“โรม” รับไม่เคยเจอของยาก เท่าแดนพิศวงชั้น 14

รัฐสภา 22 พ.ย.- “โรม” รับ ไม่เคยเจอของยาก เท่าแดนพิศวงชั้น 14 เตรียมซักถาม รมว.ยุติธรรม วันนี้ วาง 3 หลัก ส่งตัว-รักษา-ส่งออก “ทักษิณ” ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ พร้อมมองยังไม่น่าเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง


นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการ ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูป สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึง การเชิญหน่วยงานให้ข้อมูล กรณีนายทักษิณ ชินวัตร ว่าวันนี้เป็นการพิจารณาต่อเนื่องจากรอบที่แล้ว ที่ผ่านมายอมรับว่าข้อมูลหลายส่วนไม่สมบูรณ์ วันนี้เราเชิญบุคคลมาเกือบ 20 คน กว่า 14 หน่วยงาน เรียกเอกสารไปเกือบ 10 ชุด เราก็หวังว่า จะได้รับความร่วมมือที่ดี ให้ได้ข้อมูลสมบูรณ์มากขึ้น เราติดตามทางกรมราชทัณฑ์ และกระทรวงยุติธรรม โดยที่ปรึกษากระทรวง ไม่เคยเห็นการออกมาแถลงก่อนเชิญ 1 วัน ซึ่งยอมรับว่าเป็นการแถลงที่ไม่เข้าใจข้อกฎหมาย และไม่เข้าใจหน้าที่ของสภาฯ หรือกรรมาธิการ ตนอยากบอกว่าหากพูดถึงความมั่นคง สำหรับหลักสำคัญ คือความยุติธรรมประเทศ ที่ปราศจากความยุติธรรม มีความเหลื่อมล้ำ มีการใช้อภิสิทธิ์ชน อยู่เหนือกฎหมาย ไม่ปฏิบัติตามกฏหมาย เหมือนประชาชนคนอื่น คิดว่าประเทศแบบนี้เป็นประเทศที่มีความมั่นคงหรือไม่ การที่ประชาชนเสียความเชื่อมั่น สร้างความเสียหายให้ประเทศในระยะยาว

นายรังสิมันต์ ยืนยันว่า เรื่องเหล่านี้ ไม่ได้ซับซ้อนณ วันนี้ เรายังไม่ได้มีการพิจารณาอะไรซับซ้อนกว่าคณะกรรมาธิการชุดอื่น และยืนยันว่ากรรมการความมั่นคงแห่งรัฐ เราไม่ได้เข้าไปทำให้องค์กรอิสระ อย่างป.ป.ช.ปฏิบัติงานไม่ได้ เราไม่ได้เชิญ ป.ป.ช.มาด้วยซ้ำ และหากเราพบกับการกระทำที่ผิดกฎหมาย เราพร้อมให้ความร่วมมือ กับองค์กรอิสระจริงๆ ซึ่งถือเป็นประโยชน์ต่อการตรวจสอบการทำงานของหน่วยงานราชการ และรัฐบาล พร้อมยืนยันว่า วันนี้เราพยายามแสวงหาข้อมูลอย่างเต็มที่ ในการทำหน้าที่ของเรา ในฐานะฝ่ายตรวจสอบ แต่ขณะเดียวกัน เราก็เป็นลอว์เมคเกอร์ ฝ่ายนิติบัญญัติ นำข้อมูลนี้ เป็นสารตั้งต้น เพื่อปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมต่อไป


ส่วนรายละเอียดเป้าหมายวันนี้ อยากเน้นย้ำ 3 ช่วง คือ ช่วงแรก การส่งตัวนายทักษิณ ไปโรงพยาบาลตำรวจ สุดท้ายแล้วส่งตัวโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เช่นมีรายละเอียดว่าป่วยจริงหรือไม่ ลำดับถัดมา คือการอยู่ในโรงพยาบาลตำรวจ เป็น 100 กว่าวัน สุดท้ายแล้วเป็นการอยู่โดยชอบหรือไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องวีไอพีหรือไม่ และจากนั้น คือการออก เป็น 3 ส่วนสำคัญ ที่เราจำเป็นต้องวางหลัก และค้นหาข้อเท็จจริงต่อไป

พร้อมยืนยันว่าการทำหน้าที่ในครั้งนี้ และหน่วยงานที่คิดว่าทำหน้าที่โดยสุจริต ก็ขอให้มาชี้แจงให้ครบถ้วน ซึ่งได้ข่าวว่า วันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็จะเดินทางเข้ามาให้ข้อมูลกับกรรมาธิการด้วย แต่ยังไม่เห็นชื่อลำดับที่ 1 คือ นายทักษิณ แน่นอนว่าเราไม่มีอำนาจ ตามโทษทางกฎหมาย แต่โทษในความเข้าใจ ในความคิดของสังคม เป็นเรื่องที่ทุกคนไม่ควรละเลย นายทักษิณเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ท่านก็คงมีผลงานหลายเรื่อง ที่สังคมอาจจะชื่นชม แต่ไม่ควรเอาทุกสิ่งที่เคยทำ มาทิ้งไว้ที่นี่

ส่วนการที่เชิญแต่แล้วนายทักษิณไม่มานั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่าวันนี้รัฐมนตรีมา ก็หวังว่า จะได้ข้อมูลมากขึ้นและคงจะพิจารณาต่อไป ว่าข้อมูลเหล่านี้เพียงพอหรือยัง ก่อนจะพิจารณาเดินหน้าต่อหรือไม่ ซึ่งหากเราได้ข้อมูลมาก่อน ก็จะสามารถวางแนวทางได้ ส่วนครั้งต่อไปจะเชิญนายทักษิณ หรือไม่ ก็ต้องดูข้อมูลในวันนี้ แต่หากข้อมูลเป็นเชิงลบต่อนายทักษิณและรัฐบาล เราก็เดินหน้าต่อในการเอาผิดแต่ถ้าเกิดข้อมูลเป็นบวก ทุกอย่างทำถูกกฎหมายไม่มีข้อพิรุธ วาระซ่อนเร้น ก็เป็นเรื่องที่กรรมาธิการไม่มีเหตุผลที่จะดำเนินการต่อไป แต่อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาที่ผ่านมา พบว่ามีความน่าสนใจ ของการให้ความร่วมมือของหน่วยงานราชการต่อเนื่อง เราพิจารณามา โดยเชิญหน่วยงานมากว่า 100 หน่วย ตนไม่เคยเจอความยากลำบากมากขนาดนี้ตนเป็น สส.สมัยที่2 ก็ไม่เคยเจอความยากลำบากขนาดนี้ ค่อนข้างท้าทาย ว่าป่วยจริงหรือไม่ทำไมมันยากอย่างนี้ในการเข้าถึงข้อมูล


นายรังสิมันต์ ระบุ ตนคิดว่าต้องพูดโดยตรงกับรัฐมนตรียุติธรรม ว่าท่าทีของกระทรวงไม่ควรเป็นแบบนี้ ซึ่งที่ผ่านมาการเชิญกระทรวงยุติธรรมมาในท่าทีที่ใช้พีดีพีเอ หรือกฎหมายปกป้องส่วนบุคคล กับกรรมาธิการ แต่ในความเป็นจริงกฎหมายเรื่องนี้ ไม่ได้ครอบคลุมรวมไปถึงการทำหน้าที่ของกรรมาธิการ ซึ่งเราสามารถทำได้ แต่พอเมื่อวานก็พยายามย้ำอีกว่า เรามีอำนาจอย่างนั้นอย่างนี้ ตกลงแล้วท่านต้องการที่จะให้ข้อมูลกับเราหรือไม่ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่สุจริต แสดงว่าไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ม. 129 เป็นท่าทีที่ไม่สมควร ที่จะเกิดขึ้นจากหน่วยงานรัฐ และตัวรัฐบาลเอง

ส่วนในวันนี้ คดีอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะพิจารณา ความเห็นว่าจะรับหรือไม่รับ นายรังสิมันต์ มองว่าตนไม่อยากลงรายละเอียดเรื่องนี้ พูดตรงตรง อีกไม่นานแล้ว ก็ต้องรอดู ว่าเป็นอย่างไร แต่คิดว่าสิ่งสำคัญของวันนี้ เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม และอยากให้เรารู้สึกว่าเป็นกระบวนการยุติธรรมของพวกเราทุกคนจริงๆ ถ้าปล่อยให้กระบวนการยุติธรรม เป็นแบบนี้ สิ่งที่เราต้องถามตัวเรา คือ เรารู้สึกสบายใจหรือไม่ ที่บางคนได้รับการปฏิบัติอย่างอภิสิทธิ์ชน ต่อกระบวนการยุติธรรม หมายถึงวันหนึ่งเราอาจจะเข้าไปส่วนหนึ่งที่อาจถูกดำเนินการ ที่อาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้คำถามคือ เราจะรู้สึกปลอดภัย หรือแฟร์ หรือไม่ และอยากฝากไปถึงข้าราชการทั้งหมด ว่าถ้าเรื่องนี้มีมูลความผิดจริง เช่นแกล้งป่วย ป่วยทิพย์ มีการใช้อำนาจไม่ชอบ อยากให้พึงละรึก ว่าที่ผ่านมามีคนจำนวนมาก พยายามช่วยคุณ…สักคนหนึ่ง และถูกดำเนินคดีติดคุกไปตั้งเยอะ อย่าไปคิดว่าการที่เราทำทุกอย่าง เพื่อบางคน สุดท้ายเราจะจะพ้น และไม่ติดคุก อยากให้ข้าราชการน้ำดีทุกคนบรรดาเหล่านาตาชาทั้งหลาย ที่รู้สึกว่าเรื่องนี้ ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ก็สามารถส่งเรื่องมาที่คณะกรรมาธิการ เราพร้อมที่จะทำหน้าที่ตรวจสอบต่อไป ในฐานะกรรมาธิการ และหวังว่าข้อมูลเหล่านี้ จะเป็นประโยชน์ ทำให้เรา และกระบวนการยุติธรรม ของเราดีกว่านี้

ส่วนที่นายทักษิณถูกฟ้องเรื่องนี้ในศาลรัฐธรรมนูญในลักษณะล้มล้างการปกครองเข้าข่ายหรือไม่ นายโรม กล่าวว่านิยามของการล้มล้างการปกครอง น่าจะต้องตีความให้แคบกว่านี้ ซึ่งต้องนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง และระบบการเมืองการปกครอง จริงๆ เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับทักษิณมาก่อน แต่เกิดขึ้นกับพวกเราพรรคก้าวไกล และหลายๆกรณี การนิยาม และตีความ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา พูดตรงตรง มีปัญหาในทางข้อกฎหมายมาก ส่วนตัวไม่ได้เห็นว่ากรณีของชั้น 14 หรืออะไรก็แล้วแต่ ไม่ได้ตีความไปถึงการเปลี่ยนการปกครองไปอีกแบบหนึ่ง ไม่น่าตีความเป็นแบบนั้น แต่ชั้น 14 ก็เขย่ากระบวนการยุติธรรม และทำลายความเชื่อมั่นของระบบยุติธรรม ของประเทศเราอย่างมาก

ส่วนที่คำร้องถูกหยิบยกเกี่ยวกับสมเด็จฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรี นายรังสิมันต์ กล่าวว่าไม่น่าจะเกี่ยว เพราะว่าประเทศไทย มีสายสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ เยอะแยะ มากมาย ในเรื่องของสมเด็จฮุนเซน เข้าใจว่าเจอกันล่าสุด ไม่น่าจะเจอกันในฐานะตัวแทนแห่งรัฐ แต่เป็นเรื่องสายสัมพันธ์ส่วนตัว เราก็วิจารณ์กันไปว่าเหมาะสมอย่างไร ตนคิดว่าสังคมไทยจะต้องตั้งหลัก เพราะเรื่องสำคัญในวันนี้คือเรื่องของกระบวนการยุติธรรม แน่นอนเราอาจจะไม่พอใจนายทักษิณหลายเรื่อง อย่างตนก็มีข้อวิพากษ์วิจารณ์หลายเรื่อง แต่เราคงไม่ถึงขั้นเอาทุกเรื่องมาผูกโยง และปนกัน ตนคิดว่าต้องแยกแยะพิจารณาตามข้อเท็จจริง วันนี้ตนทำหน้าที่ในฐานะประธานกรรมาธิการความมั่นคง ยืนยัน กับท่านทั้งหลายในที่นี้ว่า เรื่องนี้ เราตรวจสอบเฉพาะเรื่องกระบวนการยุติธรรม หากมีการดำเนินการทำตามกฏหมาย ตามข้อเท็จจริง ซึ่งฝ่ายรัฐบาล และผู้มีอำนาจเกี่ยวข้อง วันนี้ตนต้องการสปิริทจากทุกคนขอให้ช่วยกันแสดงสปิริทออกมา เอาข้อมูลมาให้กรรมาธิการ เรื่องกฎหมายมีความท้าทายหลายอย่าง ประเทศของเราวันนี้ เราต้องการคนที่มีจิตวิญญาณ อดทนไม่ได้ต่อระบบยุติธรรมที่กำลังเป็นแบบนี้ ดังนั้นขอให้ช่วยกันช่วยส่งข้อมูลมาให้เราและเราจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด

ตนทราบดีว่า เรื่องนี้เป็นแดนพิศวง จะพยายามทำเรื่องนี้คลี่คลายให้ได้มากที่สุด อย่างน้อยเราจะใช้โอกาสนี้ ทำให้กระบวนการยุติธรรมมันดีกว่าที่ผ่านมา.312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]