รวบทอมแสบยักยอกเงินบริษัทฯขายบิ๊กไบค์ยี่ห้อดังมูลค่ากว่า 4 ล้าน

กรุงเทพฯ 25 ก.ค.- กองปราบรวบทอมแสบสายเปย์ยักยอกเงินบริษัทขายบิ๊กไบค์ยี่ห้อดัง มูลค่า 4 ล้าน


ตำรวจกองปราบจับกุมนางสาวดวงเดือน ดวงแก้วกาญจนา อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงธนบุรีฐาน ฉ้อโกง,ปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม โดยจับกุมได้ที่ลานจอดรถห้างเซ็นทรัลวงศ์สว่าง แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ 

คดีนี้เกิดเมื่อประมาณปี 2557 ขณะที่ น.ส.ดวงเดือน  ผู้ต้องหาทำงานพนักงานบัญชีแผนกซ่อม ที่บริษัทขายรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ยี่ห้อดัง แห่งหนึ่งย่านถนนตากสิน แขวงบุคคโล กรุงเทพฯ ได้แอบยักยอกเงินของบริษัทโดยใช้วิธีเมื่อลูกค้านำรถบิ๊กไบค์เข้ามาซ่อมเมื่อออกบิลค่าซ่อมให้กับลูกค้าก็จะแอบเปลี่ยนแปลงค่าซ่อมต่ำกว่าเงินค่าซ่อมที่ลูกค้าจ่ายมา เช่น ลูกค้าจ่ายค่าซ่อม 5,000 บาท น.ส.ดวงเดือน ฯก็จะเปลี่ยนแปลงตัวเลขที่รายงานบัญชีเข้าบริษัท แค่ 2,000 บาท โดยรู้เห็นเป็นใจกับฝ่ายบัญชีในบริษัท ทำกันเป็นขบวนการ ซึ่งน.ส.ดวงเดือนฯทำงานที่บริษัทดังกล่าวมาเป็นระยะเวลาประมาณ 10 ปี จนเป็นที่ไว้วางใจของผู้บริหาร ได้เงินจากการยักยอกบริษัทไปประมาณ 4,000,000 บาท หลังจากที่ผู้บริหารทราบเรื่องจึงมีการตรวจสอบภายใน พบว่าน.ส.ดวงเดือนฯกระทำผิดจริง จึงนำหลักฐานเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ต่อมาศาลแขวงธนบุรีได้อนุมัติหมายจับ น.ส.ดวงเดือนฯทราบว่าตัวเองถูกแจ้งความดำเนินคดีจึงได้หลบหนี ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. สืบสวนจนทราบว่า น.ส.ดวงเดือนฯได้หลบมาทำงานที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งริมถนนวงศ์สว่าง แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ จึงได้ไปตรวจสอบ พบน.ส.ดวงเดือนฯมาทำงานที่ห้างดังกล่าว เป็นหัวหน้าแผนกมีหน้าที่ดูแลพนักงานทั่วไป จึงได้จับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดี 


สอบสวน น.ส.ดวงเดือนฯให้การยอมรับว่าเมื่อก่อนตนเองทำงานที่บริษัทขายรถบิ๊กไบค์ยี่ห้อดังย่านตากสิน ตนเองทำงานที่บริษัทดังกล่าวประมาณ 10 ปีจนเป็นที่ไว้วางใจของผู้บริหาร ต่อมาตนเองเดือดร้อนเรื่องเงินไม่พอใช้ จึงได้แอบร่วมกับพวกในบริษัทฯยักยอกเงินบริษัทฯโดยการปลอมเอกสารใบเสร็จค่าซ่อมรถของลูกค้า โดยการเปลี่ยนแปลงตัวเลขยอดค่าซ่อมในรายงานบัญชีเข้าบริษัทให้น้อยกว่ายอดเงินที่ลูกค้าจ่ายจริง เงินที่ได้มาก็เอามาซื้อคอนโด เที่ยวกับเพื่อนหญิงที่ตนเองคบอยู่เนื่องจากตนเองเป็นทอมชอบผู้หญิงเพศเดียวกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง