พรรคประชาปัตย์ 6 ก.ค.- “ชวน” ขออย่าจับผิด “บิ๊กป้อม” นั่งหลับ บอกไปจับผิดคนไม่ประชุมดีกว่า พร้อมให้กำลังใจ “วันนอร์” ดูแลสุขภาพ แซว “ปดิพัทธ์” แสดงวิสัยทัศน์เหมือนเป็น ปธ.สภาฯ เอง เชื่อปัญหาองค์ประชุมล่มจะหมดไป ชี้ตัวปัญหาเป็นรัฐบาลแล้ว
นายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ให้กำลังใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์อยู่ขณะนี้ว่า การที่ พล.อ.ประวิตร มาประชุมด้วยตัวเองก็ต้องขอบคุณ ขออย่าไปจับผิดเลย ทุกคนนั่งนานมีสิทธิ์เมื่อย และ ส.ส. หลายคนกลัวถูกจับผิด ไม่กล้าเข้ามาประชุม หรือถ้าเข้ามาก็รีบออกไป เพราะกลัวสื่อจะจับผิด ขอให้ไปจับผิดเรื่องที่เป็นสาระดีกว่า โดยเฉพาะคนที่ไม่มาประชุม
นายชวน ยังมองว่าในการโหวตนายกรัฐมนตรีที่จะมีขึ้น หากขานชื่อบุคคลที่ต้องการโหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างเดียว โดยไม่มีคำสร้อยเชื่อจะช่วยประหยัดเวลาได้มาก เช่น ไม่พูดชื่อตนเองซ้ำ เห็นชอบหรือไม่เห็นด้วย หรือเห็นชอบอย่างยิ่ง ซึ่งเห็นได้จากเมื่อวันประชุมสภาฯ เลือกประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านนั้น เสียเวลาไปหลายชั่วโมง เพราะมีคำว่า บัตรดี เพิ่มขึ้นมา ส่วนการเลือกนายกรัฐมนตรีจะมีขึ้นกี่ครั้ง ไม่ได้มีกฎหมายห้าม ขอให้ไปถามประธานสภาฯ ถึงแนวปฏิบัติต่อไป
นายชวน ยังเปิดเผยว่า ได้พูดคุยและยินดีกับวันมูหะมัดนอร์ มะทา ว่าที่ประธานสภาฯ ขอให้ดูแลสุขภาพ เพราะวัยสูงอายุ ถ้าไม่แข็งแรงจะทำให้มีปัญหา เนื่องจากต้องนั่งเป็นเวลานาน และเหนื่อยที่สุด คือการนั่งฟัง เมื่อเสร็จเวรแล้วก็ต้องตามต่อ เพราะไม่รู้ว่าใครจะพูดอะไรต่อ ก็ขอให้กำลังใจนายวันมูหะมัดนอร์
ส่วนนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ที่กล่าววิสัยทัศน์บอกว่าจะทำตามพระบรมราโชวาท และทำตามที่ประธานสภาฯ มอบหมาย แต่นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่ 1 แสดงวิสัยทัศน์เหมือนเป็นประธานเอง แต่หน้าที่ของรองประธานสภาฯ คือ รับมอบหมายจากประธานสภาฯ ถ้าจะทำอะไรที่เป็นพิเศษ จะต้องขออำนาจ หรือขออนุญาตจากประธาน และปฏิบัติภารกิจตามที่สภากำหนดไว้ เพราะถือว่ามีความสำคัญ จะเห็นว่าเป็นงานหนัก ทั้งงานประชุมสภา หน่วยงานภายใน หน่วยงานย่อยที่อยู่ในการดูแลนั้นมีเยอะ ที่ผ่านมา ส่วนตัวได้เน้นย้ำกับเลขาธิการสภาฯ ให้พยายามรักษาศาสนาไว้ตามเดิม แม้ประธานสภาฯจะเป็นมุสลิม รองประธานสภาฯ คนที่ 1 จะเป็นคริสต์ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 เป็นพุทธ ก็ตาม
นายชวน ยังกล่าวว่า ได้พูดคุยกับนายพิเชษฐ์ ที่ได้เข้ามาสวัสดี หลังวันโหวตเลือกประธานสภา ซึ่งตนเองได้พูดเล่นกับนายพิเชษฐ์ ว่า “ต่อไปถึงหน้าทำนา ใครจะหว่านข้าว ทำนาในสภา”
นายชวน ยังมองว่า ปัญหาองค์ประชุมไม่ครบนั้น น่าจะไม่เป็นปัญหา และน่าจะลดลง เพราะตัวปัญหาได้ไปเป็นรัฐบาลเอง แต่เรื่องสำคัญคือ หัวหน้ารัฐบาลในอนาคต เป็นผู้แทนราษฎร หรือมีหัวหน้าพรรคการเมืองมารับผิดชอบด้วย เช่น พรรคเพื่อไทย ที่มีนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว เป็นหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนผู้ที่แข่งขันเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้อยู่ในสภา แต่มีสมาชิกอยู่ในสภาส่วนหนึ่ง ขณะที่พรรคก้าวไกล สมาชิกอยู่ในสภา
“ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร ไม่ได้เป็น ส.ส. เมื่อเวลามีปัญหา ก็ไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร จนประธานสภาฯ ต้องทำหนังสือไปถึงนายกรัฐมนตรี แจ้งถึงรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรคว่าจะส่งผู้แทนมาประชุมกี่คน ที่ถือว่าเป็นเรื่องค่อนข้างหนัก เพราะไม่รู้จะพึ่งใครแล้ว เชื่อปัญหานี้จะหมดไป ความร่วมมือจะดีขึ้น การพูดมากจะลดลง เพราะที่ผ่านมาขอความร่วมมือผู้นำฝ่ายค้านให้ช่วย แต่ทำไม่ได้ แต่ตนเองที่เคยเป็นผู้นำฝ่ายค้านก็เคยทำได้ ครั้งนี้เข้าใจว่าปัญหานี้จะหมดไป และน่าจะทำให้ประสิทธิภาพการประชุมราบรื่นมากขึ้น” นายชวน กล่าว.-สำนักข่าวไทย