กรุงเทพฯ 10 ก.ย. – อธิบดีกรมชลประทานตั้งศูนย์บัญชาการแก้วิกฤติน้ำมูลมากสุดถึงอุบลราชธานีพรุ่งนี้ สูงกว่าตลิ่งเกือบ 4 เมตร ลงบัญชาการเร่งผลักดันน้ำท่วมอีสานลงโขงใน 10 วัน ระดมเครื่องจักร-เครื่องมือ และกำลังเจ้าหน้าที่คลี่คลายสถานการณ์น้ำโดยเร็ว
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้าจะตั้งศูนย์บริหารน้ำมูลน้ำชีส่วนหน้าจังหวัดอุบลราชธานี โดยจะไปบัญชาการด้วยตนเองทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ในช่วงนั้นน้ำที่ท่วมภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้งในลุ่มน้ำชี ลุ่มน้ำมูล และลุ่มน้ำสาขาทั้งหมดจะไหลมาถึงจังหวัดอุบลราชธานี จึงจำเป็นต้องบริหารจัดการอย่างรอบคอบ เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนและแก้ไขให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติให้เร็วที่สุด
“กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันทำงานในช่วงที่วิกฤติที่สุด ขณะนี้ระดับน้ำปากแม่น้ำมูลยังสูงกว่าแม่น้ำโขง จึงต้องเร่งผลักดันน้ำลงสู่แม่น้ำโขงให้เร็วที่สุด” นายทองเปลว กล่าว
สำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา กรมชลประทานคาดการณ์ว่าปริมาตรน้ำสูงสุดทั้งจากลุ่มน้ำชีและมูลจะไหลผ่านที่สถานีวัดน้ำ M.7 บริเวณสะพานเสรีประชาธิปไตย อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานีในวันพรุ่งนี้ (11 ก.ย.) เวลาประมาณ 23.00 น.ถึง 01.00 ของวันที่ 12 กันยายนนี้ ในเกณฑ์ประมาณ 4,500 – 4,600 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) /วินาที โดยระดับน้ำฝั่งอำเภอวารินชำราบจะสูงกว่าตลิ่งประมาณ 3.59 เมตร จากอัตราการไหลของน้ำคาดว่าใช้เวลาประมาณ 10 วันระดับน้ำจะลดลงสู่ระดับตลิ่ง คือ ในช่วงกลางดึกของวันที่ 25 – 26 กันยายน 2562
ทั้งนี้ กรมชลประทานได้บริหารจัดการน้ำในพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำมูล ด้วยการใช้เขื่อนราษีไศลและเขื่อนหัวนาควบคุมและชะลอการไหลของน้ำในแม่น้ำมูลที่จะลงมาสมทบกับลำน้ำชี โดยระหว่างนั้นจะเพิ่มการระบายน้ำจากแม่น้ำชีลงสู่แม่น้ำโขงได้สะดวกยิ่งขึ้น ส่วนแม่น้ำชีลดปริมาตรน้ำในแม่น้ำด้วยการหน่วงน้ำไว้ทางตอนบนของประตูระบายน้ำต่าง ๆ รวมทั้งลดการระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อให้น้ำที่จะไหลลงมาบรรจบกับแม่น้ำมูลที่จังหวัดอุบลราชธานีมีปริมาตรลดลง ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบต่อพื้นที่ประสบอุทกภัยในอุบลราชธานีขณะนี้ โดยจะเร่งระบายน้ำมูลลงสู่แม่น้ำโขงลดในช่วงที่ระดับแม่น้ำโขงลดต่ำลง เพื่อให้ภาวะน้ำท่วมคลี่คลายโดยเร็วที่สุด.-สำนักข่าวไทย