ออสโล 11 ต.ค.- คณะกรรมการโนเบลนอร์เวย์ประกาศให้นายกรัฐมนตรีอาบี อาเหม็ด อาลีของเอธิโอเปีย ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2562 จากความพยายามบรรลุสันติภาพและความร่วมมือสากล โดยเฉพาะอย่างยิ่งความริเริ่มอย่างแน่วแน่ที่จะแก้ไขความขัดแย้งทางพรมแดนกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเอริเทรีย
แถลงการณ์ของคณะกรรมโนเบลนอร์เวย์ระบุว่า รางวัลนี้ยังแสดงถึงการยอมรับทุกฝ่ายที่ทำงานเพื่อสร้างสันติภาพและความปรองดองในเอธิโอเปีย แอฟริกาตะวันออกและแอฟริกาตะวันออกเฉียงเหนือ นายกรัฐมนตรีอาบี อาเหม็ดประกาศชัดเจนตั้งแต่รับตำแหน่งเมื่อเดือนเมษายนปีก่อนว่า ปรารถนาจะฟื้นการเจรจาสันติภาพกับเอริเทรีย และด้วยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับประธานาธิบดีอิซายาส อัฟวาร์กี ของเอริเทรียทำให้เขาสามารถร่างหลักการข้อตกลงสันติภาพได้อย่างรวดเร็ว เพื่อยุติภาวะชะงักงันระหว่างสองประเทศที่อยู่ในสภาพไม่มีทั้งสันติภาพและสงคราม นำมาซึ่งการลงนามข้อตกลงสันติภาพเมื่อปีก่อน สิ่งสำคัญที่ทำให้เรื่องนี้ประสบความสำเร็จคือการที่นายกรัฐมนตรีอาบี อาเหม็ดยินดียอมรับคำชี้ขาดของคณะกรรมาธิการพรมแดนสากลเมื่อปี 2545 อย่างไม่มีเงื่อนไข และสันติภาพไม่สามารถเกิดขึ้นจากการกระทำของฝ่ายเดียว เพราะเมื่อนายกรัฐมนตรีเอธิโอเปียริเริ่ม ประธานาธิบดีเอริเทรียก็ตอบสนองและช่วยทำให้กระบวนการสันติภาพเป็นรูปเป็นร่าง
แถลงการณ์ระบุต่อไปว่า บางคนอาจกังขาว่าเป็นการมอบรางวัลที่เร็วเกินไป แต่คณะกรรมการเชื่อว่าความพยายามของนายกรัฐมนตรีอาบี อาเหม็ดสมควรได้รับการยอมรับและสนับสนุนเพื่อช่วยเสริมสร้างภารกิจสำคัญของเขาในการสร้างสันติภาพและความปรองดองแห่งชาติ เอธิโอเปียเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยผู้คนและภาษาหลากหลาย ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ในอดีตกลับมาปะทุใหม่เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งอาจทำให้ชาวเอธิโอเปียต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่นในประเทศมากถึง 3 ล้านคน เอธิโอเปียมีประชากรมากเป็นอันดับสองของแอฟริกาและมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดแอฟริกาตะวันออก สันติภาพ เสถียรภาพและความสำเร็จของประเทศนี้จะส่งผลเชิงบวกมากมายและจะช่วยเสริมสร้างภราดรภาพระหว่างผู้คนและประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้.-สำนักข่าวไทย