มองนายกฯ อ่านถ้อยแถลงจากสคริปต์เป็นเรื่องปกติ

6 ต.ค. – “นพดล” เห็นนายกฯ อ่านถ้อยแถลงจากสคริปต์เป็นเรื่องปกติ ทำกันทั้งโลกมานานแล้ว ขอวิจารณ์เนื้อหาสาระดีกว่า ยังหวังประชุมอาเซียนซัมมิทไทยจะแสดงบทบาทนำ


นายนพดล ปัทมะ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่าตามที่มีการวิจารณ์นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ว่าไปประชุมเอซีดีทำไมนั่งอ่านสคริปต์เรื่องนี้ ต้องเข้าใจแนวปฏิบัติการประชุมระหว่างประเทศให้ถูกต้องว่าการที่ผู้นำไปกล่าวถ้อยแถลงในเวทีประชุมระหว่างประเทศนั้นเป็นเรื่องปกติทำกันทั้งโลกเช่นนั้นมานานแล้ว เนื่องจากจะต้องไปกล่าวถ้อยแถลงแทนประเทศซึ่งจะมีกระทรวงการต่างประเทศและทำเนียบช่วยเตรียม ที่เรียกว่าเป็นคำแถลงที่เตรียมไว้แล้ว (prepared speech) มันไม่ได้แสดงว่านายกฯ อ่อนด้อยประสบประการณ์ ดังนั้นต้องเข้าใจและให้ความเป็นธรรมกับผู้นำของไทย ถ้าหากจะวิพากษ์ ควรจะไปดูที่เนื้อหาสาระของถ้อยแถลงว่ามีประโยชน์ต่อประเทศไทยหรือไม่ มากกว่าจะวิจารณ์ว่าไปอ่านจากสคริปต์ ซึ่งเท่าที่ตนติดตามสาระของถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรีก็ถือว่าเป็นประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นพูดถึงเรื่องของการร่วมมือระหว่างประเทศในเอเชียการสร้างสถาปัตยกรรมทางการเงินของเอเชีย การสร้างสันติภาพและความรุ่งเรือง รวมทั้งการดึงดูดนักลงทุนมาลงทุนในประเทศไทย เป็นต้น

นายนพดลกล่าวต่อไปว่าสัปดาห์หน้านายกรัฐมนตรีจะไปประชุมอาเซียนซัมมิทซึ่งเป็นการประชุมระดับผู้นำที่สปป.ลาว ซึ่งปกติจะไปกล่าวถ้อยแถลงที่เป็นสคริปต์ที่เตรียมไว้ก่อนแล้วและตนเชื่อมั่นว่า ท่านนายกฯจะเตรียมการอย่างดีเพื่อไปแสดงบทบาทของไทยในเวทีระดับภูมิภาคครั้งสำคัญนี้ อย่างไรก็ตาม ตนขอฝากประเด็นที่ให้ท่านไปผลักดันคือเรื่องของการสร้างสันติภาพ และความมั่นคงในประเทศเมียนมาร์ เนื่องจากการสู้รบยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ตราบใดที่สร้างสันติภาพในเมียนมาร์ไม่ได้ ปัญหาต่างๆจะยังมีให้ไทยแบกรับต่อไปไม่ว่าจะเป็นเรื่องปัญหายาเสพติด ปัญหาผู้อพยพ ฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ดังนั้นไทยควรแสดงบทบาทนำร่วมกับอาเซียนและมิตรประเทศในภูมิภาคเพื่อผลักดันกระบวนการสันติภาพให้มีการเจรจาของทุกฝ่ายเพื่อยุติการสู้รบ ซึ่งไทยในฐานะประเทศที่มีพรมแดนติดกับเมียนมาและเป็นผู้นำในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม น่าจะอยู่ในสถานะที่ดีที่จะไปผลักดัน


“แม้นายกรัฐมนตรีจะมีอายุน้อยและใหม่ในเวทีระหว่างประเทศ แต่ตนเชื่อมั่นว่าท่านจะเรียนรู้ได้เร็วและสามารถดำเนินงานด้านต่างประเทศได้เป็นอย่างดี รวมทั้งผลักดันบทบาทไทยในเวทีโลกต่อไปการวิจารณ์ควรจะวิจารณ์ที่ผลงานและเนื้อหาสาระมากกว่า” นายนพดลกล่าว.-319 -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”