กรุงเทพฯ 27 ส.ค. – รอง ผบช.ก. เผยพบเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ หลักพันล้านบาท โยงคนใกล้ชิดอดีตพระอลงกต 30 คน เร่งสอบสวนเอาผิดเพิ่มฐานฟอกเงิน
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) กล่าวว่า หลักฐานที่ตรวจยึดได้เมื่อวานนี้ ขณะนี้กำลังคัดแยกหลักฐาน เพราะมีข้อมูลเยอะมาก ในเรื่องของพยานหลักฐานที่ได้ตรวจยึดมาจึงต้องคัดแยกเป็นหมวดหมู่และดำเนินการเพื่อตรวจสอบต่อไป
ทั้งนี้หมอบีมีคนใกล้ชิดที่พบ 3 คน และคนใกล้ชิดห่างๆ 1 คน โดยในวันที่เข้าตรวจค้นบ้าน มีคนที่อยู่ด้วยกัน 3 คน อีกคนเป็นเลขาฯ และน่าจะมีปัญหาขัดแย้งกันภายใน จึงมีการออกมาพูดถึงเรื่องความผิดปกติต่างๆ ซึ่งตำรวจได้มีการสอบปากคำคนใกล้ชิดเป็นผู้หญิงไว้เป็นพยาน การบริหารงานของหมอบี ยังไม่ดีเท่าวัดเท่าไหร่ ส่วนเน็ตไอดอลขอไม่ลงลึกในรายละเอียด
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า หมอบีเป็นเส้นเลือดใหญ่ กระจายบางส่วนออกไปสู่คนใกล้ชิด เมื่อถามถึงกรณีนักร้อง อินฟลูเอนเซอร์ พล.ต.ต.จรูญเกียรติบอกว่า เป็นคำบ่นของอดีตพระอลงกต ว่ากลุ่มนักร้องที่มาแสดงดนตรี โกงอดีตพระอลงกตเรื่องค่าใช้จ่ายไม่ตรง สมมติขายบัตรได้เท่าไหร่ และจะต้องหักค่าใช้จ่ายให้วัดเท่าไหร่
ส่วนกรณีบ้านดำโอนกลับไปเป็นชื่อของอดีตพระอลงกตแล้วก่อนจะมีเรื่อง โดยบ้านหลังนี้มีการโอนผ่านไปยังอดีตพระอลงกตแล้ว แต่เนื่องจากตำรวจอยากได้เส้นทางการเงินที่ชัดเจน และเป็นเส้นทางการเงินที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ จึงรอเวลาการขอสเตทเม้นท์ จนพบเส้นเงินที่โยงและนำไปใช้ซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม ส่วนรายละเอียดลึกๆ การโอนกลับยังไม่เห็นว่ามีการทำสัญญาให้โอนกลับมายังผู้ให้หากผู้รับเสียชีวิต ทั้งนี้จะนำทรัพย์สินทั้งหมดที่มีคนนำมาบริจาคและนำไปซื้อทรัพย์สินที่เป็นที่ดิน และอยู่ในความครอบครองของคนอื่น จึงประกาศเตือนไปถึงทุกคนที่ยึดถือครอบครองทรัพย์สินของวัดทั้งบ้านที่ดิน ให้นำมาคืนวัดให้หมด ให้ติดต่อกับพนักงานสอบสวนหากไม่คืนจะถือว่ามีเจตนา
ส่วนการตรวจสอบเมื่อวานนี้ เจอทั้ง อาวุธปืน 2-3 กระบอก โฉนดที่ดินและเงินสดจำนวนหลายล้าน ส่วนกรณีโรงเรียนทางรัฐบาลได้เข้าไปดูแลแล้ว เรื่องที่อดีตพระอลงกตห่วงอยู่เรื่องเดียวคือผู้ป่วยเอดส์จำนวนหลักร้อยคนที่อยู่ในวัดนอนติดเตียง ทางกองบังคับการปราบปรามได้ประสานกระทรวงสาธารณสุขเข้าไปดูแลแล้ว ส่วนทรัพย์สินต่างๆ จำนวนมาก ทั้งที่ดิน มูลนิธิหลวงพ่อไม่ได้ให้ความเห็นว่าใครจะเหมาะสม ขึ้นอยู่กับสำนักงานพระพุทธศาสนาจะเป็นผู้ดำเนินการพิจารณาว่าใครจะมีความเหมาะสม ที่จะเข้าดูแลวัดพระบาทน้ำพุ และหน่วยต่างๆ ต่อ
เมื่อถามถึงประเด็นอดีตพระอลงกตมีครอบครัวหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า เป็นการบ้านข้อหนึ่งที่จะต้องทำ เพราะเมื่อวานนี้ได้ทำการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของอดีตพระอลงกตไว้แล้วจะต้องตรวจสอบต่อไป เมื่อถามถึงเด็กที่ชื่อใจฟ้ามีตัวตนจริงหรือไม่ รอง ผบช.ก. บอกว่าอย่าเพิ่งไปไกล ข้อมูลที่มีคงจะไปดำเนินการตรวจสอบ
ส่วนเส้นทางการเงินของวัดพระบาทน้ำพุ ได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินสัมพันธ์มีเงินหมุนเวียนในการเบิกถอนพบบุคคลที่เข้ามาเกี่ยวข้องในกระบวนการประมาณ 30 คน เป็นบุคคลที่ทำงานใกล้ชิดกับหลวงพ่อ ซึ่งเส้นเงินที่มีความสัมพันธ์กันส่วนนี้จะต้องเป็นหน้าที่ตำรวจจะต้องไปขยายผลต่อไป เชื่อว่าเงินน่าจะผ่านบัญชีเป็นเงินสดจำนวนหลาย 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนจะต้องเรียกบุคคลใกล้ชิดที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาสอบปากคำอยู่แล้ว
ส่วนจะมีใครถูกออกหมายจับเพิ่มเติมหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องทำการสอบสวนคลี่คลายคดีนี้ เงินบริจาคทั้งหมดที่ได้มาที่ไม่ใช่เงินส่วนตัว ถือว่าเป็นการบริจาคมาเพื่อวัดพระบาทน้ำพุเป็นส่วนใหญ่ ส่วนจะมีการบริจาคให้อดีตพระอลงกตส่วนตัวยังไม่ค่อยเห็น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการบริจาคเงินมาช่วยผู้ป่วยเอดส์ ซึ่งใครที่จะมาเกี่ยวกับเงินพวกนี้จะโดนข้อหาฟอกเงินไปด้วย
ส่วนกรณีการเข้าตรวจค้นที่พบเครื่องทำลายเอกสาร พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า ส่วนตัวเชื่อว่าเส้นเงินที่มีความสัมพันธ์กัน อย่างไรก็ไม่สามารถแก้ไขหรือทำลายหลักฐานได้
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า เมื่อดูเรื่องทั้งหมดแล้วน่าจะใช้ชื่อปฏิบัติการว่า “อลงกตการละคร” มากกว่า เพราะเป็นการแสดงละครเพื่อตบตาประชาชนเพื่อให้ได้ทรัพย์สินมา เป็นเรื่องของการฉ้อฉลหลอกลวงพี่น้องประชาชน เพราะความจำเป็นในเรื่องของการรักษาผู้ป่วยไม่มีเพราะยาจะต้องไปเบิกที่รัฐ คดีนี้เข้าข้อหาฉ้อโกงประชาชนได้ แต่มองว่าหากเอาผิดในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ทรัพย์สินจะตกไปอยู่กับแผ่นดิน แต่ส่วนตัวอยากให้ทรัพย์สินทั้งหมดกลับคืนสู่วัด จึงตั้งข้อหาเอาผิดตามมาตรา 147, 157 และฟอกเงิน
ส่วนช่วงเวลาที่หายไปนั้น ทางตำรวจรับฟังข้อมูลทั้งเรื่องการทำงานก่อสร้างเปโตรนาส ที่มาเลเซีย 2-3 ปี โดยไปก่อสร้างไม่ได้เขียนแบบ รวมถึงก่อนหน้านี้อดีตพระอลงกตบอกว่าหลังเล่นฟุตบอลก็ไปมีเรื่องสำมะเลเทเมา ส่วนการเกณฑ์ทหารก็น่าจะตรวจสอบได้เพราะมีการหนีไปและกลับมาเปลี่ยนเป็นชื่อบุคคลอื่น จากคำให้การก็ไม่เชื่อทั้งหมดที่อ้างว่าเป็นเพื่อนสนิทกัน อย่างไรก็ตาม ศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยทางพระพุทธศาสนาต้องการทำข้อมูลข้อเท็จจริงให้มากกว่านี้เพราะข้อมูลข้อเท็จจริงที่อดีตพระอลงกตมีการอัพเดตชื่อเลขบัตรประชาชน 13 หลัก จะต้องตรวจสอบได้
ทั้งนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า การสอบปากคำอดีตพระอลงกตเป็นการพูดคุยเรื่องการสึก/ไม่สึก, เรื่องยิงนักข่าว ซึ่งเรื่องการยิงนักข่าวทางท่านอ้ำอึ้งไม่อยากตอบ ทราบว่าเกี่ยวข้อง แต่ไม่อยากพูด
ส่วนดาราที่รับเงิน รวมถึงนักร้อง จะเป็นกลุ่มต่อไปที่จะต้องดำเนินคดีหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน
“หมอบีเก่งมาก เพราะโน้มน้าวคนให้อยู่ร่วมกันและเข้าใจกันได้ เขียนหนังสือว่าทุกคน เป็นพี่น้องอยู่กันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน หลังจากนี้จะต้องเรียกคนใกล้ชิดมาสอบ เพราะหมอบีเป็นเส้นเลือดใหญ่ นอกจากหมอบีจะมีมนต์ขลังจะต้องมีเงินด้วย” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว
ทั้งนี้ มีข้อมูลที่มีการร้องเรียนผ่านศูนย์ฯ มาจำนวน 300-400 เรื่อง ยังพบว่ามีเรื่องร้องเรียนในลักษณะนี้อยู่ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ จะมีการประชุมและเร่งรัดสรุปว่าเรื่องไหนจบ เรื่องไหนไปต่อได้ และเรื่องไหนควรทำอย่างเร่งด่วน เพราะมีเรื่องที่น่าจะสึกพระได้อีกหลายรูปแต่ไม่ใช่พระชั้นผู้ใหญ่ แต่มีพฤติกรรมส่อไปในทางที่ต้องปาราชิก. -419- สำนักข่าวไทย