“บิ๊กเต่า” เผยพบเส้นเงินหลักพันล้านโยงคนใกล้ชิดอดีตพระอลงกต

กรุงเทพฯ 27 ส.ค. – รอง ผบช.ก. เผยพบเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ หลักพันล้านบาท โยงคนใกล้ชิดอดีตพระอลงกต 30 คน เร่งสอบสวนเอาผิดเพิ่มฐานฟอกเงิน


พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) กล่าวว่า หลักฐานที่ตรวจยึดได้เมื่อวานนี้ ขณะนี้กำลังคัดแยกหลักฐาน เพราะมีข้อมูลเยอะมาก ในเรื่องของพยานหลักฐานที่ได้ตรวจยึดมาจึงต้องคัดแยกเป็นหมวดหมู่และดำเนินการเพื่อตรวจสอบต่อไป

ทั้งนี้หมอบีมีคนใกล้ชิดที่พบ 3 คน และคนใกล้ชิดห่างๆ 1 คน โดยในวันที่เข้าตรวจค้นบ้าน มีคนที่อยู่ด้วยกัน 3 คน อีกคนเป็นเลขาฯ และน่าจะมีปัญหาขัดแย้งกันภายใน จึงมีการออกมาพูดถึงเรื่องความผิดปกติต่างๆ ซึ่งตำรวจได้มีการสอบปากคำคนใกล้ชิดเป็นผู้หญิงไว้เป็นพยาน การบริหารงานของหมอบี ยังไม่ดีเท่าวัดเท่าไหร่ ส่วนเน็ตไอดอลขอไม่ลงลึกในรายละเอียด


พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า หมอบีเป็นเส้นเลือดใหญ่ กระจายบางส่วนออกไปสู่คนใกล้ชิด เมื่อถามถึงกรณีนักร้อง อินฟลูเอนเซอร์ พล.ต.ต.จรูญเกียรติบอกว่า เป็นคำบ่นของอดีตพระอลงกต ว่ากลุ่มนักร้องที่มาแสดงดนตรี โกงอดีตพระอลงกตเรื่องค่าใช้จ่ายไม่ตรง สมมติขายบัตรได้เท่าไหร่ และจะต้องหักค่าใช้จ่ายให้วัดเท่าไหร่

ส่วนกรณีบ้านดำโอนกลับไปเป็นชื่อของอดีตพระอลงกตแล้วก่อนจะมีเรื่อง โดยบ้านหลังนี้มีการโอนผ่านไปยังอดีตพระอลงกตแล้ว แต่เนื่องจากตำรวจอยากได้เส้นทางการเงินที่ชัดเจน และเป็นเส้นทางการเงินที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ จึงรอเวลาการขอสเตทเม้นท์ จนพบเส้นเงินที่โยงและนำไปใช้ซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม ส่วนรายละเอียดลึกๆ การโอนกลับยังไม่เห็นว่ามีการทำสัญญาให้โอนกลับมายังผู้ให้หากผู้รับเสียชีวิต ทั้งนี้จะนำทรัพย์สินทั้งหมดที่มีคนนำมาบริจาคและนำไปซื้อทรัพย์สินที่เป็นที่ดิน และอยู่ในความครอบครองของคนอื่น จึงประกาศเตือนไปถึงทุกคนที่ยึดถือครอบครองทรัพย์สินของวัดทั้งบ้านที่ดิน ให้นำมาคืนวัดให้หมด ให้ติดต่อกับพนักงานสอบสวนหากไม่คืนจะถือว่ามีเจตนา

ส่วนการตรวจสอบเมื่อวานนี้ เจอทั้ง อาวุธปืน 2-3 กระบอก โฉนดที่ดินและเงินสดจำนวนหลายล้าน ส่วนกรณีโรงเรียนทางรัฐบาลได้เข้าไปดูแลแล้ว เรื่องที่อดีตพระอลงกตห่วงอยู่เรื่องเดียวคือผู้ป่วยเอดส์จำนวนหลักร้อยคนที่อยู่ในวัดนอนติดเตียง ทางกองบังคับการปราบปรามได้ประสานกระทรวงสาธารณสุขเข้าไปดูแลแล้ว ส่วนทรัพย์สินต่างๆ จำนวนมาก ทั้งที่ดิน มูลนิธิหลวงพ่อไม่ได้ให้ความเห็นว่าใครจะเหมาะสม ขึ้นอยู่กับสำนักงานพระพุทธศาสนาจะเป็นผู้ดำเนินการพิจารณาว่าใครจะมีความเหมาะสม ที่จะเข้าดูแลวัดพระบาทน้ำพุ และหน่วยต่างๆ ต่อ


เมื่อถามถึงประเด็นอดีตพระอลงกตมีครอบครัวหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า เป็นการบ้านข้อหนึ่งที่จะต้องทำ เพราะเมื่อวานนี้ได้ทำการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของอดีตพระอลงกตไว้แล้วจะต้องตรวจสอบต่อไป เมื่อถามถึงเด็กที่ชื่อใจฟ้ามีตัวตนจริงหรือไม่ รอง ผบช.ก. บอกว่าอย่าเพิ่งไปไกล ข้อมูลที่มีคงจะไปดำเนินการตรวจสอบ

ส่วนเส้นทางการเงินของวัดพระบาทน้ำพุ ได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินสัมพันธ์มีเงินหมุนเวียนในการเบิกถอนพบบุคคลที่เข้ามาเกี่ยวข้องในกระบวนการประมาณ 30 คน เป็นบุคคลที่ทำงานใกล้ชิดกับหลวงพ่อ ซึ่งเส้นเงินที่มีความสัมพันธ์กันส่วนนี้จะต้องเป็นหน้าที่ตำรวจจะต้องไปขยายผลต่อไป เชื่อว่าเงินน่าจะผ่านบัญชีเป็นเงินสดจำนวนหลาย 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนจะต้องเรียกบุคคลใกล้ชิดที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาสอบปากคำอยู่แล้ว

ส่วนจะมีใครถูกออกหมายจับเพิ่มเติมหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องทำการสอบสวนคลี่คลายคดีนี้ เงินบริจาคทั้งหมดที่ได้มาที่ไม่ใช่เงินส่วนตัว ถือว่าเป็นการบริจาคมาเพื่อวัดพระบาทน้ำพุเป็นส่วนใหญ่ ส่วนจะมีการบริจาคให้อดีตพระอลงกตส่วนตัวยังไม่ค่อยเห็น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการบริจาคเงินมาช่วยผู้ป่วยเอดส์ ซึ่งใครที่จะมาเกี่ยวกับเงินพวกนี้จะโดนข้อหาฟอกเงินไปด้วย

ส่วนกรณีการเข้าตรวจค้นที่พบเครื่องทำลายเอกสาร พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า ส่วนตัวเชื่อว่าเส้นเงินที่มีความสัมพันธ์กัน อย่างไรก็ไม่สามารถแก้ไขหรือทำลายหลักฐานได้

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า เมื่อดูเรื่องทั้งหมดแล้วน่าจะใช้ชื่อปฏิบัติการว่า “อลงกตการละคร” มากกว่า เพราะเป็นการแสดงละครเพื่อตบตาประชาชนเพื่อให้ได้ทรัพย์สินมา เป็นเรื่องของการฉ้อฉลหลอกลวงพี่น้องประชาชน เพราะความจำเป็นในเรื่องของการรักษาผู้ป่วยไม่มีเพราะยาจะต้องไปเบิกที่รัฐ คดีนี้เข้าข้อหาฉ้อโกงประชาชนได้ แต่มองว่าหากเอาผิดในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ทรัพย์สินจะตกไปอยู่กับแผ่นดิน แต่ส่วนตัวอยากให้ทรัพย์สินทั้งหมดกลับคืนสู่วัด จึงตั้งข้อหาเอาผิดตามมาตรา 147, 157 และฟอกเงิน

ส่วนช่วงเวลาที่หายไปนั้น ทางตำรวจรับฟังข้อมูลทั้งเรื่องการทำงานก่อสร้างเปโตรนาส ที่มาเลเซีย 2-3 ปี โดยไปก่อสร้างไม่ได้เขียนแบบ รวมถึงก่อนหน้านี้อดีตพระอลงกตบอกว่าหลังเล่นฟุตบอลก็ไปมีเรื่องสำมะเลเทเมา ส่วนการเกณฑ์ทหารก็น่าจะตรวจสอบได้เพราะมีการหนีไปและกลับมาเปลี่ยนเป็นชื่อบุคคลอื่น จากคำให้การก็ไม่เชื่อทั้งหมดที่อ้างว่าเป็นเพื่อนสนิทกัน อย่างไรก็ตาม ศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยทางพระพุทธศาสนาต้องการทำข้อมูลข้อเท็จจริงให้มากกว่านี้เพราะข้อมูลข้อเท็จจริงที่อดีตพระอลงกตมีการอัพเดตชื่อเลขบัตรประชาชน 13 หลัก จะต้องตรวจสอบได้

ทั้งนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า การสอบปากคำอดีตพระอลงกตเป็นการพูดคุยเรื่องการสึก/ไม่สึก, เรื่องยิงนักข่าว ซึ่งเรื่องการยิงนักข่าวทางท่านอ้ำอึ้งไม่อยากตอบ ทราบว่าเกี่ยวข้อง แต่ไม่อยากพูด

ส่วนดาราที่รับเงิน รวมถึงนักร้อง จะเป็นกลุ่มต่อไปที่จะต้องดำเนินคดีหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน

“หมอบีเก่งมาก เพราะโน้มน้าวคนให้อยู่ร่วมกันและเข้าใจกันได้ เขียนหนังสือว่าทุกคน เป็นพี่น้องอยู่กันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน หลังจากนี้จะต้องเรียกคนใกล้ชิดมาสอบ เพราะหมอบีเป็นเส้นเลือดใหญ่ นอกจากหมอบีจะมีมนต์ขลังจะต้องมีเงินด้วย” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว

ทั้งนี้ มีข้อมูลที่มีการร้องเรียนผ่านศูนย์ฯ มาจำนวน 300-400 เรื่อง ยังพบว่ามีเรื่องร้องเรียนในลักษณะนี้อยู่ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ จะมีการประชุมและเร่งรัดสรุปว่าเรื่องไหนจบ เรื่องไหนไปต่อได้ และเรื่องไหนควรทำอย่างเร่งด่วน เพราะมีเรื่องที่น่าจะสึกพระได้อีกหลายรูปแต่ไม่ใช่พระชั้นผู้ใหญ่ แต่มีพฤติกรรมส่อไปในทางที่ต้องปาราชิก. -419- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย

รวบยกแก๊ง 4 ชาวอังกฤษขับรถชิงทรัพย์ชาวอเมริกัน

ภูเก็ต 19 ก.ย. – วานนี้มีเหตุอุกอาจกลางเมืองภูเก็ต กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายก่อนลงไปชิงนาฬิกาหรู มูลค่ากว่า 2 ล้าน เช้านี้ตำรวจรวบผู้ก่อเหตุได้ครบ เชื่อวางแผนทำกันเป็นขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ไทยยึดหลักสากล จัดการปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ 19 ก.ย.- “อนุทิน” แจงประธานอาเชียน เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยืนยันยึดหลักสากล จัดการปัญหา กัมพูชาขัดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอดกลั่น และใช้เวลาชี้แจงกับประชาชนกัมพูชา แต่ไม่เป็นผล ที่สุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของไทยต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ตามหลักมนุษยชนการปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง การวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย […]

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]