‘อนุทิน’ ยันรัฐบาลหนุนยกเลิกใช้สารเคมีอันตรายทางการเกษตร

สธ.4 ต.ค.- รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันรัฐบาลสนับสนุนยกเลิกการนำสารอันตรายที่มีผลต่อสุขภาพมาใช้ ไม่เฉพาะด้านเกษตรกรรม เพื่อปกป้องสุขภาพคนในประเทศ เร่งปลูกจิตสำนึก สร้างความเข้าใจ ผู้ผลิต/ผู้บริโภค ใส่ใจข้อมูล วิเคราะห์สิ่งที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ 


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ภารกิจของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) คือการรักษาปกป้อง เสริมสร้างสุขภาพประชาชน หากมีสิ่งอันตรายมีผล กระทบต่อสุขภาพของประชาชนในประเทศ เป็นหน้าที่ของกระทรวงที่จะ ต้องปกป้องและให้ยกเลิกการใช้สารเคมีอันตรายทางการเกษตร 3 ชนิด (พาราควอต ไกลโฟเซตและคลอร์ไพริฟอส ) รวมทั้งสารเคมีอื่นๆ ไม่เฉพาะในผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรเพียงอย่างเดียว 


ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าการใช้สารเคมีทางการเกษตรเพื่อกำจัดวัชพืชฆ่าแมลง ทำให้ผลผลิตเจริญเติบโตได้เร็วขึ้น สวยงามมากขึ้น  แต่มีผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย และการจำกัดการใช้ก็เพื่อช่วยลดความรุนแรงผลกระทบของสารเคมีต่อร่างกายมนุษย์ ซึ่งยังไม่ตอบโจทย์และไม่ได้เป็นการแก้ไขปัญหา จึงต้องยกเลิกการนำมาใช้ เพื่อไม่ให้มีสารอันตรายต่อสุขภาพในส่วนประกอบของผลผลิตทางเกษตรกรรม โดยต้องมีผลิตภัณฑ์ทดแทนที่ไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพผู้ใช้และผู้บริโภค


นายอนุทิน กล่าวว่า สังคมและประชาชนส่วนใหญ่ เห็นผลเสียของการใช้สารเคมีในทางเกษตรกรรมอย่างชัดเจน ผลเสียไม่ได้เกิดแค่กับเกษตรกรเท่านั้น ประชาชนผู้บริโภคเป็นผู้รับเคราะห์กรรมในปลายน้ำ การสะสมของสารพิษในร่างกายจะทำให้เสียสุขภาพ เสียเงินทองและอาจจะทำให้ถึงแก่ชีวิตด้วย ดังนั้น ประชาชนควรร่วมกันรณรงค์ไม่ให้มีการใช้สารพิษในอาหารที่เรารับประทาน ซึ่งจิตสำนึกของทุกฝ่ายเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ผู้ใช้สารเคมีในการทำเกษตรกรรมควรตระหนักถึงสุขภาพของผู้บริโภคให้มากยิ่งขึ้น ต้องเข้าใจว่าสารเคมีมีผลเสียต่อส่วนรวมในวงกว้าง ควรเน้นการปลูกพืชแบบเกษตรอินทรีย์  ในส่วนผู้บริโภคขอให้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media)ให้เป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิต ใช้ติดตามข้อมูล วิเคราะห์ว่าสิ่งที่สวยงาม เช่น  ผลไม้ดูเปล่งปลั่ง ผักดูน่าทาน เติบโตตามธรรมชาติหรือไม่ มีความสดหรือไม่นั้นได้ผ่านกรรมวิธีกระบวนการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือไม่ เลือกสิ่งที่ดีที่สุดเข้าสู่ร่างกาย  เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด

“ผมมีความเชื่อมั่นว่า ไม่มีอะไรที่จะทำไม่สำเร็จ สารเคมีอันตรายเป็นเรื่องของส่วนรวม ถ้าสุขภาพไม่แข็งแรง ประเทศก็ไม่สามารถพัฒนาให้เจริญได้ ถือเป็นเรื่องของรัฐบาลที่ต้องร่วมแก้ไข และหามาตรการให้ประชาชนได้บริโภคอาหารปราศจากสารพิษ มีคุณค่าต่อร่างกาย ในยุคที่ผมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ถือเป็นหน้าที่และภารกิจที่จะต้องดูแลเอาใจใส่ สารทุกข์สุขดิบของพี่น้องประชาชน ต้องการให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี ได้บริโภคอาหารที่มีประโยชน์และคุณค่า ถือว่าเป็นภารกิจที่สำคัญต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด” นายอนุทินกล่าว 

ทั้งนี้ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกฝ่ายที่ร่วมกันต่อต้านการใช้สารเคมีและวัตถุปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร พร้อมจะสนับสนุนภารกิจให้บรรลุเป้าหมาย เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะทำทุกอย่างเพื่อให้ประชาชนเกิดความสุขและได้บริโภคอาหารอย่างปลอดภัย กำลังใจของประชาชนสำคัญมาก ขอกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ที่พยายามกำจัดสิ่งที่ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพร่างกาย กล้าต่อสู้ เพื่อนำสิ่งที่ถูกต้องกลับมายังพี่น้องประชาชนทุกคน ให้ได้รับอาหารปลอดภัยและปราศจากสารพิษ .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด