย 1,048 คน จาก 53 ชนิดกีฬา ไม่ส่ง 3 ชนิดกีฬา คือ ฮอกกี้ใต้น้ำ, วิ่งผ่านอุปสรรค และอาร์นิส กีฬาศิลปะการต่อสู้ของฟิลิปปินส์
โดยโลโก้ซีเกมส์ครั้งนี้ เป็นรูปวงกลมเป็นสัญลักษณ์ มีจำนวน 11 วง เรียงตัวกันเป็นรูปร่างของประเทศฟิลิปปินส์ สื่อถึงความเป็นหนึ่งอันเดียวกัน มีคำขวัญว่า “We Win As One” ส่วนมาสคอตเป็นตุกตาแบบรูปวงกลม ชื่อว่า ‘Pami’ (ปามี) แปลว่า ‘ครอบครัว’ ในภาษาตากาล็อก.-สำนักข่าวไทย