เอกชนมองทีมเศรษฐกิจใหม่ต้องเป็นที่ยอมรับของสังคม เร่งแก้ปัญหาปากท้อง

กรุงเทพฯ  16 ก.ค. – เอกชนมองทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ต้องเป็นคนดี เป็นที่ยอมรับของคนทั้งประเทศ พร้อมแนะรัฐบาลช่วยค่าน้ำค่าไฟต่อจนถึงสิ้นปี รวมถึงนำเม็ดเงิน 1.9 ล้านล้านบาท อัดฉีดระบบอย่างแท้จริง สิ่งที่อยากเห็นแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชนโดยเร็ว


นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย แสดงความคิดเห็นทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ของรัฐบาลประยุทธ์ 2 โดยมองว่าบุคคลที่จะเข้ามาเป็นทีมเศรษฐกิจไม่ว่าตำแหน่งใดก็ตาม อยากเห็นคนที่มีความรู้ความสามารถและเป็นที่ยอมรับของประชาชน และบุคคลต่าง ๆ ทั่วประเทศ สิ่งที่ทีมเศรษฐกิจใหม่จะต้องดำเนินการเร่งด่วน คือ ปัญหาปากท้องประชาชน เพราะยอมรับว่าจากผลกระทบโควิด ทำให้ประชาชนทั้งประเทศประสบปัญหาการดำรงชีพ ดังนั้น ทีมเศรษฐกิจใหม่จะต้องลงมือแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนสามารถเดินหน้าต่อไปได้ แต่บางมาตรการจะต้องมีการทบทวน เช่น การให้เงิน 5,000 บาท แนวทางดังกล่าวถือเป็นเรื่องดี แต่ขณะนี้หากรัฐบาลจะนำของประเทศมาอัดฉีดและให้คนละ 5,000 บาท อาจจะประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง หากจะใช้มาตรการนี้ควรจะต้องพิจารณาว่ากลุ่มใดได้รับผลกระทบมากที่สุด แต่สิ่งที่ภาคเอกชนอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือขณะนี้ คือ ลดภาระค่าใช้จ่ายของพี่น้องประชาชน เกี่ยวกับค่าน้ำค่าไฟต่อไปอีกจนถึงสิ้นปี และอีกหลายแนวทางที่อยากเห็น แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถชี้ชัดว่าใครจะร่วมทีมเศรษฐกิจบ้าง คงต้องติดตามสถานการณ์ว่าหน้าตาทีมเศรษฐกิจใหม่จะเป็นใคร


น.ส.กัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า ไม่ว่าทีมเศรษฐกิจใหม่จะเป็นใคร สิ่งที่จะต้องแก้ไข คือ พยุงเศรษฐกิจในประเทศให้เดินหน้าต่อไปได้อย่างรวดเร็ว และอยากเห็นเม็ดเงิน 1.9 ล้านล้านบาท ลงเข้าไปสู่ระบบต่าง ๆ ให้ได้อย่างรวดเร็วและเป็นรูปธรรม เพราะยอมรับว่าจากปัญหาโควิด-19 ระบาดในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา และยังไม่รู้จะจบลงเมื่อใด  ซึ่งกระทบไปทั่วโลก รวมถึงเศรษฐกิจไทย ดังนั้น จึงอยากให้ทีมเศรษฐกิจใหม่เร่งหาแนวทางนำเม็ดเงิน 1.9 ล้านล้านบาท เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจต่าง ๆ อย่างแท้จริง 

น.ส.กัณญภัค  กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาคเอกชนไม่อยากเห็นการเกิดปัญหาเกี่ยวกับช่องว่างกรณีทหารอียิปต์ และปัญหาการระบาดรอบ  2  จึงอยากฝากรัฐบาลหามาตรการเข้มงวดสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ไม่ให้เกิดขึ้น เพราะถ้าประเทศจะต้องล็อกดาวน์เหมือน 3-4 เดือนที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยจะย่ำแย่มากขึ้น และเห็นว่าขณะนี้ถือเป็นเรื่องที่สอดคล้องและท้าทายกับทีมเศรษฐกิจใหม่ที่อาจจะเห็นน่าตารองนายกรัฐมนตรีคนใหม่  ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ ซึ่งจะต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาสภาพคล่องในระบบของประเทศให้กลับมาดีขึ้น แต่ขณะเดียวกันจะต้องเร่งดูภาคการส่งออก เพราะจากปัญหาโควิดภาคการส่งออกได้รับผลกระทบอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่จะต้องดูแลเสถียรภาพของค่าเงินบาทให้ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกันทางกระทรวงการคลังหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเข้ามาช่วยเหลือภาคการส่งออกโดยเฉพาะสภาพคล่อง เพราะขณะนี้ภาคการส่งออกประสบปัญหาสภาพคล่องอย่างมาก จงเชื่อว่าถ้าทีมเศรษฐกิจใหม่สามารถวางระบบได้ดีจะสามารถพยุงเศรษฐกิจปีนี้ได้ดีพอสมควร


นายชูเกียรติ  โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักด์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ขอให้เป็นคนที่มีประสบการณ์ เป็นที่ยอมรับของสังคม เพราะจากนี้เรื่องของเศรษฐกิจไม่ใช่เรื่องง่าย หลังการระบาดของโควิด-19 บุคคลที่จะเข้ามาดูแลเรื่องเศรษฐกิจต้องเป็นคนที่มีความสามารถอย่างมาก แต่เท่าที่ดูรายชื่อโผของบุคคลที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งมองว่าน่าจะเป็นภาพลักษณ์ที่ดี ซึ่งขณะนี้ต้องดูทั้ง 2 ฝั่ง คือ ฝั่งในประเทศที่ต้องกระตุ้นให้เกิดการบริโภค สร้างความเชื่อมั่นในประเทศให้สูงขึ้น และอีกฝั่ง คือ นโยบายด้านต่างประเทศที่ต้องทำควบคู่กันไป 

นายชูเกียรติ กล่าวอีกว่า สำหรับการส่งออกข้าวปีนี้ตลาดข้าวไม่ค่อยสดใสนักจากหลายปัจจัยโดยเฉพาะต้นทุนการผลิตที่สูงกว่าประเทศคู่แข่ง เช่น เวียดนาม ที่ผลิตข้าวเพื่อส่งออกแข่งกับไทย ซึ่งขายในราคาที่ต่ำกว่าไทย ทำให้ผู้ส่งออกข้าวไทยแพ้ตั้งแต่ในมุ้ง แข่งขันไม่ได้ หนทางเดียวคือการพัฒนาวิจัยพันธุ์ข้าวที่ตลาดขาดแคลนหรือยังไม่มีเช่น ข้าวพื้นนุ่มที่ตลาดต้องการ เชื่อว่าประเทศไทยจะกลับมาเป็นผู้ส่งออกในลำดับต้น ๆ ของโลกได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

อุณหภูมิลดอีก 1-3 องศาฯ “อีสาน-เหนือ” อากาศเย็นถึงหนาว

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบน อุณหภูมิลดลงอีก 1-3 องศาฯ กับมีลมแรง อีสานและเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อากาศเย็น ภาคใต้ฝนเพิ่ม ตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางเทศกาลปีใหม่ 2568

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางขาออกเทศกาลปีใหม่ 2568 ถนนทุกสาย และระบบขนส่งสาธารณะทุกโหมด มีประชาชนทะลักเดินทางตั้งแต่เย็นวานนี้ (27 ธ.ค.) ภาพรวมเป็นอย่างไร พูดคุยกับนายวิทยา ยาม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม.