เมืองทองธานี 3 พ.ย. – กกร.ร่วมกับ NTT Data ทดลองใช้ Blockchain ในโครงการ National Digital Trade Platform
นายกลินท์ สารสิน ประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยถึงความสำเร็จในการทดลองระบบการค้าระหว่างประเทศด้วยเทคโนโลยี Blockchain ร่วมกับบริษัท NTT Data เพื่อศึกษาความเป็นไปได้และประโยชน์ที่ได้รับจากระบบภายใต้โครงการ National Digital Trade Platform (์NDTP)
นายกลินท์ กล่าวถึงการพัฒนาการค้าระบบดิจิทัลภายในภูมิภาคอาเซียนว่า โครงการ Digital Trade Platform ได้รับการรับรองในประชุม ASEAN-BAC เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โครงการนี้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องและมีความก้าวหน้าอย่างมาก จะเปลี่ยนโฉมหน้าการค้าระหว่างประเทศของอาเซียน และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานด้วยการลดต้นทุน ประหยัดเวลาด้วยการปรับเป็นระบบดิจิทัลทั้งกระบวนการ นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ SME มีส่วนร่วมภาคเศรษฐกิจและเข้าถึงแหล่งเงินทุนง่ายขึ้น โดยสามารถป้องกันการขอสินเชื่อซ้ำซ้อนและการป้องกันปลอมแปลงเอกสาร ซึ่งจะช่วยเพิ่มลำดับ ตัวชี้วัดความยากง่ายในการทำธุรกิจของประเทศได้
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวว่า โครงการ NDTP เป็นความริเริ่มของภาคเอกชน โดย กกร. เพื่อสร้างระบบการค้า B2B ระหว่างประเทศ คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติให้การสนับสนุนโครงการ โดยมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการและสำนักงานพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานร่วมกับ กกร. เพื่อช่วยกันพัฒนาระบบนี้ให้เกิดขึ้นโดยเร็วและเชื่อมต่อกับระบบ NSW (National Single Window) ของไทย และเชื่อมต่อกับประเทศในอาเซียน รวมถึงประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก เพื่อรองรับการค้าระหว่างประเทศ
Mr.Hironari Tomioka, President และ CEO บริษัท NTT Data (ประเทศไทย) กล่าวว่า การทดสอบประโยชน์จากการใช้เอกสารในระบบอิเล็กทรอนิกส์ครั้งนี้ มีบริษัทเข้าร่วม 24 หน่วยงาน มีผู้เข้าร่วมทดสอบ 47 คนมาจากภาคส่วนต่าง ๆ ได้แก่ ธนาคาร ผู้ให้บริการขนส่งสินค้า ผู้ส่งออกสินค้า ประกันภัย ผู้ออกใบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า และผู้นำข้าสินค้าในประเทศญี่ปุ่น ได้ร่วมกันทดสอบกับเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการค้า เช่น ใบสั่งซื้อสินค้า ใบส่งสินค้า ใบกำกับการขนส่ง ใบขนส่งสินค้าทางเรือ ใบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า ใบอนุญาตเพื่อส่งออกสินค้าทั้งหมดในระบบดิจิทัล สามารถประหยัดเวลาได้ถึง 60% และค่าใช้จ่ายต่าง ๆได้มากถึง 50 %
สำหรับการทดสอบครั้งนี้ได้ใช้เทคโนโลยี Blockchain ระบบ AI และระบบเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท NTT Data ในประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับพันธมิตรบริษัทต่าง ๆ ประกอบด้วยสมาชิกจากธนาคาร ผู้ให้บริการขนส่งสินค้า ผู้ส่งออกสินค้า ประกันภัย ผู้ให้บริการตู้สินค้า ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปี 2017.– สำนักข่าวไทย