กทม. 31 พ.ค. – การแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรีที่ยังไม่ลงตัว ท่ามกลางกระแสข่าวต้องเริ่มเจรจาเกลี่ยตำแหน่งใหม่ทั้งหมด เกิดขึ้นพร้อมกับประเด็นที่จะเดินหน้าเลือกนายกรัฐมนตรีให้ได้ก่อนแล้วจึงจะจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรี หากยังไม่นิ่งเช่นนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ท่ามกลางความโกลาหลในการฟอร์มทีมรัฐบาลที่แบ่งเก้าอี้ไม่ลงตัว เพราะความไม่พอใจในการต่อรอง โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรฯ ระหว่างพรรคพลังประชารัฐ กับประชาธิปัตย์ อีกทั้งพรรคประชาธิปัตย์กับภูมิใจไทยยังมีสัญญาใจจะร่วมรัฐบาลขั้วเดียวกัน ทำให้พลังประชารัฐคิดพลิกเกมชิงความได้เปรียบเพื่อให้มีแต้มต่อ โดยจะขอเลือกนายกรัฐมนตรีก่อนในวันที่ 5 มิถุนายน หวังวัดใจจากเสียงหนุนก่อนฟอร์มทีมคณะรัฐมนตรี
เช็กเสียงของพลังประชารัฐ หากเลือกเดินเกมเลือกนายกรัฐมนตรีก่อน มีเสียงในมือ 116 บวกกับชาติไทยพัฒนา 10 รวมพลังประชาชาติไทย 5 ชาติพัฒนาและพลังท้องถิ่นไทยพรรคละ 3 รักษ์ผืนป่าประเทศไทย 2 พรรคเล็กอีก 11 เสียง และเสียง ส.ว. 250 เสียง ก็เกิน 376 เสียง ที่จะผลักดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีได้อีกสมัย
ด้าน 7 พรรคขั้วสนับสนุนเพื่อไทย ที่มี 246 เสียง ต้องจับตาดูว่าจะชูใครเป็นแคนดิเดตชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี แข่งกับ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะมีตัวเลือกหลายคน ทั้งนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์
นักวิชาการมองว่า ตามธรรมเนียมแล้วจะต้องฟอร์มทีมตั้งรัฐบาลให้ได้ก่อนเลือกนายกรัฐมนตรี แต่หากใช้เกมเลือกนายกรัฐมนตรีมาขู่เพื่อพลิกสถานการณ์ก็ไม่น่าเป็นผลดี เพราะเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ดีกว่ารัฐบาลเสียงข้างน้อย
ต้องจับตาดูว่าดีลรัฐบาลจะเคาะจบได้ตำแหน่งครบทันก่อนวันเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะจะเป็นจุดชี้อนาคตการเมืองและเสถียรภาพของรัฐบาลไทย. – สำนักข่าวไทย