“มนัญญา” เดือดสั่งตรวจสอบตั้งสมาคมวิทยาการวัชพืชฯ

ทำเนียบฯ 15 ธ.ค.-  “มนัญญา” เดือด สั่งอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ตรวจสอบการตั้งสมาคมวิทยาการวัชพืชแห่งประเทศไทย หลังเดินนโยบายสวนทางแบนสารพาราควอต


น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะกำกับกรมวิชาการเกษตร กล่าวถึง กรณีที่สมาคมวิทยาการวัชพืชแห่งประเทศไทย ระบุว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไม่มีสารทดแทน หลังแบนสารพาราควอต ทำให้เกษตรกรต้องเลิกทำอาชีพเกษตรไป 25% ว่า ขณะนี้มี 7 สมาคมที่ตั้งอยู่ภายในกรมวิชาการเกษตร จึงมอบหมายให้อธิบดีกรมวิชาการเกษตรไปตรวจสอบว่า ดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงอย่างไร 

“ไม่ใช่ว่าพอมีการประชุม ผลออกมาก็ย้อนแย้งกับนโยบายที่ออกไป จากเดิมที่เป็นประโยชน์แก่เกษตรกร ก็กลายไม่เป็นประโยชน์ และจ้องที่จะทำอะไรที่ไม่เป็นประโยชน์กับสารเคมี” น.ส.มนัญญา กล่าว


น.ส.มนัญญา กล่าวว่า ความจริงแต่ละคนในสมาคมก็เป็นนักวิชาการในกรมวิชาการเกษตรมาก่อน แม้กระทั่งอธิบดีที่มีอักษร ส.   ทุกวันนี้การโยกย้ายตำแหน่งในกรมวิชาการเกษตรก็มีปัญหา ย้ายใครก็ต้องเป็นเส้นทางตรง คือ ไม่มีการนำคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานในกรมวิชาการเกษตร ซึ่งประเด็นเหล่านี้ควรจะจบไปตั้งนานแล้ว เพราะขัดกับวัตถุประสงค์ของกรมวิชาการเกษตรที่ต้องทำงานเพื่อเกษตรกร ที่ผ่านมาคนที่ทำงานก็เอา แต่พยายามจะนำสารพิษกลับเข้ามา ทั้งที่เป็นเรื่องที่จบไปแล้วและในการขึ้นต้นการประชุมก็จะอ้างชื่อตน ในการแบนสารเคมีต่างๆ

“ดิฉันอยากถามว่า มีสมาคมเพื่ออะไร คุณต้องกลับมาช่วยเกษตรกร และ 7 สมาคมที่ตั้งภายใต้กรมวิชาการเกษตร ถูกหลักเกณฑ์ของกระทรวงการคลังหรือไม่ และอยากถามว่า น้ำ ไฟที่สมาคมใช้ เป็นของใคร  อยากให้อธิบดีกรมวิชาการเกษตรไปดูเรื่องนี้ แต่ถ้าผลการตรวจสอบพบว่า ตั้งมาแล้วไม่เป็นประโยชน์ ผิดหลักเกณฑ์หลักการของสมาคม ก็ต้องมาว่ากันอีกครั้ง” น.ส.มนัญญา กล่าว  

ผู้สื่อข่าวถามว่า สมาคมวิทยาการวัชพืชแห่งประเทศไทยมีความพยายามนำสารพาควอตกลับมาใช้อีกครั้งใช่หรือไม่ น.ส.มนัญญา กล่าวว่า การตั้งสมาคมมีเส้นทางอยู่แล้ว  คนในสมาคมก็คือ คนที่ปลดเกษียณจากราชการ และองค์กรเอกชน และมาตั้งในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งแนวทางการทำงานก็มีอยู่แล้ว ส่วนมูลนิธิชีววิถี หรือ ไบโอไทย ก็อยู่มานาน และมีเอกสารและหลักฐานสนับสนุนพาราควอต ส่วนเรารู้หรือไม่นั้น ก็ตอบแค่ในสิ่งที่สามารถพูดได้ แต่ถ้ายังเล่นงานไม่หยุด และยังมีการประชุมและก้าวร้าว และเรียกให้ไปชี้แจงกับ ส.ว.หลายๆ ครั้ง ทางเราก็จะไม่หยุดบ้าง   .- สำนักข่าวไทย    


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]