กรุงเทพฯ 10 เม.ย. – 13 เม.ย.นี้ นัดถกภาครัฐและเอกชน จัดทำแผนเตรียมเปิดให้บริการเดือน พ.ค.นี้ ข่าวดีบริษัทขนาดใหญ่จะไม่ปรับพนักงานออกแน่นอน
นายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าไทย เปิดเผยว่า วันที่ 13 เมษายนนี้ ภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) และหน่วยงานภาครัฐ ประกอบด้วย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท. สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะประชุมร่วมกัน โดย สศช.จะทำหน้าที่เป็นประธาน เพื่อรวบรวมข้อมูลและรับฟังปัญหาจากภาคเอกชนในสถานการณ์โควิด-19 ว่าหลังจากการควบคุมจนสามารถการแพร่ระบาดลดน้อยลง โดยจะมาดูว่าเมื่อครบกำหนดที่รัฐสั่งปิดสถานประกอบการและควบคุมโควิด-19 ได้แล้ว การเปิดดำเนินธุรกิจแต่ละสาขาจะต้องดำเนินการอย่างไร
“สศช.จะเป็นผู้รวบรวม เพื่อนำข้อเสนอต่าง ๆ ไปเสนอภาครัฐ เชื่อว่าจากความร่วมมือของภาครัฐและเอกชน รวมถึงหากประชาชนทั้งประเทศให้การร่วมมือกับมาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาลน่าจะทำให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดน้อยลง ดังนั้น เอกชนจะต้องเตรียมตัวหากสถานการณ์ต่าง ๆ เข้าสู่ภาวะปกติและเปิดดำเนินการตั้งแต่เดือนพฤษภาคมจะต้องทำอย่างไรบ้าง” นายกลินท์ กล่าว
นายกลินท์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับคำยืนยันจากผู้ประกอบการายใหญ่ เช่น กลุ่มซีพี ห้างเซ็นทรัล หรือกลุ่มเอสซีจี และอีกหลายกลุ่มที่เป็นสมาชิกหอการค้าไทย ต่างยืนยันว่าจะไม่ปรับลดพนักงานหรือเอาพนักงานออกแต่อย่างใด เพราะขณะนี้เชื่อว่าผู้ประกอบการทั้งระบบได้เตรียมมาตรการรองรับการดูแลพนักงานต่าง ๆ อย่างดี และที่สำคัญเมื่อสถานการณ์กลับมาเป็นปกติการเปิดให้บริการของห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป จากการที่ฟังข้อเสนอของกลุ่มห้างเซ็นทรัลและห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ แต่ละห้างมีมาตรการดูแลไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งที่ผ่านมาห้างสรรพสินค้าไม่ใช่เป็นพื้นที่แพร่ระบาดของโรค แต่ยอมรับว่าหลังจากนี้ทั้งผู้ประกอบการและผู้ผลิตสินค้าต่าง ๆ จะใช้มาตรการดูแลสุขอนามัยทั้งบุคลากรและพื้นที่ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล เพื่อปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 น้อยลง ดังนั้น วันที่ 13 เมษายนนี้ แต่ละกลุ่มจะเตรียมนำข้อเสนอ เพื่อให้ สศช.รับไปดำเนินการเต็มที่.-สำนักข่าวไทย