พัทลุง 16 ก.ย.-ชวนเที่ยวงาน “มหกรรม 390 ปี ชัยบุรี เปิดวิถีเมืองเท่พัทลุง” ซึ่งจะจัดขึ้นบริเวณเมืองเก่าชัยบุรี ตำบลชัยบุรี อำเภอเมืองพัทลุง และบริเวณหน้าศาลและบริเวณศาลากลางจังหวัดพัทลุง ระหว่างวันที่ 20-24 กันยายน 2562 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โบราณสถานโบราณวัตถุ การแสดงพื้นบ้าน และวิถีชีวิตชาวพัทลุง ให้ก้าวไกลเจริญรุดหน้ายิ่งขึ้น
จังหวัดพัทลุง เมืองเก่าแก่โบราณเมืองหนึ่งในภาคใต้ของประเทศไทย มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง อาทิ แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอย่างทะเลน้อย และเป็นต้นกำเนิดศิลปะการแสดงของไทยอย่างมโนราห์ และหนังตะลุง มรดกทางวัฒนธรรมของภาคใต้ รวมทั้งยังมีวิถีชีวิตของชาวบ้าน อาหารการกิน ที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งของดีเหล่านี้ เป็นองค์ประกอบสำคัญที่มีคุณค่าในการช่วยยกระดับให้พัทลุงกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวในระดับสากล
ล่าสุด นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ร่วมกันจัดงานแถลงข่าว “มหกรรม 390 ปี ชัยบุรี เปิดวิถีเมืองเท่พัทลุง” ซึ่งจะจัดขึ้นบริเวณเมืองเก่าชัยบุรี ตำบลชัยบุรี อำเภอเมืองพัทลุง และบริเวณหน้าศาลและบริเวณศาลากลางจังหวัดพัทลุง ระหว่างวันที่ 20-24 กันยายน 2562 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โบราณสถานโบราณวัตถุ การแสดงพื้นบ้าน และวิถีชีวิตชาวพัทลุง ให้ก้าวไกลเจริญรุดหน้ายิ่งขึ้น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานแถลงข่าวฯ กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์โบราณสถานโบราณวัตถุ การแสดงพื้นบ้าน และวิถีชีวิตชาวพัทลุง พร้อมแสดงแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในพื้นที่ ให้ก้าวไกลเจริญรุดหน้ายิ่งขึ้น พร้อมสำหรับการยกระดับให้พัทลุงกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกต่อไป
สำหรับรูปแบบของการจัดงาน มี 2 จุดสำคัญ คือ จุดที่ 1 บริเวณสนามศาลากลางจังหวัดพัทลุง และสนามหน้าศาลจังหวัดพัทลุง เป็นการแสดงแสง สี เสียง ในส่วนสนามหน้าศาลากลางจังหวัดพัทลุง ยังมี 3 กิจกรรม ประกอบด้วย “วิถีเที่ยวเท่” เป็นการแสดงวิถีชาวบ้าน เช่น ชุมชนท่องเที่ยว จุดเช็กอินชื่อดังของจังหวัดพัทลุง และกิจกรรม “วิถีฝีมือเท่” เป็นการแสดงความสามารถของคนพัทลุง อาทิ การแกะรูปหนังตะลุง การร้อยลูกปัด มโนราห์ การสานเสื่อกระจูด ฯลฯ รวมทั้งกิจกรรม “วิถีกินเท่” นำเสนออาหารที่เป็นของดีในจังหวัดพัทลุง รวมทั้งอาหารพื้นบ้านดั้งเดิมที่มีรสชาติอร่อย ราคาถูก มาโชว์ สาธิตการทำ และวางจำหน่ายในราคาถูกด้วย
ส่วนจุดที่ 2 บริเวณหน้าศาลจังหวัดพัทลุงนั้น เป็นกิจกรรมการแสดงประกอบ แสง สี เสียง สื่อผสมระหว่างเทคนิคกับนักแสดง โดยใช้นักแสดงจากวิทยาลัยนาฏศิลปพัทลุง กำกับการแสดงโดย “ศุภักษร ” ผู้กำกับชื่อดัง แบ่งเป็นองค์ต่างๆ 10 องค์ ประกอบด้วย อัศจรรย์ตะวันวาดทันทรา, ย้อนเวลาปาฏิหาริย์นางเลือดขาว, นครรัฐพัทลุงส่องสกาว, ดวงดาวพราวพร่างฟ้าชัยบุรี, โรจน์ระวีปราการแกร่งแห่งขุนเขา, เรื่องลำเนาวิถีนาฟ้าสดสี, เลือดนักสู้ผู้กล้าปฐพี, แผ่นดินนี้จึงวิวัฒน์ชัชวาล, สายแสงทองส่องไสวแผ่ไพศาล และอลังการวิถีเท่พัทลุง จัดแสดงทั้ง 5 คืน ตั้งแต่เวลา 18.00-21.00 น. และยังมีการแสดงบนเวทีของศิลปินชื่อดังชาวจังหวัดพัทลุง รวมทั้งการแสดงหนังตะลุง และมโนราห์ ให้ชมฟรีทุกคืน
ในขณะที่บริเวณเมืองเก่าชัยบุรี ตำบลชัยบุรี อำเภอเมือง จะมีพิธีบวงสรวงทุกวัน ยังมีกิจกรรมนำเที่ยวเมืองเก่าโดยมัคคุเทศก์, กิจกรรมย้อนยุคการรำมโนราห์ฉลองเปิดเมืองเก่า, การตกแต่งพื้นที่เมืองเก่าชัยบุรีให้มีความสวยงามในรูปแบบย้อนยุค ทั้งนี้ จะมีรถให้บริการแก่นักท่องเที่ยวระหว่างศาลากลางจังหวัดพัทลุงกับเมืองเก่าชัยบุรีทุกวัน
ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้มอบนโยบายเน้นย้ำให้เร่งส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยให้รายได้จากการท่องเที่ยวกระจายถึงชาวบ้านทุกกลุ่มอาชีพ พร้อมทั้งดึงนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยให้มากขึ้น เพราะการท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือที่สร้างรายได้ให้กับประเทศ
สำหรับในส่วนของจังหวัดพัทลุง ถือว่ามีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวค่อนข้างสูง ทั้งเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ โบราณสถาน โบราณวัตถุ สภาพพื้นที่และภูมิประเทศ ล้วนเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ นอกจากนี้ ทุกภาคส่วนในจังหวัดพัทลุง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ท้องถิ่นและภาคประชาชน มีความพร้อมและมีความเข้มแข็ง ดังนั้น การที่จะผลักดันให้การท่องเที่ยวในจังหวัดพัทลุงมีความโดดเด่น คนในประเทศและต่างประเทศรู้จักพัทลุงมากยิ่งขึ้น ถือว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ยากนัก
ขณะที่นางลดาวัลย์ ช่วยชาติ ผู้อํานวยการ ททท. สํานักงานนครศรีธรรมราช (รับผิดชอบพื้นที่นครศรีธรรมราชและจังหวัดพัทลุง) กล่าวเสริมว่า สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาร่วมงานดังกล่าวแล้ว สิ่งที่ไม่ควรพลาดคือการเดินทางไปเที่ยวต่อในแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลต์ อาทิ “ล่องเรือปากประ ทะเลน้อย” ชมแสงแรกยามเช้าทอดผ่านยอยักษ์นับร้อย ที่ใครมาแล้วก็รู้สึกประทับใจ พร้อมชมวิถีชีวิตการทำประมงของคนทะเลน้อย ชมควายน้ำที่มีอยู่แห่งเดียวของประเทศไทย และทุ่งบัวแดงที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้
หรือจะไปชม “สะพานเฉลิมพระเกียตริ 80 พรรษา” สะพานยกระดับยาวที่สุดในประเทศไทย ทอดผ่านทะเลน้อย ความยาว 5 กิโลเมตร เชื่อมต่อระหว่างอำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง กับอำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ซึ่งได้รับความนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไปและกลุ่มนักถ่ายภาพเป็นอย่างมาก สามารถสัมผัสวิถีชีวิตและความงามของธรรมชาติของทะเลน้อยได้จากสองข้างทาง
ส่วนคนที่ชอบความตื่นเต้นผจญภัย เลือกไป “ล่องแก่งหนานมดแดง” จุดล่องแก่งจุดเดียวในประเทศไทย ที่สามารถล่องได้ทั้งปี เนื่องมาจากโครงการพระราชดำริเขื่อนห้วยน้ำใส ทำให้ระดับน้ำในการล่องแก่งคงที่ตลอดปี
จากนั้นเปลี่ยนไปชมตลาดและท่องเที่ยวชุมชน อาทิ “ตลาดสวนไผ่ขวัญใจและตลาดป่าไผ่สร้างสุข” สัมผัสบรรยากาศป่าไผ่ที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ และยังเป็นต้นแบบของตลาดที่ใช้วัสดุธรรมชาติ ลดการใช้พลาสติกให้น้อยที่สุด เช่น กระเป๋าใบตอง กระบอกน้ำไม้ไผ่ จานกาบไผ่ ฯลฯ เปิดให้บริการทุกวันเสาร์- อาทิตย์
ชาวบ้านกำลังทำกระเป๋ากระจูด ต่อด้วย “ตลาดใต้โหนด” ตลาดวิถีชาวบ้านอีกหนึ่งแห่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวในจังหวัดและจังหวัดรอบข้าง ด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของตลาด เน้นสินค้าพื้นบ้านของจังหวัดพัทลุง ทั้งอาหาร ขนมพื้นบ้าน ผลิตภัณฑ์ของฝาก สินค้า OTOP ต่างๆ ไม่ควรพลาด แวะ “หัตถกรรมกระจูดวรรณี” แวะซื้อ สินค้า OTOP 5 ดาว ส่งขายทั้งในและนอกประเทศ ร่วมทำกิจกรรม DIY เพนต์กระเป๋ากระจูดด้วยตนเอง และยังมีโฮมสเตย์รองรับสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักค้างคืนอีกด้วย
ปิดท้ายด้วยการเอาใจนักท่องเที่ยวสายกิน มีร้านอร่อยให้เลือกชิมหลายร้าน เช่น “ร้านอาหารวิวยอ” ร้านอาหารที่ติดอันดับต้นๆ ของจังหวัดพัทลุง ลิ้มรสอาหารถิ่น วัตถุดิบสดๆ จากทะเลน้อย ท่ามกลางบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดิน ริมทะเลน้อย ตบท้ายด้วยขนมหวานที่ร้าน “ขนมหวานป้ากี้” ร้านขนมหวานชื่อดัง มีหลากหลายเมนู อาทิ สาคูแดง เป็นเมนูห้ามพลาด หารับประทานที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว.-สำนักข่าวไทย