เปิดใจ “น้องกรีน” สาวโวยวายชายโรคจิตลวนลามลงจากรถตู้โดยสาร

กทม. 25 มิ.ย. – เปิดใจ “น้องกรีน” สาวถูกชายลวนลามระหว่างโดยสารรถตู้ประจำทางสายรังสิต-นครนายก ก่อนโวยวายและถีบชายโรคจิตลงรถตู้โดยสาร เตือนผู้หญิงแต่งตัวให้มิดชิด เมื่อเจอเหตุการณ์เช่นนี้ขอให้ตั้งสติ





ก่อนนำเรื่องราวโพสต์ชื่อ Wareepron Thongprasat เพื่อเป็นอุทาหรณ์ โดยน้องกรีนเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ก่อนเกิดเหตุไปทำธุระที่คลองหนึ่ง จังหวัดปทุมธานี และได้ขึ้นรถตู้กลับบ้านที่อำเภอบ้านนา จังหวะที่กำลังขึ้นรถตู้และได้ผ่านชายที่นั่งอยู่บริเวณเบาะแถวที่สอง ตนเองรู้สึกว่ามีอะไรมาโดนตัวแต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร คิดว่าน่าจะโดนสิ่งของ จนกระทั่งตนได้มานั่งที่เบาะแถวที่สาม และได้สังเกตว่า หญิงสาวที่นั่งติดกับกระจกข้างกับชายที่ก่อเหตุพยายามเบี่ยงตัวออก ซึ่งตอนแรกตนคิดว่าหญิงสาวคนนั้นเป็นแฟนกับชายที่ก่อเหตุ แต่หลังจากที่ชายผู้ก่อเหตุพูดจาลวนลามหญิงสาวคนนั้น ตนจึงรู้ว่าไม่ใช้แฟนกัน จึงได้เรียกให้หญิงสาวคนนั้นลุกมานั่งกับตนที่เบาะหลัง ซึ่งระหว่างที่โดยสารในรถตู้ ชายผู้ก่อเหตุพยายามที่จะลวนลามตนโดยทำทีเอามือมาด้านหลัง แต่ไม่สามารถสัมผัสตนเองได้ และมักจะมองมาที่ตนอยู่ตลอด จนตนทนไม่ไหวจึงได้โวยวาย ตามที่ปรากฏในคลิป ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นในรถตู้ใช้ระยะเวลาประมาณ 30 นาที จนกระทั้งชายผู้ก่อเหตุลงจากรถ


น้องกรีน ยังบอกอีกว่า เหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับตนเองมาก่อน ที่ผ่านมาก็จะมีคนบอกว่าเวลาไปไหนคนเดียวให้ระมัดระวังตัว ระวังจะเจอคนโรคจิต ซึ่งปกติตนเองเป็นคนแต่งตัวไม่ค่อยมิดชิดแต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตนเองจริงๆ โดยตอนเกิดเหตุตนเองรู้สึกตกใจในตอนแรกว่ามันมีเหตุการณ์แบบนี้ด้วยหรือ แต่ตนเองคิดว่าผู้ชายคนนี้ทำกับตนเองขนาดนี้ตนเองไม่ยอม และไม่กลัว สิ่งที่ตนเองกล้าตัดสินใจเนื่องจากตนเห็นชายในคลิปทำกับผู้หญิงหลายคนในรถและไม่มีใครกล้า และชายคนนี้ก็ยิ่งทำหนักขึ้น และมาโดนกับตนเองด้วยแล้ว แต่ถ้าไม่โดนกับตนเอง ตนเองก็จะทำเพื่อช่วยเหลือคนอื่นเช่นกัน

น้องกรีนยังฝากถึงหญิงสาวที่ถูกกระทำเช่นตนว่า อย่าอายที่ตนเองถูกกระทำ หากในบริเวณที่เกิดเหตุมีคนเยอะให้เสียงดังไว้ก่อน ให้เค้ารู้สึกว่ามีคนรับรู้ว่ามีคนแบบนี้อยู่บนรถ หากสุดวิสัยไม่มีใครอยู่ให้พยายามออกมาจากจุดตรงนั้นให้ได้ก่อนให้ไกลที่สุด

ด้านนายบุญส่ง ปราสาททอง พ่อของน้องกรีน ได้บอกว่า เมื่อลูกกลับมาถึงบ้านตนเองรู้สึกตกใจและเป็นห่วงลูกสาว ว่ามีใครช่วยลูกหรือเปล่าขณะเกิดเหตุ ตนเองได้บอกลูกว่าไม่เป็นไรถือว่าดีแล้ว และอยากให้ผู้หญิงทุกคนไปไหนมาไหนให้ระมัดระวังตัว บางทีอาจไม่มีใครช่วยเราได้ หากเห็นท่าทางไม่ดีให้หนี หากมีคนเยอะก็ร้องให้คนช่วย ซึ่งตนเชื่อว่ายังไงก็ต้องมีคนช่วย ซึ่งคนเป็นพ่อเป็นแม่ย่อมห่วงลูกเป็นของธรรมดา พร้อมบอกกับลูกสาวว่าหลังจากนี้ไปไหนให้ระวังตัวมากขึ้น แต่งกายให้มิดชิด เนื่องจากสมัยนี้เราไม่รู้หรอกว่าคนที่อยู่รอบตัวดีหรือไม่ดี ซึ่งเราอาจดูไม่ออก .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง