นายกฯ เชื่อมั่น IMT-GT จะสร้างความมั่นคงให้อินโด-มาเลย์-ไทย

กรุงเทพฯ 23 มิ.ย.-  นายกฯ ขอบคุณทุกฝ่ายที่มุ่งมั่นพัฒนา IMT-GT ให้เป็นอนุภูมิภาคที่มีบทบาทสำคัญ  เชื่อมั่นความร่วมมือ IMT-GT บนพื้นฐานความไว้เนื้อเชื่อใจ จะสร้างความมั่นคง-ผาสุกให้ประชาชนอินโด-มาเลย์-ไทย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังปิดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 วันนี้ (23 มิ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำแผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจ 3 ฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย ครั้งที่ 12 (Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle: IMT-GT) ร่วมกับผู้นำจากอินโดนีเซีย และมาเลเซีย เลขาธิการอาเซียน และประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย 

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ขอบคุณทุกฝ่ายที่มุ่งมั่นพัฒนา IMT-GT ให้เป็นอนุภูมิภาคที่มีบทบาทสำคัญ ในการสนับสนุนประชาคมอาเซียนในทุกด้าน  สร้างโอกาสทางธุรกิจอย่างกว้างขวาง พร้อมทั้งยังได้ร่วมมืออย่างแข็งขันในการขับเคลื่อน IMT-GT โดยมีเป้าหมายชัดเจน ในการมุ่งสู่การเป็นอนุภูมิภาคที่มีพื้นที่การพัฒนาอย่างบูรณาการ ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ปราศจากความเหลื่อมล้ำ


นายกรัฐมนตรี เสนอให้ที่ประชุมร่วมพิจารณาการปรับปรุงด้านการผลิตและการบริการ เพื่อสนองรูปแบบการบริโภคสินค้าใหม่ พัฒนารูปแบบทางการค้า และเร่งรัดพัฒนาเครือข่ายเมืองสีเขียว ตลอดจนระบบโลจิสติกส์ และการขนส่งสีเขียวที่เป็นรูปธรรมให้เร็วยิ่งขึ้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การติดตามประเมินผลความก้าวหน้าของแผนงาน IMT-GT บนพื้นฐานของการลดหรือขจัดความเหลื่อมล้ำ การพัฒนาด้านความเชื่อมโยงโครงข่ายโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยเร่งพัฒนาโครงการระเบียงเศรษฐกิจระนอง-ภูเก็ต-ปีนัง-อาเจะห์  และ เมดาน-ปีนัง-สงขลา ที่จะเชื่อมโยงทางทะเลจากแผ่นดินใหญ่ไปยังสุมาตราและระเบียงเศรษฐกิจที่ 6 ปัตตานี-ยะลา-นราธิวาส-กลันตัน-สุมาตราใต้ ผ่านการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโกลกแห่งใหม่ 2 แห่ง เพื่อเชื่อมโยงเศรษฐกิจชายแดนไทย-มาเลเซียด้านตะวันออก  รวมถึง การเชื่อมโยงทางอากาศ ระบบโลจิสติกส์  โครงข่ายสารสนเทศและการสื่อสาร โดยต้องพัฒนาและปรับปรุงกฎระเบียบเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานได้สูงสุดและความเท่าเทียม

 นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การยกระดับห่วงโซ่คุณค่าในผลผลิตเกษตรสำคัญ เช่น ยาง ปาล์มน้ำมัน ประมงแปรรูปและผลิตภัณฑ์ฮาลาล โดยมุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนา สร้างอุปสงค์ในอนุภูมิภาคต่อผลผลิตเกษตร เพื่อเพิ่มมูลค่าในระยะยาว เช่น การแปรรูปยางธรรมชาติ โดยใช้เทคโนโลยีระดับสูง เพื่อใช้ภายในอนุภูมิภาคแทนการส่งออกเป็นวัตถุดิบ โดยการใช้เป็นวัสดุในการก่อสร้างอาคาร ถนน และเป็นส่วนประกอบยานพาหนะที่ใช้ไฟฟ้าในอนาคต


นายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่า ความร่วมมือร่วมใจในการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ จะได้เห็นถึงความมั่นคงและผาสุกแก่ประชาชนใน 3 ประเทศ บนพื้นฐานของการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ความร่วมมือในทุกมิติ เพื่อให้เกิดผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมและสร้างผลประโยชน์ให้ประชาชนได้อย่างเป็นธรรม    . – สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง