fbpx

“อนุทิน” ย้ำจุดยืนสธ.ค้านใช้สารอันตราย

ทำเนียบรัฐบาล 1 ก.ย.-“อนุทิน” ระบุครม.ไม่ได้คุยเรื่องนำสารอันตรายกลับมาใช้ อำนาจตัดสินใจของคณะกรรมการวัตถุอันตราย ย้ำจุดยืนสธ.ค้าน พร้อมชี้สารพิษต้นทุนต่ำแต่ทำให้ต้นทุนการรักษาพยาบาลสูง


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกะทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เกี่ยวกับข้อกังวลว่าจะมีการนำสารเคมีอันตรายที่ถูกแบนกลับมาใช้ใหม่หรือไม่ ว่า ที่ประชุมครม. ไม่ได้พูดเรื่องนี้ ขณะนี้ยังไม่ได้เรียกประชุมคณะกรรมการใด ๆ ทั้งสิ้น รวมถึงสารพาราควอตและสารคลอร์ไพริฟอสถูกแบนไปก่อนหน้านี้เรียบร้อยแล้ว และเท่าที่ทราบทางกระทรวงอุตสาหกรรมได้ประกาศเป็นกฎกระทรวงแล้ว ไม่มีอะไรต้องกังวล

“ผมพบกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้ว นายเฉลิมชัยบอกว่ามีคนร้องเรียนมา เลยเสนอเรื่องให้เจ้าหน้าที่ในคณะกรรมการพิจารณาเท่านั้น” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว


เมื่อถามว่าแสดงว่าไม่แน่ใจว่าจะทบทวนเรื่องนี้ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้(1 ก.ย.) ในที่ประชุมครม.ไม่ได้พูดเรื่องนี้ ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของครม. หากส่วนในของกระทรวงเกษตรฯจะพิจารณาทบทวนต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการวัตถุอันตราย สิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขแถลงจุดยืนไปเมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมาว่าเรายังคัดค้านการใช้สารเคมีเหล่านี้เพื่อการเกษตร แต่ยังมีความพยายามของผู้ประกอบการ ซึ่งไม่ได้มีปัญหา

“แต่คิดว่าคงไม่มีใครพิจารณาเข้า ๆ ออก ๆ เพราะของอันตรายคือของอันตราย ไม่มีทางกลับไปเป็นของที่ปลอดภัยได้ เชื่อว่ายุคนี้สมัยนี้คงไม่มีใครเอาของอันตรายไปให้ประชาชนและเกษตรกรใช้ ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขมีความเป็นห่วงสุขภาพของประชาชน จึงต้องจัดเตรียมข้อมูลให้มากที่สุด และคนที่แถลงจุดยืนไม่ใช่ตัวรัฐมนตรี แต่เป็นทีมแพทย์ที่กำกับดูแลหน่วยงานต่าง ๆ ที่ยืนยันว่าเป็นอันตราย” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามย้ำว่า เรื่องนี้ต้องรอให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายพิจารณาอีกหรือไม่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการฯ และเลขานุการว่าจะบรรจุเป็นวาระการประชุมหรือไม่ ซึ่งใครก็สามารถเสนอเรื่องได้ แต่จะโหวตหรือไม่ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการฯ


“ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขมีคณะกรรมการร่วมอยู่เพียง 2 คนจากทั้งหมด 27 คน ยืนยันว่าเราโหวตโนแน่นอน เพราะไม่เห็นด้วยกับการใช้สารดังกล่าว ใครจะมาว่าเราไม่ได้” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีพูดถึงเรื่องนี้อย่างไรบ้าง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ไม่ได้คุยกัน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่จบที่คณะกรรมการฯ ไม่ได้จบที่ ครม. ส่วนเรื่องที่ต้องหาสารอื่นมาทดแทนเป็นเรื่องของกรมวิชาการการเกษตรที่ต้องคิดค้น และหาสิ่งมาทดแทน แต่จะมาบอกว่าการใช้สารพิษจะทำให้ต้นทุนลดลง เช่น เรื่องค่าแรงและการปลูก แต่เชื่อว่าต้นทุนการรักษาพยาบาลจะมากกว่าหลายเท่าที่ใช้เงินเป็นแสนเป็นล้านบาท และอวัยวะที่สูญเสียไปจะนำที่ไหนมาคืน

“อย่าคิดเพียงต้นทุนการผลิตอย่างเดียว ให้คิดถึงต้นทุนทางสังคมและการรักษาพยาบาลด้วย ถามว่ามันคุ้มค่าหรือไม่ ส่วนที่บอกว่ามีคนเสียชีวิตจากสารดังกล่าวไม่กี่คน ผมถามว่าถ้าเป็นญาติตัวเองคนเดียวก็ถือว่ามากแล้ว ที่ผ่านมาก็พิสูจน์แล้วว่าแม้กระทั่งทารกที่อยู่ในครรภ์ยังได้รับสารจากสารพิษดังกล่าว” นายอนุทิน กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัด-กลางวันฟ้าหลัว

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10%

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ไฟไหม้โกดังพระราม 2 เหตุร้อนจัด สารเคมีติดไฟเอง

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยสาเหตุไฟไหม้โกดังย่านพระราม 2 มาจากอากาศร้อนจัด ทำให้สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ติดไฟเอง เตือนสถานประกอบการให้แยกสารเคมีที่ติดไฟเองได้หรือสามารถทำปฏิกิริยาออกจากกัน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะอากาศยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง